ส่งออกเวียดนามโตทะยาน 16% แห่ตุนสินค้าก่อนภาษี 20% เริ่ม 7 ส.ค.68 นี้
ตัวเลขการค้า 'เวียดนาม' เดือนก.ค. โตแรงกว่าคาดการณ์ ส่งออกไป 'สหรัฐ' พุ่ง 26% สอดคล้องนำเข้าจาก 'จีน' ทะยาน 30% ผู้ซื้อแห่ตุนก่อนอัตราภาษีใหม่ 20% จะมีผลบังคับใช้ 7 ส.ค.68 นี้ ในขณะที่ภาษีสวมสิทธิ Transshipment 40% ยังไม่มีความแน่ชัด
สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญล่าสุดว่า การส่งออกของเวียดนามในเดือนก.ค. ขยายตัวขึ้นถึง 16% เมื่อเทียบปีก่อน อยู่ที่ 4.23 หมื่นล้านบาท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 14% โดยประเทศผู้ซื้อพยายามเร่งนำเข้าจากเวียดนามก่อนที่ภาษีนำเข้าสหรัฐในอัตรา 20% จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 ส.ค.68 นี้
การส่งออกไปยัง "สหรัฐ" ปรับตัวเพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน สู่ระดับ 1.42 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าจาก "จีน" เพิ่มขึ้น 30.5% สู่ระดับ 1.67 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้การส่งออกสุทธิไปยังสหรัฐคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 5 ของจีดีพีเวียดนาม แต่ภาษีศุลกากรสหรัฐจะเป็นภัยคุกคามต่อโรงงานผลิตในเวียดนามที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากที่บริษัทต่างๆ กระจายห่วงโซ่อุปทานออกจากจีน
นอกจากการส่งออกแล้ว การนำเข้าของเวียดนามเดือนเดียวกันก็ขยายตัวขึ้น 17.8% อยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 15.2% ส่งผลให้การเกินดุลการค้าเดือนก.ค. ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 2.27 พันล้านดอลลาร์ จาก 2.83 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.
บลูมเบิร์ก ระบุว่า เวียดนามซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านการส่งออกที่จำหน่ายสินค้าทุกประเภท ตั้งแต่กาแฟ เสื้อผ้า ไปจนถึงชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ได้ส่งออกสินค้ามากขึ้นในปีนี้ไปยังผู้ซื้อที่ต้องการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดิมทีเวียดนามถูกขู่ขึ้นภาษีนำเข้า 46% แต่ปัจจุบันได้ลดลงเหลือ 20% ซึ่งสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่าง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย เพียง 1% เท่านั้น
"เวียดนามมีตัวเลขการส่งออกที่น่าประทับใจในเดือนก.ค. ส่วนใหญ่เป็นเพราะบริษัทต่างๆ เร่งส่งสินค้าไปยังสหรัฐ ก่อนที่จะมีมาตรการภาษีนำเข้าจากทรัมป์” เจิ่น ตวน มิงห์ ซีอีโอของของ TVI บริษัทวิจัย และการลงทุนด้านหลักทรัพย์ในกรุงฮานอย กล่าว "แต่เราคาดว่าการส่งออกจะชะลอตัวลงอย่างมากในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภาษีนำเข้า 20% โดยเฉพาะในส่วนภาษี Transshipment 40% ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงไม่มีความชัดเจน"
ด้านรัฐบาลฮานอยระบุในแถลงการณ์วันนี้ (6 ส.ค.68) ว่า คณะเจรจาการค้ากำลังดำเนินการเจรจากับวอชิงตัน "อย่างต่อเนื่อง" ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังย้ำแผนกระจายตลาด โดยมุ่งเป้าที่การทำข้อตกลงการค้ากับตะวันออกกลาง และอินเดีย ควบคู่ไปกับการกระตุ้นการบริโภคภายในเวียดนามให้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ในภาพรวมของเวียดนามยังเป็นไปในเชิงบวก ดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัว 3.19% เมื่อเทียบปีก่อน ช้ากว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 3.40% และน้อยกว่า 3.57% ในเดือนมิ.ย. ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบเดือนมิ.ย.
สำหรับการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยการส่งออก "กาแฟ" เพิ่มขึ้นเป็น 103,000 ตัน เพิ่มขึ้น 34.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่การส่งออก "ข้าว" ขยายตัวเพิ่ม 4.2% จากปีก่อน มีปริมาณอยู่ที่ 7.82 แสนตัน แต่ในแง่ของ "มูลค่า" ลดลง 15.4% อยู่ที่ 382 ล้านดอลลาร์
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์