'ทรัมป์' ลงนามขยายลดหย่อนภาษีผลิตรถ 5 ปี แต่เก็บภาษีนำเข้ารถบรรทุก 25%

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อวันศุกร์ (17 ต.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐลงนามคำสั่งขยายระยะเวลาลดหย่อนภาษีการผลิตยานยนต์และเครื่องยนต์ของสหรัฐ และกำหนดภาษีใหม่ 25% สำหรับการนำเข้ารถบรรทุกขนาดกลางและรถบรรทุกหนัก และชิ้นส่วนต่างๆ พร้อมเก็บภาษีนำเข้ารถบัสที่ 10% มีผลวันที่ 1 พ.ย. นี้ 

นโยบายภาษีใหม่นี้มีจดมุ่งหมายเพื่อย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐมากขึ้น แต่อาจส่งผลกระทบต่อเม็กซิโกครั้งใหญ่ เนื่องจากเป็นประเทศส่งออกรถบรรทุกขนาดกลางและรถบรรทุกหนักไปสหรัฐรายใหญ่ที่สุด

คำสั่งภาษีใหม่นี้จะทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ได้ลดหย่อนภาษีเท่ากับ 3.75% ของราคาขายปลีกที่แนะนำในตลาดยานยนต์ที่ประกอบในสหรัฐ จนถึงปี 2030 เพื่อชดเชยกับภาษีที่ต้องเสียเพื่อนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ขยายลดหย่อนภาษี 3.75% สำหรับการผลิตเครื่องยนต์ รวมถึงรถบรรทุกขนาดกลางและรถบรรทุกหนัก

ภาษีใหม่นี้ยังครอบคลุมรถทุกประเภท ตั้งแต่รถบรรทุกคลาส 3 ไปจนถึงคลาส 8 อาทิ รถกระบะขนาดใหญ่, รถบรรทุกขนย้ายของ, รถบรรทุกขนสินค้า, รถบรรทุกเทท้าย (dump truck), รถแทรกเตอร์ 18 ล้อ

ทรัมป์ กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ภาษีเหล่านี้มีขึ้นเพื่อปกป้องผู้ผลิตจากการแข่งขันภายนอกที่ไม่เป็นธรรม และความเคลื่อนไหวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทหลายแห่ง เช่น Peterbilt และ Kenworth ของ Paccar และ Freightliner ของ Daimler Truck

คำสั่งภาษีนี้ยังช่วยผ่อนปรนภาระทางการเงินให้กับบริษัทผลิตรถยนต์อย่าง GM, Ford, Toyota Motor, Stellantis, Honda, Tesla และผู้ผลิตยานยนต์รายอื่นๆ จากภาษีที่ต้องจ่ายเพื่อนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ที่รัฐบาลทรัมป์เรียกเก็บก่อนหน้านี้

เดิมทีในเดือน มิ.ย. กระทรวงพาณิยช์สหรัฐเผยว่า อัตราลดหย่อนภาษีการผลิตที่ระดับ 3.75% ของราคาค้าปลีกที่แนะนำสำหรับรถยนต์ที่ประกอบในสหรัฐ จะขยายไปถึงเดือน เม.ย. 2026 และในปีที่ 2 จะลดเหลือ 2.5% เพื่อชดเชยภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ แต่การขยายระยะเวลาลดหย่อนภาษีการผลิต 3.75% เป็น 5 ปี และการปรับภาษีนำเข้าชิ้นส่วนต่างๆ นั้น เบอร์นี โมรีโน สมาชิกสภาพรรครีพับลิกันบอกว่า จะทำให้บริษัทรถยนต์มีแรงจูงใจในการย้ายฐานผลิตมากขึ้น

จิม ฟาร์ลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ฟอร์ด กล่าวว่า คำสั่งของทรัมป์จะช่วยให้ชิ้นส่วนรถยนต์ในสหรัฐมีราคาที่เอื้อมถึงได้ และอัตราภาษีนำเข้ารถบรรทุกขนาดใหญ่จะช่วยสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันกับสินค้านำเข้าได้มากขึ้น

เมื่อเดือน ส.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยว่าจะขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมต่อผลิตภัณฑ์มากกว่า 400 ประเภท รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์จำนวนมากที่มีมูลค่านำเข้า 2.4 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี และชิ้นส่วนที่อาจถูกเรียกเก็บ ได้แก่ ระบบไอเสียรถยนต์ และเหล็กที่จำเป็นต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนรถบัส