ธุรกิจเร่งสต๊อกสินค้าหลัง 'จีน - สหรัฐ' คลายภาษี ผู้บริโภครับราคาพุ่ง 5 - 10%

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (13 พ.ค.68) ว่า บริษัทอเมริกันหลายแห่งเริ่มกลับมาผลิตสินค้าในจีนอีกครั้ง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่อนปรนภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นเวลา 90 วัน แม้จะเป็นมาตรการชั่วคราว แต่ก็เป็นระยะเวลาที่นานพอให้โรงงานต่างๆ กลับมาเปิดสายการผลิต และเริ่มส่งออกสินค้ามาอเมริกาได้

นายมอนตี้ ชาร์มา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Therabody บริษัทผลิตเครื่องนวดไฟฟ้าแบรนด์ Theragun จากลอสแอนเจลิส เปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มต้นการผลิตในจีนอีกครั้ง และกำลังเพิ่มกำลังการผลิต

เขากล่าวว่า ในประสบการณ์การทำงาน 40 ปี เขาไม่เคยมีความสุขกับการที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น 30% มากเท่านี้มาก่อน

การกลับมาผลิตสินค้าครั้งนี้ไม่ได้ราบรื่นนัก ผู้นำเข้าสินค้าจากจีนต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากความต้องการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ส่งผลให้ค่าขนส่งสูงขึ้น และเกิดความล่าช้า ประกอบกับช่วงเวลา 90 วันที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้การจัดการห่วงโซ่อุปทานข้ามมหาสมุทรเป็นไปอย่างเร่งรีบ

บริษัท Bogg Bag ผู้ผลิตถุงชอปปิงพลาสติกหนาที่มีลวดลายเป็นรูปเล็กๆ ซึ่งได้รับความนิยมเพราะใช้ไปชายหาดหรือพกพาของได้สะดวก ได้ยกเลิกแผนการขึ้นราคาสินค้า และตัดสินใจคงราคาเดิมไว้ก่อน บริษัทกลับมาเปิดสายการผลิตที่เคยหยุดไปตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ตาม Bogg Bag วางแผนลดจำนวนสินค้าในคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง และช่วงเทศกาลลง 45 รายการ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด เพื่อไม่ต้องเร่งรีบผลิตให้ทันตามกำหนด

นางคิม แวคคาเรลลา ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง Bogg Bag กล่าวว่า บริษัทต้องการส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว "เราต้องผลิตให้เสร็จ บรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์ และส่งขึ้นเรือโดยเร็ว" เพราะท่าเรือจะเริ่มแออัด

ก่อนหน้านี้ ภาษีที่สูงขึ้นทำให้ความต้องการสินค้าลดลง จนบริษัทเดินเรือ Evergreen Marine Corp. แจ้งกับการท่าเรือแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ว่า เรือที่ออกจากจีนจะแวะท่าเรือบอสตันเดือนละ 2 ครั้ง ลดลงจากเดิมที่แวะทุกสัปดาห์

แต่เมื่อเช้าวันจันทร์ หลังจากประกาศผ่อนปรนภาษี ท่าเรือเริ่มได้รับการติดต่อจากลูกค้าที่ต้องการเพิ่มการนำเข้าสินค้าในช่วง 90 วัน นายริชาร์ด เดวีย์ ซีอีโอผู้ดำเนินการท่าเรือกล่าว สินค้าหลักที่ผ่านท่าเรือบอสตัน ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ ไวน์ และสุรา ของเล่น เสื้อผ้า และพลาสติก

นายเดวิด ชิทายัต ซีอีโอของ Genimex บริษัทรับจ้างผลิตสินค้าให้แบรนด์ต่างประเทศ อธิบายว่า การผ่อนปรนภาษีชั่วคราวนี้จะทำให้บริษัทอเมริกันเร่งส่งสินค้าที่ค้างอยู่ในคลังสินค้าของโรงงานในจีน

