'ขาดแคลนชิป'ชนวนค่ายรถ'ลดผลิต-คนตกงาน'

'ขาดแคลนชิป'ชนวนค่ายรถ'ลดผลิต-คนตกงาน'

'ขาดแคลนชิป'ชนวนค่ายรถลดผลิต-คนตกงาน ขณะที่ค่ายรถทั่วโลกพยายามเพิ่มกำลังการผลิตที่หายไปในปีที่แล้วเพราะการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ผู้ผลิตรถหลายแห่งก็ทำไม่ได้เพราะเจอปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน

ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ หรือ ชิปที่สร้างความปั่นป่วนแก่อุตสาหกรรมการผลิตยนตรกรรมทั่วโลกเริ่มลุกลามเข้าไปในอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐ ค่ายรถชั้นนำสัญชาติอเมริกันหลายแห่งพร้อมใจกันลดกำลังการผลิตและมองแง่ร้ายมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดของโรคโควิด-19

เริ่มจากฟอร์ด มอเตอร์ โค วางแผนยุติการผลิตที่โรงงานแห่งหนึ่งในหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตั๊กกี้ เป็นเวลา1สัปดาห์โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์(11ม.ค.)ตามเวลาท้องถิ่นเพราะขาดแคลนชิ้นส่วนที่มีสาเหตุมาจากปริมาณเซมิคอนดักเตอร์มีจำกัด และตอนนี้แทบทุกอุตสาหกรรมล้วนใช้เซมิคอนดักเตอร์เป็นส่วนประกอบ ไล่ตั้งแต่หน้าจอแสดงผลไปจนถึงระบบการส่งกำลัง ซึ่งการลดกำลังการผลิตของค่ายรถแห่งนี้ ทำให้เกิดการเลย์ออฟชั่วคราวประมาณ 3,900 คนที่โรงงานดังดล่าวซึ่งผลิตรถเอสยูวียอดนิยมของฟอร์ดคือ ฟอร์ด เอสเคป และลินคอล์น คอร์สแอร์

ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ โค เฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ เอ็นวี และค่ายรถอื่นๆพยายามแก้ปัญหาขาดแคลนชิป จนนำไปสู่การบังคับให้ต้องลดกำลังการผลิตรถยนต์ทุกประเภทตั้งแต่รถบรรทุกปิ๊คอัพขนาดใหญ่จนถึงรถเก๋งซีดานคอมแพค

"หนึ่งในลูกค้าของเราเรียกสถานการณ์นี้ว่า "chipageddon ’ แดน ชาร์คีย์ นักกฏหมายซึ่งทำงานกับบรรดาซัพพลายเออร์รถยนต์ ให้ความเห็น

ขณะที่ค่ายรถทั่วโลกพยายามเพิ่มกำลังการผลิตที่หายไปในปีที่แล้วเพราะการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ค่ายรถหลายแห่งก็ทำไม่ได้เพราะเจอปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน ระบบการขนส่งโลกอยู่ในภาวะติดขัดการจราจรเป็นคอขวด ตลอดจนความท้าทายอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตสาธารณสุขโลก ซึ่งรวมถึงภาวะการขาดแคลนแรงงานในระดับรุนแรง

ตอนนี้ ค่ายรถทั่วโลกกำลังเร่งรับมือกับปัญหาขาดแคลนชิป ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นครั้งแรกที่โรงงานผลิตรถยนต์ในจีนช่วงปลายปีที่แล้ว ก่อนที่จะกระจายไปยังส่วนที่เหลือของโลก ขณะที่ความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่เกิดวิกฤตด้านสุขภาพ โดยเฉพาะเมื่อหลายประเทศประมาณมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้พลเมืองในประเทศต้องอยู่แต่ในบ้าน การใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆจึงพลอยสูงตามไปด้วย อุตสาหกรรมชิปทั่วโลกจึงต้องเร่งผลิตชิปให้ทันกับความต้องการ

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้บริหาร นักกฏหมายและนักวิเคราะห์ รู้สึกตกใจที่ปัญหาการขาดแคลนชิปลามเข้าสู่กระบวนการผลิตรถยนต์สหรัฐในเวลาอันรวดเร็ว โดยบริษัทหลายแห่งปรับลดคาดการณ์การผลิตตั้งแต่ช่วงสัปดาห์แรกของปีใหม่

