'กรรมการเฟด' แข็งข้อปฏิเสธลาออก ท้าทายคำสั่งทรัมป์ กรณีข้อหาโกงสินเชื่อ

'กรรมการเฟด' แข็งข้อปฏิเสธลาออก ท้าทายคำสั่งทรัมป์ กรณีข้อหาโกงสินเชื่อ

ลิซ่า คุก หนึ่งในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ ปฏิเสธที่จะลาออกจากตำแหน่ง แม้จะถูกประธานาธิบดีทรัมป์ กดดันจากข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงสินเชื่อ ข้อกล่าวหานี้ถูกหยิบยกโดยหน่วยงานกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งทรัมป์ได้ใช้เป็นเหตุผลในการเรียกร้องให้คุกลาออกผ่านโซเชียลมีเดีย

KEY

POINTS

  • ลิซ่า คุก หนึ่งในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐปฏิเสธที่จะลาออกจากตำแหน่ง แม้จะถูกประธานาธิบดีทรัมป์กดดันจากข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงสินเชื่อ
  • ข้อกล่าวหานี้ถูกหยิบยกโดยหน่วยงานกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งทรัมป์ได้ใช้เป็นเหตุผลในการเรียกร้องให้คุกลาออกผ่านโซเชียลมีเดีย
  • การกดดันครั้งนี้ถูกมองว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง เพื่อเปิดทางให้ทรัมป์สามารถแต่งตั้งบุคคลใหม่เข้ามาแทนที่ ท่ามกลางความขัดแย้งเรื่องนโยบายดอกเบี้ย

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ลิซ่า คุก คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณว่าเธอจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปซึ่งขัดต่อแรงกดดันจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้คุก ลาออกผ่านข้อกล่าวหาที่เชื่อมโยงกับการฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย 

“ดิฉันไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่ให้ดิฉันลาออกจากตำแหน่งเพียงเพราะคำถามคำเดียวที่ถูกยกขึ้นมาในทวีต”

คุก กล่าวแถลงผ่านอีเมล พร้อมอธิบายเสริมว่า “ดิฉันพร้อมจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของตัวเองในฐานะคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ และตอนนี้กำลังเตรียมข้อมูลเพื่อตอบคำถามทั้งหมดด้วยข้อเท็จจริง”

ด้านบิล พัลท์ ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งสหพันธรัฐ (Federal Housing Finance Agency) หรือ FHFA เพิ่งเรียกร้องให้ แพม บอนดี อัยการสูงสุด สอบสวนคุก เรื่องสินเชื่อที่อยู่อาศัย 2 ฉบับ หลังจากที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเรื่องการส่งเรื่องนี้เมื่อเย็นวันอังคาร ทรัมป์ก็เรียกร้องให้คุกลาออกในโพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อเช้าวันพุธ
 

บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า หากคุก ออกจากตำแหน่งจะส่งผลให้ทรัมป์มีอำนาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เข้ามาแทนเธอ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทำเนียบขาวเรียกร้องให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยอย่างหนัก รวมทั้งกล่าวร้ายถึง เจอโรม พาวเวลล์ ผู้ว่าการเฟดว่า ทำงานพลาดที่ไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยไปตั้งแต่หลายเดือนก่อน ดังนั้นจึงแนะนำให้เขาลาออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ ทั้งทรัมป์ และพัลท์ วิพากษ์วิจารณ์พาวเวลล์อย่างหนักเรื่องต้นทุนของโครงการปรับปรุงสำนักงานของเฟดที่กำลังสร้างอยู่

พัลท์ เขียนจดหมายถึงบอนดี และเอ็ด มาร์ติน หนึ่งในเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 ว่า คุกอาจมีความผิดทางอาญา โดยกล่าวหาคุก ว่า “ปลอมแปลงเอกสารธนาคาร และเอกสารทรัพย์สินเพื่อให้ได้เงื่อนไขการกู้ยืมที่ดีกว่าเดิม ซึ่งอาจเป็นการฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัยภายใต้กฎหมายอาญา”

