สหรัฐทุ่ม2หมื่นล้านดอลล์เปลี่ยน 'มารีน วัน'

แต่มารีน วันมีมูลค่าลำละตก 400 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 12,500 ล้านบาท แล้วถ้าเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนใหม่ยกฝูง จำนวน 23 ลำ เท่ากับว่ามูลค่าในการเปลี่ยน ฮ. ประจำตำแหน่งผู้นำสหรัฐในครั้งนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 10,000 -17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 313,200 - 532,400 ล้านบาทเลยทีเดียว

ฝูงบินนาวิกโยธิน HMX-1 เดอะ ไนท์ฮอว์กส หรือเหยี่ยวราตรี เป็นผู้รับผิดชอบในการขับ และบำรุงรักษากองทัพ ฮ. ของประธานาธิบดี โดย "มารีน วันที่" ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่นไซคอร์สกี้ ซี คิง ที่กองทัพสหรัฐปลดประจำการไปตั้งแต่ยุค 90 แล้ว ที่เห็นบิน ๆ อยู่นั่นสร้างในปี 2518 ซึ่งเท่ากับว่ามีอายุ 39 ปีเลยทีเดียว

ในปี 2545 รัฐบาลสหรัฐยื่นข้อเสนอให้นำเฮลิคอปเตอร์รุ่นที่ทันสมัยกว่ามาแทนซี คิงส์ เพราะเกรงว่าผู้นำจะถูกเล่นงานภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ 9/11 โดยเสนอให้ใช้เฮลิคอปเตอร์ที่สามารถหลบหลีกขีปนาวุธที่ผู้ก่อการร้ายยิงโดยการประทับบ่าได้ แล้วยังสามารถทำงานต่อไปได้แม้กรุงวอชิงตันจะถูกถล่มด้วยอาวุธนิวเคลียร์ก็ตาม

ในปี 2548 กระทรวงกลาโหมให้ล็อกฮีดมาร์ติน และอกัสตาเวสต์แลนด์ทำสัญญาสร้าง ฮ. ประธานาธิบดี 28 ลำ มีการเซ็นสัญญามูลค่า 6,500 ล้านดอลลาร์ หรือลำละ 232 ล้านดอลลาร์ กันไปเรียบร้อยแล้ว แต่โครงการกลับพังไม่เป็นท่า

สาเหตุที่ล่มเพราะมารีน วันมีข้อเรียกร้องเยอะมาก ทั้งเรื่องขนาดที่ต้องเล็กพอจะลงจอดบนสนามด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวที่ถูกกำหนดให้เป็นลานจอด ฮ. ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ แต่ต้องใหญ่พอที่จะบรรทุกคน 14 คน และอุปกรณ์หนักหลายพันปอนด์เป็นระยะทาง 300 ไมล์ ทั้งยังต้องหุ้มเกราะ ใช้กระจก และลำตัวเครื่องกันกระสุนด้วย

ฮ. ประจำตำแหน่งผู้นำสหรัฐยังต้องมีเครื่องมือตอบโต้ขีปนาวุธนำวิถีของข้าศึก และจะต้องทนรังสีพัลส์แม่เหล็กไฟฟ้าจากการระเบิดของอาวุธนิวเคลียร์ที่อาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดตั้งแต่มือถือไปจนเฮลิคอปเตอร์ดับได้ ทั้งยังต้องมีระบบสื่อสารที่ปลอดภัย สามารถจัดวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับกองทัพสหรัฐ และผู้นำทั่วโลกได้โดยไม่ถูกสอดแนม

สุดท้ายคือ ฮ. ประจำตำแหน่งผู้นำสหรัฐจะต้องมีห้องน้ำ

ข้อแม้ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้โครงการยกเครื่องฝูง ฮ. ล้มพับไปหลายครั้งแล้ว แต่ล่าสุดมีการเซ็นสัญญากับบริษัทไซคอร์สกี้เป็นมูลค่า 1,240 ล้านดอลลาร์แล้ว โดยกองทัพสหรัฐจะได้รับมอบ ฮ. ต้นแบบที่สร้างโดยึดแบบ ฮ. ขนาดกลาง ไซคอร์สกี้ เอส-92 จำนวนสองลำในปี 2559 แล้วจะทยอยตามมาอีก 21 ลำในภายหลัง

แต่กว่า ฮ. ฝูงใหม่จะทำงานได้เต็มทีมก็ในปี 2565 โน่น