'ทรัมป์' ขออาเซียนจัดพิธีลงนาม 'สันติภาพไทย-กัมพูชา' โชว์บทพระเอกยุติขัดแย้ง

แหล่งข่าวรัฐบาล และนักการทูต 4 ราย เผยกับเซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ขอเป็นประธานพิธีลงนามบรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทย ในตอนที่เขาเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดอาเซียนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ปลายเดือนนี้

ในงานประชุมดังกล่าว ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หวังที่จะเจรจาผ่อนปรนภาษีทรัมป์เมื่อพวกเขาพบกับ ปธน.สหรัฐในเมืองหลวงของมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค.68 อีกด้วย ซึ่งจะยิ่งทำให้คำขอจัดพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพของทรัมป์เป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่งของงานประชุมนี้

ทั้งนี้ ความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทย และกัมพูชาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 43 รายในช่วงที่มีการต่อสู้อย่างรุนแรง 5 วันในต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา

ต่อมาสองชาติสมาชิกอาเซียนก็ตกลงเริ่มเจรจาสันติภาพ หลังจากทรัมป์ขู่ระงับการเจรจาภาษีหากทั้งสองประเทศไม่หยุดยิง แต่แรงกดดันทางการทูตเพื่อสันติภาพก็มาจากจีนที่เป็นพันธมิตรที่สำคัญของทั้งสองประเทศเช่นกัน

แหล่งข่าวนักการทูต และรัฐบาลมาเลเซีย 4 คน ยืนยันกับThis Week in Asia ของเซาท์ไชนามอร์นิงว่า ทรัมป์ต้องการพิธีเฉลิมฉลองพิเศษนอกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนเพื่อประกาศจุดยืนของตนว่าเป็นผู้เริ่มกระบวนการสันติภาพ ซึ่งนั่นจะเป็นอะไรที่เหนือกว่าการบรรลุดีลหยุดยิงเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซียเป็นผู้ไกล่เกลี่ย

“ใช่ นั่นคือเหตุผลที่เขาจะมากัวลาลัมเปอร์” แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าว

สำนักประธานาธิบดีของอันวาร์ และกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียยังไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ

ผู้นำสหรัฐที่เอาแน่เอานอนไม่ได้คนนี้กำลังทำแคมเปญเพื่อชิงรางวัลโนเบลสันติภาพในปีนี้ และได้อ้างว่าเขาสามารถทำให้ 7 ความขัดแย้งทั่วโลกยุติลงได้ในฐานะผู้นำสูงสุดในการสร้างสันติภาพ นับตั้งแต่เข้าสู่ทำเนียบขาวในเดือนม.ค.

ด้านทำเนียบขาวชี้แจงว่า พิธีดังกล่าวเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมงานประชุมในปลายเดือนนี้ ซึ่งสำนักข่าวโพลิทิโคเป็นที่แรกที่ลงแผนงานประชุมนี้

โพลิทิโคยังได้อ้างอิงแหล่งข่าวทำเนียบขาวบอกว่า ผู้จัดงานประชุมอาเซียนได้รับคำขอว่าไม่ให้เจ้าหน้าที่จีนเข้าร่วมงานด้วย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายที่สองเผยว่า วอชิงตันยังไม่ยื่นคำขาดให้กับมาเลเซีย ผู้เป็นประธานอาเซียน และเจ้าภาพงานประชุมในปีนี้ โดยบอกว่าพิธีอาจเกิดขึ้นแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

เซาท์ไชนามอร์นิง ระบุว่า งานประชุมอาเซียนในปีนี้อาจมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ นอกจากทรัมป์แล้วยังมีผู้นำ และผู้แทนระดับสูงจากหลายประเทศเข้าร่วมด้วย อาทิ หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน, นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย, ลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล และ ซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้

งานประชุมนี้อาจมีการหารือทวิภาคีระหว่างทรัมป์ และสมาชิกอาเซียนทั้งหมด 10 ประเทศ เพื่อรักษาดีลการค้าที่ดีขึ้นกับสหรัฐ จากเดิมที่เคยจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากชาติอาเซียนราว 10-40%

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์