ปัจจุบัน ยังไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ และยังไม่ชัดเจนว่าบอนดีจะสอบสวนหรือไม่ กระทรวงยุติธรรมเคยปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับจดหมายของพัลท์

หลังจากที่แถลงการณ์ของคุก ถูกเผยแพร่ พัลท์โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า "เขียนอะไรก็ได้ที่คุณหรือทนายของคุณต้องการ คุณคุก คุณถูกจับได้แล้วจากเอกสารสินเชื่อ ไม่ใช่จากทวีต"
 

ในการสัมภาษณ์ช่วงเย็นวันพุธกับลอร่า อิงกราแฮม ทางช่อง Fox News พัลท์ กล่าวว่า หากคุกไม่ลาออก

“ผมเชื่อว่าประธานาธิบดีมีเหตุผลที่จะไล่เธอออก”

นอกจากนี้ รัฐบาลของทรัมป์ยังกล่าวหาข้อหาเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคเดโมแครตด้วย ประกอบด้วย อดัม ชิฟฟ์ วุฒิสมาชิกแคลิฟอร์เนีย และ เลทิเทีย เจมส์ อัยการสูงสุดนิวยอร์ก ทั้งสองคนเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของทรัมป์มายาวนาน และทั้งสองได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

พัลท์ กล่าวในการสัมภาษณ์ทาง CNBC เมื่อวันพุธว่า การฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัยนี้เป็น “ภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่” ของธนาคารเพื่อการกู้ยืมที่อยู่อาศัยแห่งสหพันธรัฐที่หน่วยงานของเขาดูแล

"เราจะดำเนินคดี" เขากล่าว

แต่การที่ FHFA เลือกตรวจสอบสินเชื่อผู้บริโภครายบุคคลเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้น

เบน คลูเบส อดีตรองที่ปรึกษากฎหมายหลัก และที่ปรึกษากฎหมายรักษาการของกระทรวงที่อยู่อาศัย และการพัฒนาเมืองของสหรัฐอมริกา (U.S. Department of Housing and Urban Development) ภายใต้รัฐบาลไบเดน กล่าวว่า จากประสบการณ์ของเขา การตรวจสอบเอกสารในระดับสินเชื่อรายฉบับอย่างเข้มข้นเป็นเรื่องผิดปกติ

“หากนี่เป็นการตรวจสอบแบบสุ่มตามปกติจริงๆ การที่ผลลัพธ์ออกมาเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐพรรคเดโมแครต 3 คน และการที่การส่งเรื่องเหล่านั้นถูกเผยแพร่รายละเอียดเป็นเรื่องผิดปกติ”

เอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกแมสซาชูเซตส์ และหัวหน้าพรรคเดโมแครตในคณะกรรมการวุฒิสภาที่มีหน้าที่กำกับดูแลหน่วยงานของพัลท์ กล่าวว่า รัฐบาลทรัมป์ “ไม่ควรใช้รัฐบาลกลางเป็นอาวุธเพื่อไล่กรรมการธนาคารกลางที่เป็นอิสระออกอย่างผิดกฎหมาย”

“ผมสนับสนุนการให้เจ้าหน้าที่เฟดรับผิดชอบต่อการตัดสินใจต่างๆ ที่ผิดพลาดมายาวนานแล้ว” วอร์เรนกล่าวในแถลงการณ์ทางอีเมล “แต่ทุกคนก็เห็นได้ว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามหาข้ออ้างเพื่อข่มขู่หรือไล่ผู้ว่าการพาวเวลล์และกรรมการธนาคารกลางสหรัฐออก ขณะเดียวกันก็โทษทุกคนยกเว้นตัวเองเรื่องนโยบายเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของเขาที่ทำร้ายชาวอเมริกัน”

 

 

 

อ้างอิง: Bloomberg 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์