'อินเดีย' จ่อขึ้นแท่น 'กลุ่มท่องเที่ยวท็อป 4' ของโลก ภายในปี 2573

'อินเดีย' จ่อขึ้นแท่น 'กลุ่มท่องเที่ยวท็อป 4' ของโลก ภายในปี 2573

รายงานล่าสุดจากบุ๊คกิ้งดอทคอม และแมคคินซีย์ ระบุว่า ชาวอินเดียอาจเป็นผู้ใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2573 และคาดว่าจะใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวแตะ 410,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปีเดียวกัน

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (2 พ.ย.66) ว่า การเที่ยวล้างแค้นหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 อาจหมดไปแล้วในหลายประเทศ แต่ความอยากท่องเที่ยวของชาวอินเดียยังไม่ลดน้อยลง

รายงานล่าสุดจากบุ๊คกิ้งดอทคอม และแมคคินซีย์ ระบุว่า ชาวอินเดียอาจเป็นผู้ใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2573

อย่างไรก็ตาม การเดินทางออกนอกประเทศของชาวอินเดียมีสัดส่วนประมาณ 1% ของการเดินทางทั้งหมดเมื่อปีก่อน แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2573

รายงานคาดการณ์ด้วยว่า ในปี 2573 จะมีการเดินทางมากถึง 5,000 ล้านเที่ยว ซึ่ง 1% ของการเดินทางขาออกอาจเพิ่มสูงถึง 50 ล้านเที่ยว และคาดว่าจะใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวแตะ 410,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปีเดียวกัน เพิ่มขึ้น 170% จากปี 2562 ที่ใช้จ่ายไป 150,000 ล้านดอลลาร์

เดิมทีอินเดียเป็นชาติที่ใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว อันดับที่ 6 ในปี 2562 ขณะที่ สหรัฐ จีน และเยอรมนี เป็นชาติที่ใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวอันดับ 1-3 ตามลำดับ

นอกจากนี้ เมื่อแรงงานอินเดียเข้าสู่ตลาดมากขึ้น การใช้จ่ายต่อหัวของประเทศอาจเพิ่มขึ้น และมากกว่าเศรษฐกิจเอเชียกำลังพัฒนาประเทศอื่นๆ อย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย รายงานจึงคาดว่าอาจมีครัวเรือนอินเดียประมาณ 13 ล้านครัวเรือน ที่สามารถสร้างรายได้ 35,000 ดอลลาร์ต่อครอบครัว เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีเพียง 2 ล้านครัวเรือนในปี 2563

งบการใช้จ่าย 200,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเพิ่มสนามบินในประเทศ ก็เติบโตเป็นสองเท่าตั้งแต่ปี 2557 และเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการท่องเที่ยวที่เติบโต สายการบินอินเดียหลายแห่งเริ่มสร้างเครื่องบินมากกว่า 1,000 ลำแล้ว อาจทำให้จำนวนเครื่องบินเพิ่มมากขึ้นราว 1,500-1,700 ลำ ภายในปี 2573

  • เที่ยวในประเทศยังแกร่ง

แม้คนอินเดียมีกำลังใช้จ่ายมากขึ้น แต่ยังคงพอใจที่จะเที่ยวในประเทศอยู่

รายงานระบุว่า นอกจากเมืองขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่างนิวเดลี และมุมไบ ยังมีพาราณสี โคอิม บาทอร์และโคชิ ก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่นิยมของนักท่องเที่ยวอินเดียเช่นกัน

นอกจากนี้ “จาติน คันนา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ซาโรวาร์ พอร์ทิโค โฮเทลส์แอนด์รีสอร์ท ที่ได้รับการอ้างอิงในรายงานดังกล่าว บอกว่า นักเดินทางชาวอินเดียยังพอใจที่จะเดินทางระยะสั้นแทนที่จะเดินไปต่างประเทศ 1 หรือ 2 ปี

“ชาวอินเดียมีความฉลาด และชอบทดลองอะไรใหม่ๆ ตามที่ต้องการจากการเดินทาง พวกเขาเต็มลองประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครซึ่งมักได้แรงบันดาลใจมาจากสื่อต่าง ๆ ที่ทำให้ค้นพบไอเดียใหม่ ๆ และวางแผนท่องเที่ยวได้”

คันนา กล่าว

อ้างอิง:CNBC

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์