ผมโทษตัวเองที่ ‘ไม่ใส่ใจพอ’ ซีอีโอบริษัทน้ำมันเผย หลังปลดคนออก 25%

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ไรอัน แลนซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “ConocoPhillips” บริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่อันดับสามของสหรัฐ กล่าวกับพนักงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า หนึ่งในสาเหตุที่ต้อง “ตัดลดพนักงานมากถึง 25%” เป็นเพราะบริษัทสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน หลังจากมุ่งเน้นไปที่การซื้อกิจการคู่แข่งรายเล็ก ๆ

ในการประชุม Town Hall ที่สำนักงานใหญ่ฮุสตัน แลนซ์กล่าวกับพนักงานว่า ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัททุ่มความสำคัญไปกับ “การซื้อกิจการ” มากกว่าการบริหารต้นทุน

- ปี 2021 ซื้อบริษัทสำรวจพลังงาน Concho Resources มูลค่า 9,700 ล้านดอลลาร์

- ปีเดียวกัน ทุ่ม 9,500 ล้านดอลลาร์ ซื้อสินทรัพย์ในแอ่งน้ำมันเพอร์เมียน (ตั้งอยู่ทางตะวันตกของรัฐเท็กซัส และทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐนิวเม็กซิโก) จากบริษัทน้ำมัน Shell

- ปีที่แล้ว คว้า Marathon Oil บริษัทสำรวจไฮโดรคาร์บอน ด้วยมูลค่า 22,500 ล้านดอลลาร์

แลนซ์ยอมรับว่า “ค่าใช้จ่ายและความสามารถในการแข่งขัน ถูกละเลยไปอยู่เบื้องหลัง” และโทษตัวเองที่ “ไม่ใส่ใจมากพอ” จนทำให้ต้นทุนต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้นจาก 11 ดอลลาร์ในปี 2021 เป็น 13 ดอลลาร์ในปี 2024 ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของรายได้และการผลิต

แลนซ์ได้กล่าวเรื่องนี้กับพนักงานในการประชุม เพียงหนึ่งวันหลังจากที่เขาส่งวิดีโอแจ้งพนักงานเกี่ยวกับ “การเลิกจ้าง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่มุ่งเน้นการลดต้นทุน

“เหมือนกับว่าแลนซ์ปล่อยมือจากพวงมาลัย” แหล่งข่าวจาก ConocoPhillips ที่เข้าร่วมประชุม Town Hall เมื่อวันพฤหัสบดีกล่าว โดยแหล่งข่าวรายนี้ ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้พูดในที่สาธารณะระบุว่า แม้พวกเขาจะชื่นชมในความตรงไปตรงมาของแลนซ์ แต่ก็รู้สึกว่า เขาหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามบางข้อ

ขณะเดียวกัน มีพนักงานถามขึ้นในที่ประชุมว่า บริษัทจะเลิกจ้างอย่างเป็นธรรมและให้เกียรติพนักงานได้อย่างไร บรรยากาศโดยรวมเต็มไปด้วยความผิดหวังและความหงุดหงิด แหล่งข่าวระบุ

สำหรับเหตุการณ์ปลดพนักงานของโคโนโคฟิลลิปส์ ถือเป็นความท้าทายล่าสุดที่ถาโถมใส่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมันและก๊าซ ในช่วงที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้นและราคาที่ลดลง ขณะที่ OPEC+ เดินหน้าผลิตเพิ่ม เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดกลับคืน

เขากล่าวเสริมในที่ประชุม Town Hall วันพฤหัสบดีว่า “นี่แหละคือปัญหาของเรา ต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการผลิตและรายได้ ซึ่งกำลังกัดกินส่วนต่างกำไร และแน่นอนว่า เราไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนี้ดำเนินไปแบบนั้นได้ตลอด”

อ้างอิง: Reuters