เซเว่นญี่ปุ่น แต่งตั้งซีอีโอต่างชาติคนแรก ลุยฟื้นความเชื่อมั่น

บริษัทเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิงส์ จำกัด (Seven & i Holdings Co.) ผู้ประกอบการร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นในญี่ปุ่น ประกาศแต่งตั้ง “สตีเฟน ดาคัส” (Stephen Dacus) เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่แทน ริวอิชิ อิซากะ มีผลตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. นี้เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นการแต่งตั้งซีอีโอชาวต่างชาติเป็นครั้งแรกของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่แห่งญี่ปุ่นรายนี้ พร้อมแผนต่างๆ เพื่อหวังพลิกฟื้นความเชื่อมั่นธุรกิจอีกครั้ง 

นอกจากการเปลี่ยนซีอีโอแล้ว บริษัทยังประกาศแผน “ซื้อหุ้นคืน” มูลค่า 2 ล้านล้านเยน (ราว 4.5 แสนล้านบาท) ภายในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า รวมถึงจะ “ขายกิจการ” กลุ่มธุรกิจซูเปอร์สโตร์ให้กับบริษัท Bain Capital มูลค่า 8.147 แสนล้านเยน (ราว 1.81 แสนล้านบาท) และยังมีแผนจะนำบริษัทลูกในอเมริกาเหนืออย่าง 7-Eleven Inc. "เข้าตลาดหลักทรัพย์" ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า 2569 
 

สำหรับสตีเฟน ดาคัส ปัจจุบันเป็นกรรมการอิสระ (กรรมการคนนอก) ของเซเว่น แอนด์ ไอ เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทกลุ่มค้าปลีกในญี่ปุ่นมาหลายแห่ง เช่น Fast Retailing (ยูนิโคล่) และสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทหลังจากที่ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 47,500 ล้านดอลลาร์ จากบริษัทอลิมงตาซิยง คุชทาร์ด (Alimentation Couche-Tard Inc.) จากประเทศแคนาดา ซึ่งเซเว่นแอนด์ไอพยายามขวางการเทกโอเวอร์ด้วยการออกแผนระดมทุนราว 8 ล้านล้านเยน เพื่อซื้อกิจการโดยผู้บริหาร (MBO) หรือเอาบริษัทออกจากตลาดหุ้น ทว่าก็ไม่ประสบความสำเร็จ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนพยายามกดดันให้ยักษ์ค้าปลีกญี่ปุ่นรายนี้ปลดล็อกมูลค่าและมุ่งเน้นไปที่ร้านสะดวกซื้อมากขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำกำไรและประสบความสำเร็จมากที่สุด แต่การที่ไม่ดำเนินการใดๆ ทำให้ราคาหุ้นถูกประเมินต่ำกว่ามูลค่าจริง และดึงดูดกลุ่มนักลงทุนสายเหยี่ยวรวมถึงบริษัทจากแคนาดาให้เข้ามาเสนอซื้อกิจการของเซเว่นในปีที่แล้ว

เมื่อแผนซื้อกิจการคืนไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป คำถามคือมาตรการใหม่ๆ ของ Seven & i ในครั้งนี้ จะเพียงพอหรือไม่ที่จะโน้มน้าวใจผู้ถือหุ้นว่าบริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้เองเพียงลำพัง 

"การซื้อหุ้นคืนเป็นความพยายามที่จะยกระดับมูลค่าตลาดเพื่อช่วยป้องกันเทกโอเวอร์ และเรามองว่าการแต่งตั้งสตีเฟน ดาคัส เป็นเรื่องในเชิงบวก" ลอเรน ตัน นักวิเคราะห์จาก Morningstar Asia Ltd. กล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่าราคาหุ้นของ Seven & i จะปิดตลาดพุ่งขึ้นถึง 6.1% ก่อนการประกาศข่าวในช่วงเย็นวันนี้ แต่จากการประเมินมูลค่าของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5.5 ล้านล้านเยน ซึ่งยังคงต่ำกว่าราคาที่บริษัทแคนาดาเสนอซื้อประมาณ 22%