เปิดชีวิตค็อปแลน หนุ่ม 27 ปี ขึ้นเป็น ‘เศรษฐีพันล้าน’ ด้วยธุรกิจทำนายอนาคต

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า “การคาดการณ์” ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงหุ้น ทอง คริปโทฯ หรือตัวเลขการเงินอีกต่อไป หากขยายไปสู่เรื่องการเมือง การแข่งขัน ผลกีฬา โปรเจกต์ระดับโลก การเลือกตั้ง ไปจนถึงเหตุการณ์สำคัญของสังคม และยิ่งไปกว่านั้น หากใครคาดการณ์ถูกก็ “ได้เงินจริง” แต่ถ้าคาดการณ์ผิดก็ “เสียเงินจริง” เช่นกัน

นี่คือจักรวาลของ “Polymarket” แพลตฟอร์มตลาดการทำนายอนาคตที่เปิดให้ผู้คน ใช้ “เงิน” เป็นตัวชี้วัดความมั่นใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เพียงการออกความเห็นลอย ๆ

แพลตฟอร์มแห่งนี้เองที่ได้กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของ “เชย์น ค็อปแลน” (Shayne Coplan) ผู้ก่อตั้งหนุ่มไฟแรง ซึ่ง “อายุเพียง 27 ปี” ก็สามารถก้าวขึ้นเป็น “มหาเศรษฐีพันล้าน” จากการขับเคลื่อนธุรกิจทำนายอนาคตบนโลกบล็อกเชน

สำหรับคำถามที่ Polymarket เปิดให้ผู้คนลงเงินทำนายผล ตัวอย่างเช่น

- ใครจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2028? เจดี แวนซ์ หรือเกวิน นิวซัม

- สงครามรัสเซีย-ยูเครน จะหยุดยิงได้ก่อนสิ้นปีหรือไม่?

- หุ้น Google จะขึ้นไปแตะราคาเท่าไหร่ก่อนปี 2026?

- ทรัมป์จะพูดคุยกับผู้นำคนไหนในเดือนธันวาคม? 

- ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิโลกปีนี้จะสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ไหม?

สิ่งที่ทำให้ Polymarket แตกต่างจากโซเชียลมีเดียหรือแบบสำรวจความคิดเห็นทั่วไป คือ ไม่ใช่เพียงคนคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่คน “ยอมวางเงินจริง” บนสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่าจะเกิดขึ้น

เมื่อรวมผลการเดิมพันของคนจำนวนมากทั้งหมด (Wisdom of the Crowd) ผลลัพธ์ดูเหมือนแม่นยำกว่าการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ เหมือนเป็น “ลูกแก้วพยากรณ์” ที่สะท้อนมุมมองของมวลชน

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด บน Polymarket มีการวางเงินเดิมพันสูงถึง 3,600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท) ในคำถามเดียวว่า “ใครจะได้ประธานาธิบดีสหรัฐ” ผู้คนบน Polymarket ส่วนใหญ่ลงเงินทายว่า ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2024
ขณะที่นักวิเคราะห์การเมืองระดับชาติ ผู้เชี่ยวชาญ และสื่อกระแสหลักจำนวนมากล้วนมั่นใจว่า คามาลา แฮร์ริสจะเป็นผู้ชนะ

เมื่อผลเลือกตั้งปี 2024 ออกมา ปรากฏว่าหักธงหลายสำนัก ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งทั้งรัฐสมรภูมิ-ป็อปปูลาร์โหวต รวมถึงพรรคทรัมป์ครองเสียงข้างมากทั้ง 2 สภา

การได้เป็นเศรษฐีพันล้าน ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค

กว่าจะมาเป็นแพลตฟอร์มที่ชาวอเมริกันใช้ถกเถียง แลกเปลี่ยนมุมมอง และเดิมพันกันอย่างคึกคักเหมือนทุกวันนี้ เส้นทางของค็อปแลนไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค แต่ผ่านการลองผิดลองถูกและล้มเหลวมานับไม่ถ้วน

ย้อนไปในวันที่โลกยังไม่รู้จักชื่อค็อปแลน เด็กหนุ่มวัย 14 ปีคนหนึ่งกำลังกดส่งอีเมลไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) พร้อมคำถามที่ไม่มีใครคาดคิดจากเด็กม.ปลาย

“จะสร้างตลาดออนไลน์ใหม่ ต้องทำอย่างไร?”

