ทรัมป์เล่นใหญ่ จัดอีเวนท์กลางสวนกุหลาบประกาศเก็บภาษีรายประเทศ 2 เม.ย.

ทรัมป์เล่นใหญ่ จัดอีเวนท์กลางสวนกุหลาบประกาศเก็บภาษีรายประเทศ 2 เม.ย.

โฆษกทำเนียบขาวเผย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศภาษีตอบโต้ในวันพุธนี้ในสวนกุหลาบทำเนียบขาว คณะรัฐมนตรีเข้าร่วมด้วย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน นางสาวแคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในวันจันทร์ (31 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น  การประกาศดังกล่าวจะระบุภาษีเป็น “รายประเทศ”  โดยมีคณะรัฐมนตรีมาร่วมงานประกาศด้วย   นอกจากนี้ประธานาธิบดีจะ “เก็บภาษีรายภาคส่วน” แต่จะยังไม่เอ่ยถึงในงานวันที่ 2 เม.ย. และโฆษกไม่ได้กล่าวถึงกรอบเวลาที่ทรัมป์จะเก็บภาษีรายภาคส่วน 

“ประธานาธิบดีจะประกาศแผนการเก็บภาษี ดัดหลังการทำการค้าไม่เป็นธรรมที่เอาเปรียบประเทศเรามาหลายสิบปี ถึงเวลาแล้วที่ต้องตอบโต้ และนี่คือเวลาสำหรับประธานาธิบดีที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประชาชนอเมริกัน” โฆษกกล่าว

นางสาวลีวิตต์ไม่ยอมเผยรายละเอียดอัตราภาษีตอบโต้หรือประเทศใดจะโดนบ้าง และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะลดภาษีให้กับสินค้าที่เกษตรกรอเมริกันต้องใช้ได้หรือไม่ โฆษกกล่าวเพียงว่า “ไม่มีข้อยกเว้นในเวลานี้”

 ส่วนตัวทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์ (30 มี.ค.) ว่า ตนมีแผนเก็บภาษีตอบโต้กับ “ทุกประเทศ” จากที่เคยมีการคาดการณ์ว่า เขาอาจจำกัดวงการประกาศภาษีรอบแรกในวันที่ 2 เม.ย.

แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามในวันจันทร์ว่าเขาจะเก็บภาษีเป็นการทั่วไปหรือเก็บรายประเทศทรัมป์ไม่ตอบ

“คุณจะได้เห็นในอีกสองวัน ซึ่งอาจจะเป็นคืนพรุ่งนี้หรืออาจเป็นวันพุธ”

“มันเป็นการตอบโต้ อะไรก็ตามที่พวกเขาเก็บกับเรา เราก็เก็บพวกเขา แต่จะดีกว่าที่พวกเขาทำ”

“พวกเขาเอาเปรียบเรา และเราจะใจดีมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเขาเคยทำ ตัวเลขจะต่ำกว่าที่พวกเขาเคยเก็บเรา และในบางกรณีอาจต่ำกว่ามากๆ ด้วย” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวรัวๆ

ก่อนหน้านั้นในวันจันทร์ นางสาวลีวิตต์ได้ยกตัวอย่างอัตราภาษีที่เก็บจากสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น อินเดีย และแคนาดา ส่งสัญญาณว่า ประเทศเหล่านั้นน่าจะอยู่ในกลุ่มเป้าหมายถูกประธานาธิบดีเก็บภาษีรอบใหม่

“นี่ทำให้สินค้าอเมริกันเข้าตลาดเหล่านี้แทบไม่ได้เลย ทำให้ธุรกิจอเมริกันจำนวนมากต้องเลิกกิจการในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ประชาชนต้องตกงาน” โฆษกทรัมป์กล่าว

ทรัมป์กำหนดให้วันประกาศภาษี2 เม.ย. หรือ วันปลดแอก เป็นหัวใจสำคัญของแผนการปรับดุลการค้าโลก, หนุนภาคการผลิตสหรัฐ และอัดฉีดรายได้จากภาษีเข้าสู่คลังรัฐบาลเพื่อใช้เป็นทุนสำหรับทำนโยบายในประเทศที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เช่น การลดภาษีครั้งใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เก็บภาษีแคนาดา เม็กซิโก และจีน สามคู่ค้าใหญ่สุดของสหรัฐ รวมถึงเก็บภาษีรถยนต์ เหล็ก และอลูมิเนียมมาแล้ว

ภาษีทองแดงนำเข้ากำลังจะตามมาภายในไม่กี่สัปดาห์ นอกจากนี้ทรัมป์ยังขู่เก็บภาษียา เซมิคอนดักเตอร์ และไม้ซุงนำเข้าอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนในแผนการของทรัมป์ ที่มักเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกในนาทีสุดท้าย กระตุ้นให้เกิดความหวั่นวิตกว่าห่วงโซ่อุปทานจะเสียหาย ผู้บริโภคสหรัฐต้องซื้อสินค้าราคาแพงขึ้น ความหวาดหวั่นดังกล่าวทำให้นักลงทุนพากันเทขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐต่อเนื่องมาถึงวันจันทร์

“วอลล์สตรีทจะไปได้ดีในรัฐบาลชุดนี้ เหมือนกับที่ทำได้ดีมาแล้วในวาระแรก” นางสาวลีวิตต์ย้ำ