เปิดทางเลือกอิหร่านเอาคืนอิสราเอล ทุกทางล้วนเสี่ยง!

เปิดทางเลือกอิหร่านเอาคืนอิสราเอล ทุกทางล้วนเสี่ยง!

อิหร่านกำลังอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังถูกอิสราเอลโจมตีสถานทูตในซีเรีย ว่าจะแก้แค้นอย่างไรไม่ให้ความขัดแย้งขยายวง นักวิเคราะห์มองว่า รัฐบาลเตหะรานไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น

เมื่อวันจันทร์ (1 เม.ย.) อิสราเอลโจมตีสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรีย เป็นเหตุให้นายพลอิหร่านเสียชีวิตสองนาย ที่ปรึกษาทางทหารเสียชีวิตห้านาย อยาตอลลาห์ อาลี คาเมนี ประกาศว่าจะแก้แค้นอย่างสาสม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัฐบาลเตหะรานมีทางเลือกในการกระทำดังกล่าว ด้วยการใช้กลุ่มตัวแทนจัดการกับกองกำลังสหรัฐ, โจมตีอิสราเอลโดยตรง หรือเพิ่มความเข้มข้นของโครงการนิวเคลียร์

เจ้าหน้าที่สหรัฐหลายรายกล่าวกับรอยเตอร์โดยไม่เปิดเผยตัวตนว่า พวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิดว่ากลุ่มที่อิหร่านหนุนหลังจะโจมตีทหารสหรัฐในอิรักและซีเรียเหมือนอย่างที่เคยทำในอดีตหรือไม่

การโจมตีของอิหร่านยุติลงในเดือน ก.พ. หลังวอชิงตันตอบโต้การสังหารทหารสหรัฐสามนายในจอร์แดน ด้วยการโจมตีทางอากาศหลายสิบครั้งพุ่งเป้าในอิรักและซีเรียเชื่อมโยงกับกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลัง

ล่าสุดเจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า ยังไม่มีข้อมูลข่าวกรองบ่งชี้ว่าจะมีการโจมตีทหารสหรัฐ ในวันรุ่งขึ้น (2 เม.ย.) สหรัฐเตือนเตหะรานไม่ให้โจมตีทหารสหรัฐ

“เราจะปกป้องบุคลาการของเราอย่างไม่ลังเล และขอเตือนอีกครั้งไปยังอิหร่านและกลุ่มตัวแทนไม่ให้แสวงหาประโยชน์จากสถานการณ์ ด้วยการกลับมาโจมตีบุคลากรของสหรัฐอีกครั้ังหนึ่ง” โรเบิร์ต วู้ด ผู้ช่วยทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าว

  • หลีกเลี่ยงสงครามใหญ่

แหล่งข่าวรายหนึ่งผู้ติดตามประเด็นนี้อย่างระมัดระวัง กล่าวว่า อิหร่านเผชิญกับภาวะลำบากใจทั้งอยากตอบโต้เพื่อไม่ให้อิสราเอลโจมตีอีกพร้อมๆ กับไม่อยากให้เกิดสงครามใหญ่

“ถ้าพวกเขาไม่ตอบโต้ในกรณีนี้ก็อาจเป็นสัญญาณว่า การป้องปรามที่ทำมาเป็นแค่เสือกระดาษ” แหล่งข่าวกล่าวและว่า อิหร่านอาจโจมตีสถานทูตอิสราเอลหรืออาคารของชาวยิวในต่างประเทศ

เจ้าหน้าที่สหรัฐรายเดิมกล่าวด้วยว่า เนื่องจากการโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้สำคัญ อิหร่านอาจจำเป็นต้องตอบโต้ด้วยการโจมตีผลประโยชน์ของอิสราเอลมากกว่าเล่นงานทหารสหรัฐ

เอลเลียต เอ็บบรามส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลาง สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กลุ่มคลังสมองของสหรัฐ เชื่อเช่นกันว่า อิหร่านไม่อยากทำสงครามใหญ่กับอิสราเอล แต่อาจเล่นงานผลประโยชน์ของอิสราเอล

“ผมคิดว่าอิหร่านไม่ต้องการสงครามอิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ครั้งใหญ่ในตอนนี้ ดังนั้นการตอบโต้ใดๆ จะไม่ออกมาในรูปของการกระทำครั้งใหญ่ของฮิซบอลเลาะห์” เอ็บบรามส์กล่าวระบุถึง กลุ่มติดอาวุธเลบานอนที่เป็นกลุ่มตัวแทนทรงพลังที่สุดของเตหะราน

“พวกเขามีวิธีการตอบโต้มากมาย เช่น พยายามระเบิดสถานทูตอิสราเอล” เอ็บบรามส์กล่าว

นอกจากนี้อิหร่านอาจตอบโต้ด้วยการเร่งโครงการนิวเคลียร์ อย่างที่เร่งมือมาตลอดนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวจากข้อตกลงในปี 2018 แต่ถ้าอิหร่านดำเนินสองขั้นตอนรุนแรงที่สุด กล่าวคือเร่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสู่ระดับ 90% ซึ่งเป็นระดับทำระเบิดได้ หรือรื้อฟื้นงานออกแบบอาวุธ แต่ก็จะโดนตอบโต้และเปิดทางให้อิสราเอลหรือสหรัฐโจมตี

“การตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งจะถูกอิสราเอลและสหรัฐมองว่า เป็นการทำระเบิด ดังนั้นจึงเสี่ยงมาก พวกเขาพร้อมจะทำหรือไยัง ผมไม่คิดว่าพร้อม” แหล่งข่าวรายเดิมให้ความเห็น

ด้านจอน อัลเตอร์แมน ผู้อำนวยการโครงการตะวันออกกลางกลุ่มคลังสมอง CSIS ในกรุงวอชิงตัน ไม่คาดว่า อิหร่านจะตอบโต้ใหญ่กับการโจมตีสถานทูต

“อิหร่านไม่ได้สนใจสอนบทเรียนอิสราเอลมากไปกว่าแสดงให้พันธมิตรในตะวันออกกลางเห็นว่าตนไม่ได้อ่อนแอ”