“สถานการณ์ขาดแคลนชิปที่เกิดขึ้นในสหรัฐรวดเร็วมากจนแทบไม่น่าเชื่อ”เจฟฟ์ ชัสเตอร์ ประธานบริษัทแอลเอ็มซี ออโตโมทีฟ ซึ่งคาดการณ์ยอดขายชิปทั่วโลกให้ความเห็น

ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ใช้ชิปคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรายใหญ่เป็นคู่แข่งกับภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล ความต้องการชิปในอุตสาหกรรมรถเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทต่างๆพากันพัฒนาเทคโนโลยีในรถยนต์กันมากขึ้น หวังอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับยุคใหม่ที่นิยมเทคโนโลยีล้ำสมัย

นอกจากนี้ การที่อุตสาหกรรมรถยนต์หันไปเน้นผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งคันก็ทำให้มีความจำเป็นมากขึ้นที่อุตสาหกรรมรถยนต์ต้องใช้ระบบต่างๆบนพื้นฐานของซอฟต์แวร์มากขึ้น “รถส่วนใหญ่ทุกวันนี้มีชิปประเภทต่างๆอย่างน้อย 40 ประเภท และแบ่งเป็นชิปสำหรับรถรุ่นไฮเอนด์มากถึง 150 ประเภท ถ้ากระบวนการผลิตของบริษัทใดบริษัทหนึ่งเกิดปัญหา คุณจะจัดส่งรถไม่ได้เลย”แซม อะบูเอลซามิด นักวิเคราะห์จากไกด์เฮาส์ อินไซต์ส กล่าว

ที่จริงแล้ว ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ในอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มปรากฏเค้าลางตั้งแต่เดือนที่แล้ว เมื่อโฟล์คสวาเกน เอจี ประกาศลดกำลังการผลิตในไตรมาสแรกที่โรงงานผลิตในจีน ยุโรป และอเมริกาเหนือ เพราะประสบปัญหาขาดแคลนชิป ส่วนเจเนอรัล มอเตอร์ โค (จีเอ็ม)ส่งจดหมายถึงเหล่าซัพพลายเออร์เมื่อเดือนที่แล้ว ขอให้พวกเขาเร่งสั่งสินค้าคือชิปเก็บไว้ในสต็อกเพื่อไว้ใช้ตลอดทั้งปีเพื่อรับมือกับปัญหาขาดแคลนชิป

“การผลิตของเราในปัจจุบันไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนชิปแต่อย่างใด” โฆษกจีเอ็มกล่าว

บรรดาผู้บริหารบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ให้ค่ายรถญี่ปุ่น แต่มีฐานการผลิตในสหรัฐ บอกว่า ลูกค้าของพวกเขาเริ่มลดกำลังการผลิตที่โรงงานในอเมริกาเหนือตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยฮอนด้า กำลังลดกำลังการผลิตรถเก๋งซีดานซีวิค และแอคคอร์ดประมาณ 2,200คันในสัปดาห์นี้ในอเมริกาเหนือ

นอกจากนี้ ฮอนด้า กำลังประเมินทางเลือกต่างๆเพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนชิปที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด ส่วนโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป มีแผนลดการผลิตรถปิคอัพขนาดใหญ่รุ่นทุนดราลงประมาณ 40% โดยรถรุ่นนี้ผลิตที่โรงงานในเท็กซัส พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า ปัญหาการขาดแคลนชิปอาจจะยืดเยื่้อไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณ 21 มี.ค.-20 มิ.ย.

ส่วนนิสสัน มอเตอร์ ประกาศจะลดกำลังการผลิตรถรุ่นขายดีคือ โน้ตลงประมาณ 5,000 คันในเดือนม.ค.แต่ก็บอกว่าการลดกำลังการผลิตอาจจะลากยาวไปจนถึงเดือนก.พ.

เคพีเอ็มจี ญี่ปุ่น ระบุว่า เซมิคอนดักเตอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และรถไฟฟ้าใช้เซมิคอนดักเตอร์มากกว่ารถยนต์กินน้ำมันถึงสองเท่าตัว