เผยสหรัฐ-จีน อาจต่อรอง 'ค่าเงินหยวน' ซ้ำรอยญี่ปุ่นที่เคยถูกบีบ

"เรย์ ดาลิโอ" ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Bridgewater Associates ซึ่งเพิ่งจะพบกับบรรดาผู้นำระดับสูงของจีนในการประชุมที่ปักกิ่งเมื่อไม่นานมานี้ เปิดเผยว่า ในการเจรจากันระหว่างสหรัฐกับจีนเพื่อผ่อนปรนเรื่องภาษีศุลกากรตอบโต้นั้น อาจจะมีการคุยกันเรื่อง "ค่าเงินหยวน" ที่จีนอาจจะถูกกดดันให้ต้องปล่อยค่าเงินให้แข็งค่ามากขึ้นด้วย และอาจซ้ำรอยเหมือนกับที่ญี่ปุ่นเคยถูกบีบมาแล้วในยุคข้อตกลง "พลาซา แอคคอร์ด"
 

“ผมนึกภาพการเจรจาข้อตกลงระหว่างจีนกับสหรัฐ ที่จะปรับค่าเงินหยวนของจีนให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เพื่อแลกกับการผ่อนปรนทางการค้า” ดาลิโอโพสต์ในโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันศุกร์ 

“หากสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง จีนจะยิ่งประสบกับภาวะเงินฝืดและเผชิญแรงกดดันมากขึ้น ซึ่งที่สุดแล้วจะนำไปสู่การใช้นโยบายผ่อนปรนทางการเงินและ/หรือการคลังมากยิ่งขึ้น” 
 

บลูมเบิร์กระบุว่าความเห็นล่าสุดของเจ้าพ่อเฮดจ์ฟันด์รายนี้มีขึ้นหลังจากที่ดาลิโอได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของจีนเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งรวมถึงรองนายกรัฐมนตรีมือเศรษฐกิจ เหอ ลี่เฟิง, ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน พาน กงเซิ่ง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน หวัง เหวินเทา 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐทั้งหมด 34% ซึ่งเท่ากับอัตราภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ที่เรียกเก็บกับสินค้าจีนในวันพุธ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตำหนิการตอบโต้ของจีนและให้คำมั่นว่านโยบายเศรษฐกิจของเขาจะ "ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง"

ค่าเงินหยวนแทบไม่เปลี่ยนแปลงในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) พยุงค่าเงินด้วยการกำหนดอัตราอ้างอิงรายวันให้แข็งค่าเกินคาด

ทั้งนี้ ทางการจีนมักลังเลที่จะปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่ามากเกินไป โดยมองว่า "เงินเยน" ของญี่ปุ่นที่แข็งค่าขึ้น ภายหลังถูกบีบให้ทำข้อตกลง "พลาซาแอคคอร์ด" (Plaza Accord) ในช่วงทศวรรษ 1980 มีส่วนทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนานต่อเนื่องมากกว่าสิบปี หรือที่เรียกว่า "ทศวรรษที่สูญหาย" (lost decade) ในญี่ปุ่น