‘ไล่ ชิงเต๋อ’ ชี้ทรัมป์ได้โนเบลสันติภาพแน่ ถ้ากล่อม 'สี จิ้นผิง' เลิกใช้กำลังกับไต้หวันได้

ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อของไต้หวัน ให้สัมภาษณ์กับสื่อสหรัฐ แนะปธน.ทรัมป์ได้รางวัลโนเบลแน่ ถ้าโน้มน้าวสี จิ้นผิง เลิกใช้กำลังทหารกับไต้หวันได้
ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของ ไต้หวัน ให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุและพอตแคสต์อนุรักษนิยมของสหรัฐว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ควรได้รับรางวัล โนเบลสันติภาพ หากสามารถโน้มน้าวให้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เลิกใช้กำลังกับไต้หวันได้
“เราหวังจะได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบบดีทรัมป์อย่างต่อเนื่อง หากประธานาธิบดีทรัมป์โน้มน้าวสี จิ้นผิง เลิกรุกรานทางทหารต่อไต้หวันอย่างถาวร ประธานาธิบดีทรัมป์คงจะได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพอย่างไม่ต้องสงสัย” ไล่กล่าว
ไล่ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Clay Travis and Buck Sexton Show ซึ่งเป็นรายการที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุทอล์กโชว์กว่า 400 สถานี และได้กล่าวถึงความเห็นที่ทรัมป์เคยให้ไว้เมื่อเดือนส.ค.ว่า สี จิ้นผิง บอกเขาว่า จีนจะไม่รุกรานไต้หวันในขณะที่เขา (ทรัมป์) ยังคงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวไว้ว่าเขาสมควรได้รับการยกย่องเช่นเดียวกับประธานาธิบดีสหรัฐ 4 คนก่อนหน้านี้ และ รางวัลโนเบลสันติภาพ ในปีนี้จะประกาศที่กรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ในวันศุกร์ (10 ต.ค.) ขณะที่ทรัมป์อาจได้พบกับสีในงานประชุมผู้นำเอเชียแปซิฟิก (เอเปค) ในเกาหลีใต้ปลายเดือนนี้
นอกจากนี้ เมื่อถาม ไล่ ชิงเต๋อว่า เขาจะบอกประธานาธิบดีสหรัฐหรือไม่หากได้พบกัน ปธน.ไต้หวัน กล่าวว่าเขาจะแนะนำทรัมป์ให้ใส่ใจการกระทำของ สี จิ้นผิง
“ผมจะแนะนำให้เขาใส่ใจในความจริงที่ว่าสี จิ้นผิงไม่เพียงแต่ขยายการซ้อมรบทางทหารใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในช่องแคบไต้หวัน แต่ยังขยายกองทัพในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้” ปธน.ไล่ กล่าว ตามบันทึกสุนทรพจน์ที่สำนักประธานาธิบดีไต้หวันเผยแพร่ในวันอังคาร (7 ต.ค.)
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเอกสารดังกล่าวเผยแพร่ กระทรวงกลาโหมไต้หวันรายงานว่าได้พบความเคลื่อนไหวของกองทัพจีนเพิ่มขึ้นอีก โดยมีเครื่องบินทหารและโดรน 23 ลำ ลาดตระเวนเตรียมรบร่วมรอบเกาะพร้อมกับเรือรบจีน
ไล่กล่าวด้วยว่า ความท้าทายที่เกิดขึ้นขยายออกไปมากกว่าการรวบไต้หวัน หากไต้หวันถูกควบรวม จีนจะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อแข่งขันกับสหรัฐในเวทีโลก และทำลายระเบียบระหว่างประเทศ
"ในที่สุด นี่จะกระทบผลประโยชน์ของชาติสหรัฐ ดังนั้น ผมหวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะยังคงรักษาสันติและความมั่นคงในอินโดแปซิฟิก"
กระทรวงการต่างประเทศจีนยังไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องนี้ทันทีที่รอยเตอร์สติดต่อไป