- เชย์น ค็อปแลน (ภาพ: Polymarket) -

แม้เขาไม่ได้รับคำตอบ แต่เหตุการณ์นี้คือจุดเริ่มต้นของความหมกมุ่นระยะยาวของค็อปแลน เด็กที่ไม่ได้สนใจเกมหรือกีฬาเหมือนเด็กวัยเดียวกัน แต่กลับหมกมุ่นกับ “ตลาด” และความคิดเกี่ยวกับการซื้อขายระหว่างคนจำนวนมาก

นี่ไม่ใช่ความสนใจชั่วคราว แต่คือเมล็ดพันธุ์ที่ค่อย ๆ เติบโตในหัวเขานานกว่าทศวรรษ ก่อนจะงอกออกมาเป็นธุรกิจจริง

สองปีถัดมา เมื่ออายุ 16 ค็อปแลนอยากได้ประสบการณ์ทำงานด้านเทค เขาส่งอีเมลหลายฉบับไปยังบริษัทอินเทอร์เน็ตชื่อ Genius เพื่อขอฝึกงาน แต่ไม่มีใครตอบกลับ

แทนที่จะยอมแพ้ เขาตัดสินใจเดินเข้าบริษัทโดยไม่ได้นัดหมาย

นี่คือ “การเดิมพัน” เขาจะถูกไล่กลับบ้าน หรือจะทำให้คนจดจำเขาได้?

ผลคืออย่างหลัง ที่ออฟฟิศ ทุกคนจำเขาได้จากภาพจำง่าย ๆ คือ ผมหยิกยุ่ง บุคลิกกระตือรือร้นเกินวัย และ “สารานุกรมมนุษย์” ที่จำชื่อและผลงานของผู้ประกอบการเทคระดับพันล้านได้จนคนรอบตัวทึ่ง

ในที่สุด ตัวเขาก็ได้ฝึกงาน และเมื่อถึงเวลา คริส เกลเซก ผู้จัดการของเขาถึงขั้นเขียนจดหมายรับรองเข้ามหาวิทยาลัยให้ว่า “ถ้าเขาเลือกเป็นผู้ประกอบการเทค ชื่อของเขาจะต้องปรากฏบนหน้าสื่ออีกแน่นอน”

ค็อปแลนได้เข้าเรียนด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่เส้นทางคริปโต เขาตัดสินใจดรอปเรียนในปี 2017 เพื่อสร้างโปรเจกต์ต่าง ๆ บนบล็อกเชน แต่ปรากฏว่าไม่สำเร็จเลยสักโครงการ

ต่อมาในปี 2020 โลกอยู่ในภาวะปั่นป่วนจากโควิด-19 ข่าวปลอม และข้อมูลผิดแพร่กระจายไปทุกที่ ค็อปแลนเห็นปัญหาว่า จะรู้ความจริงได้อย่างไร เมื่อข้อมูลที่ได้รับมาจากความเห็น ไม่ใช่ความจริง?

เขาจึงสร้าง Polymarket แพลตฟอร์มที่เปิดให้คน “เดิมพัน” ว่า เหตุการณ์ในอนาคตจะเกิดขึ้นหรือไม่ แทนที่จะเถียงว่าอะไรจะเกิดขึ้น ให้ใช้เงินวางเดิมพัน แล้วปล่อยให้ข้อมูลของ “ฝูงชน” บอกคำตอบ

ตลาดแรกของบริษัทถามเพียงหนึ่งคำถาม นิวยอร์กซิตี้จะเปิดเมืองเมื่อไหร่?

ไม่นานความนิยม Polymarket ก็ระเบิดขึ้น จากคำถามเฉพาะทาง สู่คำถามระดับโลก เช่น การเลือกตั้ง กีฬา ป๊อปคัลเจอร์ สงคราม เหตุการณ์เศรษฐกิจ เพราะทุกคนต้องการรู้อนาคต และทุกคนมีมุมมองที่จะแลกเปลี่ยนกัน

ชีวิตเหมือนรถไฟเหาะ โดนปรับเงินหนัก-โดน FBI บุกบ้าน

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของค็อปแลนไม่ได้ทอดยาวอย่างราบรื่นสู่ความสำเร็จ หากเต็มไปด้วยแรงปะทะจากหน่วยงานกำกับดูแล และความสงสัยจากสังคมในย่างก้าวการเติบโต

ปี 2022 ถือเป็นจุดหักเหครั้งใหญ่ครั้งแรกของ Polymarket เมื่อสำนักงานกำกับดูแลสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าแห่งสหรัฐ (CFTC) สั่งปรับบริษัทเป็นมูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 44 ล้านบาท) พร้อมสั่งให้บล็อกผู้ใช้ในสหรัฐทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมายอนุพันธ์ของสหรัฐ อีกทั้งตลาดทำนายอนาคตบนแพลตฟอร์มมีลักษณะคล้าย “การพนันที่แฝงตัวในรูปเทคโนโลยี” มากกว่าจะเป็นระบบข้อมูลเพื่อการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจและสังคมตามที่ผู้ก่อตั้งพยายามวางจุดยืน

นั่นเป็นเหมือนการตัดเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจในประเทศบ้านเกิด และสร้างแรงกระแทกหนักถึงตัวค็อปแลนทั้งด้านชื่อเสียง รายได้ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน

