ไม่ใช่ผู้นำทรัมป์ก็คุย! ทำเซอร์ไพรส์หารือภาษีกับรัฐมนตรีญี่ปุ่น

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเผยผ่านโซเชียลมีเดีย เมื่อวันพุธ (16 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยไม่ได้ระบุรายละเอียด

“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เพิ่งได้พบกับตัวแทนการค้าญี่ปุ่น คืบหน้ามาก!”รัฐบาลโตเกียวส่งนายเรียวเซอิ อากาซาวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อเริ่มเจรจาภาษีกับสหรัฐ โดยมีกำหนดสรุปกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ในเย็นวันพุธเรื่องผลการเจรจา  

ทั้งนี้ นายอากาซาวะหวังจำกัดการเจรจาไว้แค่เรื่องการค้าและการลงทุน แต่ทรัมป์กล่าวไปก่อนในช่วงเช้าว่า เขาจะยกประเด็นค่าใช้จ่ายของรัฐบาลโตเกียวในการให้ทหารสหรัฐเข้าไปประจำการในญี่ปุ่นไปหารือด้วย ซึ่งญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีทหารสหรัฐมากที่สุด

“วันนี้ญี่ปุ่นจะมาเจรจาภาษี, ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนทางทหาร และ ‘การค้าเป็นธรรม’”

“ผมจะเข้าประชุมพร้อมกับรัฐมนตรีคลังและการค้า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้อะไรดีๆ (ดีมาก) สำหรับญี่ปุ่นและสหรัฐ!” ทรัมป์ระบุในโซเชียลมีเดีย

รอยเตอร์รายงานว่า นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ และนายโฮวาร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมหารือพร้อมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ด้วย

นายเบสเซนต์ก็ต้องการหารือประเด็นร้อนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนกับญี่ปุ่นเช่นกัน ญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศแรกๆ ที่เริ่มบินมาเจรจาถึงวอชิงตัน หลังทรัมป์ประกาศภาษีหว่านแหกับหลายสิบประเทศทั้งมิตรและศัตรูเมื่อไม่กี่วันก่อน

ญี่ปุ่นถูกเก็บภาษี 24% แต่ถูกทรัมป์ระงับ 90 วันเหมือนประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ ยังคงเหลือภาษีพื้นฐาน 10% และภาษีรถยนต์ 25% ซึ่งรถยนต์เป็นสินค้าส่งออกหลักของเศรษฐกิจญี่ปุ่น

นายเบสเซนต์เคยกล่าวว่า “ใครมาก่อนได้เปรียบ” เนื่องจากมีกว่า 50 ประเทศขอเจรจากับรัฐบาลวอชิงตัน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ กล่าวในวันจันทร์ (14 เม.ย.) ว่า ประเทศของตนซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐ ไม่รีบบรรลุข้อตกลงและไม่มีแผนจะยอมอ่อนข้อให้มาก

ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงขอบข่ายการพูดคุยทั้งหมดเมื่อวันพุธ นายเบสเซนต์หวังว่า เขาจะทำข้อตกลงครอบคลุมทั้งเรื่องภาษี, อุปสรรคการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และอัตราแลกเปลี่ยนได้ แต่รัฐบาลโตเกียวขอเจรจาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนแยกต่างหาก 

นายเบสเซนต์กล่าวต่อไปว่า ญี่ปุ่นอาจเข้ามาลงทุนโครงการก๊าซมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในอะแลสกา

เรื่องนี้นายอากาซาวะ กล่าวไว้ก่อนออกเดินทางมาเจรจา ญี่ปุ่นหวังว่าการให้คำมั่นขยายการลงทุนในสหรัฐจะช่วยจูงใจให้สหรัฐเชื่อว่า สองประเทศสามารถได้ประโยชน์ร่วมกันโดยไม่ต้องเก็บภาษี