'เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้' กำไรพุ่ง 147% อานิสงส์เครดิตภาษี-ตลาดบ้านสิงคโปร์โตแรง

สำนักข่าวบิสเนสไทม์สและบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (Frasers Property Ltd.) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ภายใต้การควบคุมของมหาเศรษฐีไทย "เจริญ สิริวัฒนภักดี" รายงานกำไรสุทธิครึ่งปีแรกพุ่งสูงขึ้น 147% เมื่อเทียบปีก่อน จากธุรกิจที่อยู่อาศัยในตลาดสิงคโปร์ที่สามารถชดเชยกับภาวะตกต่ำในตลาดออสเตรเลียและจีนได้ และจากปัจจัยเครดิตภาษี

เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ รายงานในเอกสารแจ้งตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เมื่อวันศุกร์ (9 พฤษภาคม) ว่า ช่วงครึ่งปีแรกสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิพุ่งขึ้น 147.6% เป็น 142.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์  (ราว 3,620 ล้านบาท) จาก 57.4 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน 

การพุ่งขึ้นนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากเครดิตภาษีสุทธิ 6.1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งพลิกกลับจากค่าใช้จ่ายภาษี 117.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีที่แล้ว และยังมาจากการที่บริษัทไม่มีการบันทึกค่าด้อยค่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม กำไรก่อนหักภาษีและรายการพิเศษลดลง 13.5% เป็น 286 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ จาก 330.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยถูกกดดันจากรายจ่ายดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 14% เป็น 281.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในช่วงครึ่งปี

ขณะที่รายรับของบริษัทเพิ่มขึ้น 2.7% เป็น 1,600 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 4.07 หมื่นล้านบาท) โดยโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยในสิงคโปร์ เช่น โครงการ Sky Eden@Bedok และ The Orie มียอดขายที่แข็งแกร่ง ปัจจัยบวกนี้รวมถึงการที่บริษัทไม่มีการตั้งด้อยค่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ทำให้กำไรก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้น 3.8% ไปอยู่ที่ 599.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ 

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้  กล่าวว่า บริษัทยังคง “เฝ้าระวังและดำเนินการเชิงรุก” ท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลก

“เรามั่นใจว่าเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้  อยู่ในสถานะที่ดีในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้” นายปณตกล่าว “เราจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การเสริมแกร่งงบดุลของเรา ปรับปรุงผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยง และสร้างความมั่นใจว่ารูปแบบการดำเนินงานของเรายังคงคล่องตัวและเหมาะสมกับวัตถุประสงค์”

สำหรับมุมมองต่อเศรษฐกิจมหภาคที่ชะลอตัวลงนั้น ทางกลุ่มระบุว่าจะเพิ่มการพัฒนาอสังหาฯ ในภาคส่วนที่มีความยืดหยุ่น เช่น ตลาดที่อยู่อาศัย ตลอดจนภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ พร้อมสร้างรายได้ที่มั่นคงจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน

ทั้งนี้เมื่อเดือนเม.ย. เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ได้ลงทุนกิจการร่วมค้าในสินทรัพย์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์จำนวน 8 แห่งในออสเตรเลีย

สำหรับอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น 44% จาก 42.1% ในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 88.5% จาก 83.4% โดยเกิดจากรายจ่ายด้านทุนและการซื้ออสังหาริมทรัพย์เชิงอุตสาหกรรมในสิงคโปร์โดยหนึ่งในกองรีทของกลุ่มเฟรเซอร์ส