อุตสาหกรรมการบินคึกคัก สวนกระแสเศรษฐกิจโลกซบเซา

อุตสาหกรรมการบินคึกคัก  สวนกระแสเศรษฐกิจโลกซบเซา

เศรษฐกิจโลกอาจกำลังเผชิญความไม่แน่นอนในปีนี้ ผลพวงจากความตึงเครียดทางการค้าและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ยังมีจุดสว่างให้นักลงทุนพักใจได้บ้าง นั่นคืออุตสาหกรรมการบิน

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงานข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศ (ไออาตา) คาดว่า อุตสาหกรรมการบินจะทำกำไรได้มากขึ้นในปี 2025 แม้คาดหมายว่าผลผลิตมวลรวม (จีดีพี) โลกปีนี้จะลดลงมาอยู่ที่ 2.5% จาก 3.3% ในปี 2024

รายได้, กำไรจากการปฏิบัติการ และกำไรสุทธิของอุตสาหกรรมการบินคาดว่าเพิ่มขึ้นจากปี 2024 แต่ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือน ธ.ค.

ตัวอย่างเช่น คาดว่ากำไรสุทธิของอุตสาหกรรมการบินในปี 2025 อยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 3.24 หมื่นล้านดอลลาร์ที่เคยทำได้ในปี 2024 แต่ยังต่ำกว่า 3.66 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ประเมินไว้ในเดือน ธ.ค.เล็กน้อย อัตรากำไรสุทธิก็ได้รับการคาดหมายว่าเพิ่มขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ 3.7% ในปีนี้ จาก 3.4% ในปี 2024

รายได้รวมน่าจะทุบสถิติที่ 9.79 แสนล้านดอลลาร์ สูงขึ้น1.3% เมื่อเทียบกับปี 2024 แต่ลดลงจาก 1 ล้านล้านดอลลาร์จากการคาดการณ์ล่าสุด

ผลประกอบการที่ดีขึ้นส่วนใหญ่มาจากสองปัจจัยหลักคือต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงและประสิทธิภาพสูงขึ้น

ด้านอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (พีแอลเอฟ) คาดด้วยว่าจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ทั้งปีเฉลี่ยที่ 84%

“ขณะที่การขยายและปรับปรุงฝูงบินให้ทันสมัยยังคงเป็นความท้าทายท่ามกลางความล้มเหลวของห่วงโซ่อุปทานในภาคการบินและอวกาศ” พีแอลเอฟแสดงให้เห็นว่าสายการบินมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ในการบริหารจัดการที่นั่งโดยสาร

 ต้นทุนน้ำมันเครื่องบินปีนี้คาดว่าเฉลี่ยที่ 86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงจาก 99 ดอลลาร์ในปี 2024 ส่งผลค่าน้ำมันรวมที่ 2.36 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากยอดรวม 2.61 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2024

“ข้อมูลทางการเงินล่าสุดแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการป้องกันความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงมีน้อยมากในปีที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าโดยทั่วไปแล้วสายการบินจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง ไม่คาดว่าเชื้อเพลิงจะได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดด้านการค้า” ไออาตาระบุ

  • ซีอีโอมองบวก

ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของหลายๆ สายการบินเผยกับซีเอ็นบีซีว่า สายการบินยังอยู่ได้แม้เกิดความไม่แน่นอน

แคมป์เบล วิลสัน ซีอีโอแอร์อินเดีย กล่าวในการประชุมผู้นำการขนส่งโลกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ปี 2025 จะเป็น “ปีแห่งความประหลาดใจ” สำหรับสายการบิน "ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง ภาษี ภูมิรัฐศาสตร์ หรือความขัดแย้งใกล้บ้าน

อย่างกรณีอินเดียกับปากีสถานปิดน่านฟ้าระหว่างกัน หลังกองทัพสองประเทศโจมตีตอบโต้กันในเดือน พ.ค. ส่งผลให้เครื่องบินปากีสถานเข้าน่านฟ้าอินเดียไม่ได้จนถึงวันที่ 23 มิ.ย. และเครื่องบินอินเดียเข้าน่านฟ้าปากีสถานไม่ได้จนถึงวันที่ 24 มิ.ย.

“ความไม่แน่นอนไม่เป็นผลดีต่อธุรกิจ แต่ปัจจัยพื้นฐานที่อยู่เบื้องหลังตลาดนี้และแนวโน้มขาขึ้นที่เห็นจากแอร์อินเดียกำลังผลักดันให้เราเดินหน้าต่อไป เพราะเราคิดว่ามีโอกาสมากมายที่จะเกิดขึ้น” วิลสันกล่าวและว่า อินเดียเป็นตลาดการเดินทางทางอากาศใหญ่เป็นอันดับสามของโลก อัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 8%-10%

“ดังนั้นหากชาวอินเดียเริ่มเดินทางอย่างเข้มข้นเหมือนอย่างในประเทศจีน ปริมาณการเดินทางในระดับนานาชาติย่อมเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน” ซีอีโอแอร์อินเดียกล่าวเสริม

เอเดรียน นอยเฮาเซอร์ ประธานและซีอีโออาเวียนกา สายการบินแห่งชาติโคลอมเบีย ระบุ “เมื่อโลกจามไม่ว่า ณ ที่ใด สายการบินก็ไม่สบายอย่างรวดเร็ว” อย่างไรก็ตาม อัตราบรรทุกผู้โดยสารของอาเวียนกายังมั่นคงและรายได้ดีขึ้น

“ดังนั้นมีความกังวลกันก็จริง แต่จนถึงวันนี้เรายังเห็นตัวเลขดีขึ้น ” ประธานและซีอีโออาเวียนกาให้ความเห็น

  • เอเชียโตเร็วสุด

ปีนี้คาดว่าอเมริกาเหนือจะเป็นภูมิภาคที่ทำกำไรสุทธิได้สูงสุดเหนือกว่าทุกภูมิภาค ส่วนเอเชียแปซิฟิกจะมีความต้องการเติบโตมากที่สุด ด้วยรายได้ต่อกิโลเมตรผู้โดยสาร (อาร์พีเค) ขยายตัว 9% เมื่อเทียบกับปี 2024

อาร์พีเคเป็นมาตรวัดจำนวนผู้โดยสารของสายการบินหนึ่งๆ ใช้สำหรับประเมินผลการปฏิบัติงานของสายการบินและความต้องการของผู้โดยสาร

“ถ้าสายการบินเห็นอาร์พีเคในเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายเดือน จะกระตุ้นให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินหรือใช้เครื่องบินลำใหญ่ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงในเส้นทางนั้นๆ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มรายได้และส่วนแบ่งตลาด” ไออาตาระบุและว่า ความต้องการที่แข็งแกร่งของผู้โดยสารในเอเชียแปซิฟิกเป็นผลจากหลายประเทศผ่อนคลายวีซา โดยเฉพาะจีน เวียดนาม มาเลเซีย และไทย กระนั้นสภาพเศรษฐกิจยังสร้างความท้าทายบางประการ เนื่องจากคาดการณ์จีดีพีในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะจีนถูกปรับลด