เฟดเสียงแตก ส่วนใหญ่กลัวเงินเฟ้อสูงมากกว่าตลาดแรงงานอ่อนแอลง

บลูมเบิร์ก รายงานว่ากรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่มีมากกว่าความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าได้กระตุ้นให้เกิดความแตกแยกที่เพิ่มมากขึ้นภายในคณะกรรมการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า มีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการจ้างงานที่อ่อนแอลง แต่ผู้กำหนดนโยบาย 18 คนที่เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ “ประเมินว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเป็นความเสี่ยงที่สูงกว่าในสองความเสี่ยงนี้” 

ตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ระหว่างวันที่ 29-30 กรกฎาคม

 

ผู้กำหนดนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมในช่วง 4.25- 4.5% ในเดือนที่แล้ว โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปี แถลงการณ์ของพวกเขาในขณะนั้นระบุว่าตลาดแรงงาน “แข็งแกร่ง” แต่ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อยังคง “ค่อนข้างสูง”

หลายคนกล่าวว่าพวกเขามองว่าความเสี่ยงจากภารกิจคู่นี้ค่อนข้างสมดุลกัน ตามที่ปรากฏในรายงานการประชุม ขณะที่บางคนกล่าวว่าพวกเขากังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานมากกว่า แม้ว่ารายงานการประชุมจะไม่ได้ระบุชื่อผู้กำหนดนโยบาย แต่คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ และมิเชลล์ โบว์แมน สองในคณะผู้ว่าการธนาคารกลาง ได้ลงมติคัดค้านการตัดสินใจดังกล่าว โดยชี้ให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่กำลังอ่อนแอลง

ในการแถลงข่าวหลังการประชุม ประธานเจอโรม พาวเวล กล่าวว่าผลกระทบจากภาษีศุลกากรต่อเงินเฟ้ออาจเป็นเพียงชั่วคราว แต่ธนาคารกลางจำเป็นต้องป้องกันผลกระทบที่อาจจะยืดเยื้อ

สมาชิกคณะกรรมการเฟดได้ถกเถียงกันว่ากำแพงภาษีศุลกากรจะส่งผลกระทบต่อราคาเพียงรอบเดียวหรือจะเป็นภาวะช็อกจากเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อกว่า

กังวลเงินเฟ้อคาดการณ์หลุดกรอบ

“ผู้เข้าร่วมประชุมหลายคนเน้นย้ำว่าอัตราเงินเฟ้อสูงเกิน 2% เป็นเวลานาน สถานการณ์นี้เพิ่มความเสี่ยงที่การคาดการณ์แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในอนาคตจะหลุดออกจากกรอบไป หากภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อในระยะยาว” รายงานการประชุมระบุ

เจ้าหน้าที่หลายคนยังตั้งข้อสังเกตว่าอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าที่ผลกระทบทั้งหมดของภาษีศุลกากรจะส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการอุปโภคบริโภคอย่างเต็มที่

รายงานการประชุมดังกล่าวมีขึ้นสองวันก่อนที่พาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ที่แจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งเป็นเวทีที่เขาเคยใช้ชี้นำความคาดหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดสนับสนุนมุมมองที่ระมัดระวังต่อเงินเฟ้อ แต่บั่นทอนความเชื่อมั่นในตลาดการจ้างงาน

อัตราเงินเฟ้อที่วัดโดยดัชนีราคาผู้ผลิตพุ่งสูงสุดในรอบสามปี เป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆ ได้เริ่มปรับขึ้นราคาเพื่อชดเชยต้นทุนปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้น เจ้าหน้าที่เฟดบางคนแสดงความกังวลว่าการจัดเก็บภาษีจะส่งผลกระทบต่อราคาไปจนถึงปีหน้า

 

• ภาพรวมการจ้างงาน

แต่การปรับใหม่ตัวเลขครั้งใหญ่ของอัตราการจ้างงานเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในตลาดแรงงานในช่วงสามเดือนจนถึงเดือนกรกฎาคม อัตราการจ้างงานอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นแตะ 4.2%

ผู้กำหนดนโยบายจะได้รับรายงานการจ้างงานฉบับใหม่และข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มเติมก่อนการประชุมอีกครั้งในช่วงกลางเดือนกันยายน

รายงานการประชุมยังออกมาหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องให้ลิซ่า คุก หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ลาออก หลังจากที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลกล่าวหาเธอว่าฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ทรัมป์เรียกร้องหลายครั้งให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขาและรายชื่อผู้สมัครที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่กำลังพิจารณาเพื่อสืบทอดตำแหน่งต่อจากพาวเวล เมื่อวาระการดำรงตำแหน่งของเขาสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แสดงความเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% ภายในเดือนกันยายน

รายงานการประชุมแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ได้หารือกันเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงิน โดยหลายคนชี้ให้เห็นถึง "ความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้น"