เนทันยาฮู ย้ำ 'ข้อตกลงสันติภาพ' ต้องแลกกับ 'การทำลายฮามาสให้สิ้นซาก'

เนทันยาฮู ย้ำ 'ข้อตกลงสันติภาพ' ต้องแลกกับ 'การทำลายฮามาสให้สิ้นซาก'

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กำหนดเงื่อนไขเบื้องต้น 3 ประการ เพื่อบรรลุสันติภาพ ยุติความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส และหนึ่งในเงื่อนไขคือ การทำลายกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กำหนดเงื่อนไขเบื้องต้น 3 ประการในการบรรลุสันติภาพเพื่อยุติความขัดแย้งของสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งได้แก่ การทำลายกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก, การทำให้ฉนวนกาซาเป็นเขตปลอดทหาร และการดำเนินการเพื่อกำจัดแนวคิดหัวรุนแรงในสังคมปาเลสไตน์

ความเห็นดังกล่าวถูกระบุในบทความพิเศษของหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (25 ธ.ค.) ในขณะที่อิสราเอลตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ยับยั้งปฏิบัติการที่รุนแรงในฉนวนกาซา ซึ่งเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยกลุ่มนักรบฮามาสบุกโจมตีเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล คร่าชีวิตผู้คนไป 1,200 ราย และจับประชาชนเป็นตัวประกันอีกหลายร้อยราย

“ในการกวาดล้างกลุ่มฮามาสนั้น อิสราเอลจะดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศต่างเต็มที่” เนทันยาฮู ระบุในบทความ โดยกล่าวว่าการกำจัดกลุ่มฮามาสเป็นการตอบสนองที่เหมาะสม เพื่อป้องกันมิให้มีความโหดร้ายรุนแรงเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม

เนทันยาฮูเคยกล่าวหลายต่อหลายครั้งว่า สงครามจะดำเนินต่อไป จนกว่ากลุ่มฮามาสจะถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น โดยเนทันยาฮูและคณะรัฐมนตรีอิสราเอลไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการต่อสู้ หรือสงครามโดยรวม

ในบทความดังกล่าว นายกฯอิสราเอล กล่าวว่า รัฐบาลอิสราเอลต้องการสร้างความเชื่อมั่นว่าฉนวนกาซาจะต้องไม่ถูกใช้เป็นฐานทัพสำหรับการโจมตีอิสราเอลอีกต่อไป และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เนทันยาฮูเสนอว่าจะต้องมีการสร้างเขตรักษาความปลอดภัยชั่วคราวรอบฉนวนกาซา และติดตั้งระบบตรวจสอบตามแนวชายแดนระหว่างฉนวนกาซากับอียิปต์ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยของอิสราเอล และป้องกันการลักลอบขนอาวุธเข้ามาในภูมิภาค

ก่อนหน้านี้สหรัฐได้ให้การสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเองตนเองมาโดยตลอด และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สหรัฐได้คัดค้านมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดยิง แต่เมื่อไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐได้กดดันอิสราเอลมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้เปลี่ยนแปลงแนวทางในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส