'จีน' ลงทุนทองคำทำนิวไฮ หนุนตลาดโลกต้องการทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์

'จีน'ลงทุนทองคำในไตรมาส 2 ปี 67 ทำนิวไฮ เพิ่มขึ้น 68% กว่า 7 หมื่นล้านบาทไหลเข้า 'กองทุนทองคำ' หนุนตลาดโลกต้องการทองคำเพิ่มขึ้น 4% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนแบงก์ชาติทั่วโลกตุนทองคำเพิ่ม 6% คาดเพิ่มการถือครองต่อไปในอีก 12 เดือนข้างหน้า
สำนักข่าวเดอะเยรูซาเลมโพสต์รายงานอ้างถึงข้อมูลจากสภาทองคำโลก (WGC) ว่า กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำ (ETF) ใน "จีน" มีเงินทุนไหลเข้าประมาณ 1.4 หมื่นล้านหยวน ( ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท) หรือ 25 ตัน ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นการทำสถิติสูงสุดครึ่งแรกของปีโดยมูลค่าการถือครอง และสินทรัพย์ภายใต้การบริหารพุ่งขึ้น 50% และ 77% ตามลำดับ จากราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้น
จีนมีการลงทุนในทองคำแท่ง และเหรียญในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้แตะระดับ 80 ตัน พุ่งสูงขึ้นถึง 68% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งที่สุด และเมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี พบว่าการลงทุนในทองคำแท่ง และเหรียญรวมกันอยู่ที่ 190 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนความต้องการ การลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย
หวัง ลิซิน ซีอีโอของสภาทองคำโลก (จีน) แสดงความหวังอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับความต้องการทองคำรูปพรรณในช่วงครึ่งหลังของปี
"ด้วยอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศที่ลดลง และแรงกดดันที่อาจเกิดขึ้นกับสินทรัพย์ในประเทศ อาจกระทบต่อความต้องการ การลงทุนที่ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ซึ่งความไม่แน่นอนของราคาทองคำอาจลดความต้องการทองคำแท่ง และเหรียญในช่วงปลายปีนี้"
ดีมานด์ 'ทองคำเครื่องประดับ’ซบเซา
ความต้องการทองคำเครื่องประดับในประเทศจีนในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ที่ 86 ตัน โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการลดลงครั้งนี้คือ ราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี พบว่าการบริโภคทองคำเครื่องประดับลดลงถึง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอยู่ที่ 270 ตัน สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการที่อ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่ความต้องการทองคำเครื่องประดับจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาล เช่น เทศกาลต่างๆ ที่อาจกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาซื้อทองคำเครื่องประดับมากขึ้น
ทั่วโลกต้องการ 'ทองคำ’สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ความต้องการทองคำทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,258 ตัน ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 4% สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้ ราคาทองคำเฉลี่ยในไตรมาสดังกล่าวก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยแตะที่ 2,338 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 2,427 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนพ.ค.
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มการถือครองทองคำ 184 ตันในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน แม้ว่าจะช้ากว่าไตรมาสก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางของจีนจะคงการถือครองทองคำไว้ที่ 2,264 ตัน ในเดือนพ.ค.และมิ.ย.หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 18 เดือน
ทั้งนี้ จอห์น รีด หัวหน้านักยุทธศาสตร์ตลาดของ WGC คาดว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะยังคงเพิ่มการถือครองทองคำต่อไปในอีก 12 เดือนข้างหน้า
AI ดัน 'ทองคำ’ ในเทคโนโลยีพุ่ง11%
ความต้องการทองคำในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ตัวเลขล่าสุดจาก WGC ระบุว่า การใช้ทองคำในเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นถึง 11% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ต้องการทองคำเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนต่างๆ
ในขณะที่ทองคำในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ความต้องการทองคำในรูปแบบอื่นกลับมีความผันผวน
- การลงทุนทองคำแท่ง
แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ความต้องการทองคำแท่ง และเหรียญในตลาดค้าปลีกทั่วโลกกลับลดลง 5% ในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากความต้องการในตลาดตะวันตกอ่อนตัวลง
- ทองคำเครื่องประดับ
การบริโภคทองคำเครื่องประดับทั่วโลกก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลงถึง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี สาเหตุหลักมาจากราคาทองคำที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
- Gold ETF
การถือครองทองคำในกองทุน ETF ทั่วโลกก็ลดลงเล็กน้อยประมาณ 7 ตัน ในไตรมาสที่สอง
อ้างอิง msn
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