หลายบริษัทน่าจะพยายามเพิ่มสต๊อกสินค้าในอเมริกาให้มีปริมาณสำรองมากพอ กรณีที่การเจรจาการค้าล้มเหลวหรือภาษีกลับมาสูงขึ้นอีกครั้งหลังครบ 90 วัน สินค้าบางส่วนยังต้องผลิตเพิ่ม เนื่องจากหลายโรงงานหยุดผลิตในช่วงที่ภาษีพุ่งสูง

ชิทายัต คาดการณ์ว่า บริษัทส่วนใหญ่จะรับมือกับภาษีในระดับปัจจุบันได้ แต่ผู้บริโภคยังคงต้องจ่ายแพงขึ้น "ภาษียังคงมีผลกระทบอย่างมาก แต่แบรนด์ส่วนใหญ่น่าจะจัดการได้" เขากล่าว โดยคาดว่าบริษัทจะขึ้นราคาสินค้า การเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต 30% จะทำให้ราคาขายปลีกที่ผู้บริโภคต้องจ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10%

บริษัทต่างๆ ยังคงเผชิญอุปสรรคในการส่งสินค้ามาอเมริกาอย่างรวดเร็วภายใน 90 วัน ชิทายัต กล่าวว่า ในระยะสั้น การขนส่งจะ "วุ่นวายมาก ทุกคนต้องแย่งพื้นที่บนเรือ" เขาคาดว่าราคาตู้คอนเทนเนอร์จะเพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้ราคายังอยู่ในระดับต่ำ

Tarptent บริษัทผลิตเต็นท์สำหรับการเดินป่าจากแคลิฟอร์เนีย ซึ่งก่อนหน้านี้ขอให้ซัพพลายเออร์ในฮ่องกงหยุดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานในจีน กำลังพิจารณาว่าจะกลับมาสั่งผลิตต่อหรือไม่

บริษัทกำลังประเมินว่ามีเวลาเพียงพอในการสั่งซื้อ และส่งผ้าที่ผลิตในอเมริกา ซึ่งใช้ทำเต็นท์ ไปยังโรงงานในจีนเพื่อผลิตภายในช่วงเวลาผ่อนปรน 90 วัน หรือไม่

นายเฮนรี่ ไชร์ส ประธาน Tarptent กล่าวผ่านอีเมลเมื่อวันจันทร์ว่า "ผมคิดว่าคงเป็นไปได้ยาก ช่วงเวลา 90 วันนั้นแคบมาก และผู้ให้โอกาสไม่น่าเชื่อถือพอที่จะเสี่ยงลงทุนซื้อผ้าเป็นจำนวนมาก"

ไชร์ส กล่าวว่า เขากำลังรอให้ฮ่องกงเข้าสู่เวลาทำการเพื่อสอบถามว่าผู้ผลิตจะใช้ผ้าที่มีอยู่แล้วที่โรงงานได้หรือไม่

สำหรับ Net Health Shops LLC บริษัทขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน มาตรการผ่อนปรนภาษีจะช่วยในระยะสั้น นายชัค เกรกอริช ซีอีโอกล่าว บริษัทกำลังพิจารณาการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์หลายสิบตู้จากจีนที่เคยหยุดไว้ตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยเขาคาดว่า การนำเข้านี้จะช่วยเพิ่มสินค้าคงคลังโดยรวม และบรรเทาปัญหาขาดแคลนอุปทาน

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจส่งตู้คอนเทนเนอร์เหล่านั้นจะขึ้นอยู่กับอัตราค่าระวางเรือด้วย เขาคาดว่าอัตราค่าระวางอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการที่สะสมไว้ เมื่อบริษัทอื่นๆ ต้องการส่งสินค้ามากขึ้นในสัปดาห์ และเดือนข้างหน้า

ส่วนในระยะยาวสินค้าจากจีนจะยังคงแพงกว่าเดิม ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับการหาสินค้าจากประเทศอื่น เช่น เวียดนาม และอินเดีย "ใจของผมอยู่ที่ประเทศอื่นๆ แล้ว" เขากล่าว

 

 

อ้างอิง: Bloomberg 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์