บาดแผลนี้ยังไม่สิ้นสุด อีกสองปีถัดมา ในปี 2024 ระหว่างที่ Polymarket กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางจากการคาดการณ์ศึกเลือกตั้งสหรัฐ หน่วยงานรัฐเข้าจู่โจมอีกครั้ง โดยคราวนี้คือ หน่วยงาน FBI เข้าบุกค้นอพาร์ตเมนต์ของค็อปแลน และยึดอุปกรณ์ทั้งหมดในฐานะส่วนหนึ่งของการสอบสวนการดำเนินธุรกิจในสหรัฐ

แม้จะเป็นเพียงกระบวนการสืบสวน แต่สัญญาณที่ส่งถึงสื่อและสาธารณะกลับรุนแรงยิ่งกว่า เมื่อสำนักข่าวหลายแห่งเริ่มตั้งคำถามว่า ค็อปแลน คือผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่กำลังพลิกโฉมวงการ หรือเป็นเพียงคนที่สร้าง “คาสิโนออนไลน์ในคราบเทคโนโลยีล้ำสมัย” กันแน่

ในวัยเพียง 26 ปี เขาต้องยืนอยู่ท่ามกลางความกดดันมหาศาล ทั้งการโจมตีจากสื่อ ความเคลือบแคลงจากสังคม การปรับขนาดธุรกิจจากการถูกปิดกั้นตลาดสหรัฐ และความไม่แน่นอนว่าบริษัทที่เขาสร้างมา จะถูกพับลงกลางอากาศหรือไม่

สถานการณ์ในเวลานั้นบอกค็อปแลนอย่างชัดเจนว่า เขาควร “หยุด” แต่เขากลับเลือกที่จะ “เดินหน้าเสี่ยงต่อ”

เจ้าของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ลงทุน Polymarket 6 หมื่นล้าน

ในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2024 ยอดเงินเดิมพันบน Polymarket พุ่งทะยานเป็นประวัติการณ์ถึง 3,600 ล้านดอลลาร์ และกระแสเดิมพันในแพลตฟอร์มชี้ชัดว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” จะเป็นผู้ชนะ ซึ่งสวนทางกับผลสำรวจความคิดเห็นและการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ เมื่อผลเลือกตั้งประกาศออกมา ความแม่นยำของ Polymarket กลายเป็นกระแสระดับโลกทันที

ชื่อของค็อปแลนถูกพูดถึงในทุกสื่อทางการเงิน และโชคชะตาก็หันกลับมาเข้าข้างเขาในจังหวะที่ไม่มีใครคาดคิด

ต้นปี 2025 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และสำนักงานกำกับดูแลสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าแห่งสหรัฐ (CFTC) ในยุครัฐบาลทรัมป์ “ยุติการสอบสวน Polymarket ทั้งหมด”

ต่อมาโชคก้อนใหญ่ก็เข้ามา เมื่อชายคนหนึ่งในโลกการเงินซึ่งยืนอยู่บนปลายยอดพีระมิดของวอลล์สตรีท อย่างเจฟฟรีย์ สปรีเชอร์ ซีอีโอของ Intercontinental Exchange บริษัทแม่ของตลาดหุ้นนิวยอร์ก NYSE ตัดสินใจติดต่อค็อปแลน และชวนเขาไปดินเนอร์

จากเด็กที่เคยถูกมองว่ากำลังสร้าง “บ่อนเสี่ยงโชคดิจิทัล” วันนี้เขากลับได้นั่งฝั่งเดียวกับผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในระบบการเงินของโลก

ผลลัพธ์ของมื้ออาหารเพียงมื้อเดียวพลิกธุรกิจทั้งอุตสาหกรรม Intercontinental เข้าลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 64,000 ล้านบาท) เพื่อถือหุ้น 25% ใน Polymarket

นี่จึงเหมือนแม่เหล็กดึงดูดให้นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีจากซิลิคอนวัลเลย์ วงการเกม คริปโทฯ เทคโนโลยี และเฮดจ์ฟันด์ ต่างแห่เข้ามาเป็นพันธมิตรด้วย จนทำให้มูลค่าบริษัท Polymarket ไต่ขึ้นสู่ 9,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.8 แสนล้านบาท) และเชย์น ค็อปแลน กลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้านอายุน้อยที่สุดในโลก ในวัยเพียง 27 ปี

เมื่อสื่อพากันถามถึง “สูตรความสำเร็จ” ของเขา ค็อปแลนไม่ได้พูดถึงโชคจังหวะ โอกาสถูกที่ถูกเวลา หรือคำว่าฟลุ๊คแบบที่หลายคนคาดหวัง เขาเพียงสะท้อนให้เห็นผ่านแววตาและน้ำเสียงว่า สิ่งที่พาเขามาถึงวันนี้ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แต่คือการ “ไม่ยอมหยุด” แม้ในวันที่ทุกคนรอบตัวมองว่า หนทางข้างหน้าควรจะจบลงแล้ว

อ้างอิง: forbes, cbsnews, bloomberg, polymarket