ถอดบทเรียน จาการ์ตา และ ธากา: เมืองขยายตัวแบบไร้ทิศทาง สู่ 'กับดักความยากจน' ที่แก้ยาก

จาการ์ตาและธากาเป็นเมืองที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและไร้ทิศทาง ทำให้เกิดปัญหาความแออัดอย่างรุนแรง
KEY
POINTS
- จาการ์ตาและธากาเป็นเมืองที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและไร้ทิศทาง ทำให้เกิดปัญหาความแออัดอย่างรุนแรง
- การเติบโตที่ไม่เป็นระเบียบนี้ได้สร้าง "กับดักความยากจน"
- สาเหตุสำคัญของปัญหาคือการบริหารจัดการที่กระจัดกระจาย
- ตัวอย่างที่ชัดเจนคือปัญหารถติดรุนแรงจากการวางแผนขนส่งสาธารณะที่ล้มเหลว
- โตเกียวและเซี่ยงไฮ้แสดงให้เห็นว่าการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์หรือมีการประสานงานที่ดีสามารถแก้ปัญหาเมืองใหญ่ได้
องค์การสหประชาชาติ (UN) เพิ่งเปลี่ยนวิธีนับประชากรเมือง แล้วตัวเลขที่ออกมาก็คือ “จาการ์ตา” กลายเป็นเมืองที่มีคนอาศัยอยู่มากที่สุดในโลกไปแล้ว ด้วยประชากร 42 ล้านคน มากเท่ากับคนทั้งประเทศแคนาดา แซงหน้าโตเกียวที่มี 33 ล้านคน ส่วนธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศมี 37 ล้านคน ตามมาด้วยเดลีและเซี่ยงไฮ้ที่มีประชากรราว 30 ล้านคน
ที่ตัวเลขเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เพราะ UN เลิกนับแค่ในเขตเมืองที่รัฐบาลแต่ละประเทศกำหนดไว้ แต่นับรวมพื้นที่ที่เมืองนั้นๆ แผ่ขยายออกไปจริงๆ ด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเมืองต่างๆ กำลังขยายตัวด้วยอัตราเร่งอย่างรวดเร็ว และตอนนี้มีประชากรเกือบครึ่งของโลกกำลังอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ หรือ Mega City
สิ่งที่น่าสังเกตคือ การเติบโตเกิดขึ้นส่วนใหญ่ในเอเชียที่มีรายได้ปานกลาง ในเมืองใหญ่ที่สุดของโลก 10 เมือง มีแค่แห่งเดียวที่ไม่ได้อยู่ในเอเชีย และจากเมืองใหญ่ 33 เมืองทั่วโลก (ประชากรเกิน 10 ล้าน) มีแค่ 7 เมืองเท่านั้นที่อยู่ในประเทศรวย และคาดว่าภายในปี 2050 จาการ์ตากับธากาจะมีประชากรเพิ่มขึ้นรวมกันอีก 25 ล้านคน เท่ากับประชากรทั้งประเทศออสเตรเลีย
ตามหลักการแล้ว คนย้ายเข้าเมืองเพื่อหาชีวิตที่ดีขึ้น เหมือน “คลินตัน จักมา” ชาวนาที่ย้ายมาธากาเมื่อปี 2022 แล้วได้งานเป็นพนักงานเสิร์ฟ เขาบอกว่า "ธากาเปลี่ยนชีวิตผมและทำให้ลูกๆ ได้เรียนหนังสือ"
แต่ปัญหาใหญ่คือ ถ้าเมืองแออัดเกินไป มลพิษหนัก รถติดหนัก มันจะกลับกลายเป็น "กับดักความยากจน" แทน
ประเด็นนี้ “อเลน แบร์โต” นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก อธิบายว่า "คนย้ายมาเมืองเพื่อหางานทำ แต่ถ้าตลาดแรงงานไม่สามารถสร้างมูลค่าให้คนเหล่านั้นได้ คุณกำลังสร้างกับดักความยากจนเอง"
จาการ์ตา ธากา และเดลี ติดท็อปเมืองที่อยู่ยากที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ Economist Intelligence Unit จาการ์ตาอยู่อันดับ 132 จาก 173 เมือง เดลีอยู่อันดับ 145 ส่วนธากาอยู่อันดับที่ 3 จากท้าย แพ้แค่ดามัสกัสกับตริโปลีของลิเบีย
จาการ์ตา: เมื่อการบริหารเมืองล้มเหลว
จาการ์ตาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของปัญหา เมื่อเมืองขยายตัว จาการ์ตาได้รวมเอาเมืองใกล้เคียงอย่าง โบกอร์ เดปอก ทันเจอรัง และเบกาสี เข้ามาด้วย แต่หน่วยงานต่างๆ แทบไม่คุยกัน ทำให้เมืองที่มีคนเท่ากับบางประเทศถูกบริหารแบบไร้แผน
