'เพย์พาล'เผยแผนเลย์ออฟพนักงาน 9% ทั่วโลกในปีนี้

'เพย์พาล'เผยแผนเลย์ออฟพนักงาน 9% ทั่วโลกในปีนี้

เพย์พาล (PayPal) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มชำระเงินจากสหรัฐ ระบุในหนังสือถึงพนักงานเมื่อวันอังคาร (30 ม.ค.) ว่า บริษัทมีแผนเลิกจ้างพนักงานราว 2,500 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 9% ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลกในปีนี้

นายอเล็กซ์ คริสส์ ซีอีโอคนใหม่ของเพย์พาล ระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับขนาดขององค์กรให้มีความเหมาะสม ด้วยการเลิกจ้างพนักงานและลดการรับพนักงานใหม่ตลอดทั้งปี โดยคาดว่าพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับแจ้งภายในสัปดาห์นี้

นายคริสส์กล่าวว่า "เรากำลังปรับขนาดธุรกิจให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถส่งมอบบริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งขับเคลื่อนการเติบโตของผลกำไร"

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทได้โพสต์หนังสือถึงพนักงานฉบับดังกล่าวลงบนเว็บไซต์หลังปิดตลาดหุ้น โดยหุ้นของเพย์พาลปิดลบ 0.13% ในวันนั้น

เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว นายคริสส์ แสดงความคาดหวังที่จะเพิ่มรายได้นอกเหนือจากส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมเพียงอย่างเดียว และให้คำมั่นว่าจะทำให้บริษัทมีขนาดเล็กลงด้วยการลดต้นทุน

แม้การประกาศดังกล่าวจะช่วยให้หุ้นของเพย์พาลปรับตัวขึ้นหลังไตรมาส 3/2566 แต่นักวิเคราะห์ยังคงจับตาอัตรากำไรของบริษัทในไตรมาสล่าสุด

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของเพย์พาลที่มีอัตรากำไรต่ำมีการเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ผลิตภัณฑ์เด่นของบริษัทกลับเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันมากขึ้นจากคู่แข่งหลายราย เช่น แอปเปิ้ล (Apple) เป็นต้น

เมื่อวันที่ 26ม.ค.ที่ผ่านมา เพย์พาลระบุว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงระบบการชำระเงินในคลิกเดียว (One-Click Checkout)เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามพลิกฟื้นธุรกิจของซีอีโอคนใหม่ของเพย์พาล

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แถลงการณ์ดังกล่าวถือเป็นการประกาศครั้งสำคัญครั้งแรกของเพย์พาลภายใต้การนำของนายคริสส์ ซึ่งเพิ่งเข้าทำงานในเพย์พาลเมื่อเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา และการประกาศเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ครั้งนี้ถือเป็นอีกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ พยายามเอาใจนักลงทุนที่กำลังสนใจกระแส AI โดยกระแส AI ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งสูงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้

นักลงทุนคาดหวังว่านายคริสส์จะพลิกฟื้นหุ้นเพย์พาลที่ปรับตัวลดลงกว่า 22% ตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากกำไรทรุดตัวจนกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยก่อนหน้านี้นายคริสส์ดำรงตำแหน่งผู้บริหารอาวุโสในบริษัทอินทูท (Intuit) ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์จากสหรัฐ

นายคริสส์เรียกปี 2567 ว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านสำหรับเพย์พาลและให้คำมั่นสัญญาว่าจะหารายได้ทางอื่นให้ได้มากกว่ารายได้จากการทำธุรกรรมการชำระเงิน

“ข้อมูลที่เรามีและความสามารถของเราในการเห็นสิ่งที่ผู้คนซื้อและรู้ว่าร้านค้าพยายามเล็งเป้าไปที่อะไร สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมคิดว่า AI คือโอกาสใหญ่สำหรับเรา” นายคริสส์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์

รายงานระบุว่า ปีนี้เพย์พาลจะเปิดตัวแพลตฟอร์มที่ใช้ AI เพื่อให้ร้านค้าสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ โดยอิงตามประวัติการซื้อสินค้าในอดีต ด้วยการใช้ข้อมูลจากการทำธุรกรรมของร้านค้าทั่วโลกมูลค่าประมาณห้าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะเดียวกันร้านค้ายังสามารถใช้เครื่องมือ AI อีกชนิดที่เรียกว่า “ใบเสร็จอัจฉริยะ” เพื่อแนะนำสินค้าเฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าในใบเสร็จที่จัดส่งผ่านอีเมล พร้อมกับเครดิตคืนเงิน

เพย์พาล ระบุด้วยว่า บริษัทกำลังจะเปิดตัวระบบการชำระเงินในคลิกเดียวที่เรียกว่า “ฟาสต์เลน” (Fastlane) ซึ่งในการทดสอบเบื้องต้นพบว่าสามารถเร่งความเร็วของกระบวนการชำระเงินได้เกือบ 40% พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ สำหรับเวนโม (Venmo) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือในเครือเพย์พาล