ปัญหาที่เห็นชัดที่สุดคือเรื่องรถติด จาการ์ตาติดอันดับ 12 ของโลก (ธากาอันดับ 3 เดลีอันดับ 7) เพราะบ้านใกล้ที่ทำงานแพงมาก คนจำนวนมากต้องไปอยู่ชานเมืองไกลๆ พอขนส่งสาธารณะไม่พอ ก็ต้องขี่มอเตอร์ไซค์หรือขับรถเอง ถนนจึงติดหนัก มลพิษสูง ผลิตภาพลดลง รัฐบาลจาการ์ตาคำนวณว่าความล่าช้าจากรถติดทำให้เศรษฐกิจสูญเสียถึง 6 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
ปี 2019 จาการ์ตามีรถไฟใต้ดินสายแรก แต่รถไฟหยุดแค่ในเขตเมือง ไม่ยาวไปถึงชานเมืองที่คนส่วนใหญ่อยู่
“อาดิกา อาจี” หัวหน้าฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของรัฐบาลเมืองจาการ์ตา บอกว่าต้องมีการประสานงานในพื้นที่ทั้งหมด "มิฉะนั้นมันก็ไร้ประโยชน์" อดีตเจ้าหน้าที่บริหารเมืองยืนยันว่า "ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่นั่น แทบไม่มีการคุยกับนายกเทศมนตรีของเมืองรอบข้างเลย"
ปัญหาซ้ำรอยทั่วเอเชีย
ธากามีปัญหาคล้ายกัน ถูกบริหารโดยองค์กรเทศบาลสองแห่ง บวกกับหน่วยงานพัฒนาระดับชาติ กระทรวงต่างๆ และหน่วยงานอีกเป็นสิบๆ ที่ดูแลเรื่องน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย และการขนส่ง แยกกันไป นายกเทศมนตรีของ "ธากา นอร์ธซิตี้คอร์ปอเรชั่น" เคยบ่นว่า เขาขาดอำนาจในการจัดการ 80% ของปัญหาในเมืองตัวเอง ไม่ว่าจะเรื่องรถติดหรือน้ำท่วม
อินเดียก็เผชิญปัญหาคล้ายกัน เดลีถูกแบ่งบริหารโดยหน่วยงานเทศบาล รัฐบาลระดับรัฐ รัฐบาลกลาง และหน่วยงานต่างๆ ที่ดูแลที่อยู่อาศัย การวางผังเมือง และรถไฟใต้ดิน ส่วนโกลกาตา (ใหญ่อันดับ 9 ของโลก) มีหน่วยงานบริหารถึง 423 หน่วยงาน ตามข้อมูลของธนาคารโลก
เมืองต้นแบบ ‘เซี่ยงไฮ้-โตเกียว’
“เซี่ยงไฮ้” เป็นตัวอย่างหนึ่ง บริหารโดยรัฐบาลกลางในฐานะมณฑลมากกว่าเมือง จึงมีอำนาจที่แข็งแกร่งและรวมศูนย์ในทุกเรื่อง ตั้งแต่การวางผังถึงการขนส่ง แต่รูปแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ของจีน เพราะผู้นำไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
ตัวอย่างที่เหมาะกว่าคือโตเกียว รัฐบาลมหานครโตเกียว หรือ The Metropolitan Government (TMG) รับผิดชอบบริการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น น้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย และโรงพยาบาลของรัฐ ภายใต้ TMG มี 23 เขตและเทศบาลรอบนอกจำนวนมาก แต่ละแห่งมีนายกเทศมนตรีและสภาที่มาจากการเลือกตั้ง ดูแลบริการระดับชุมชน เช่น โรงเรียน การจัดการขยะ และการวางผังชุมชน
ที่สำคัญ TMG ทำหน้าที่เป็นตัวประสานงานระหว่างหน่วยงานเหล่านี้ แบ่งอำนาจได้สมเหตุสมผล มีขอบเขตหน้าที่ชัดเจน แต่ก็รักษาความเป็นเอกภาพในการตัดสินใจไว้ได้
แม้โตเกียวจะไม่มีหน่วยงานบริหารเดียวสำหรับพื้นที่ใหญ่ทั้งหมด (ซึ่งรวมบางส่วนของจังหวัดใกล้เคียงอย่างคานากาวะ ชิบะ และไซตามะ) แต่รัฐบาลกลางมีบทบาทสำคัญในการประสานงาน บวกกับเครือข่ายรถไฟใต้ดินและรถไฟชานเมืองที่หนาแน่น ทำให้มากกว่า 90%ของผู้คนในพื้นที่โตเกียวใหญ่อยู่ห่างจากสถานีไม่เกิน 20 นาทีเดิน
อ้างอิง: The Economist







