‘เพดานหนี้’ ฉลุย! ไบเดน บรรลุข้อตกลง เลี่ยงผิดนัดชำระ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การบรรลุข้อตกลงนี้ ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของสหรัฐ ในการจัดการภัยคุกคามจากการผิดนัดชำระหนี้อย่างร้ายแรง เนื่องจากเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วัน

นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาสหรัฐทวีตข้อความเมื่อเย็นวันเสาร์ว่า “ผมเพิ่งคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดีไบเดน เมื่อไม่นานมานี้” หลังจากที่เขาเสียเวลาและไม่ยอมเจรจาหลายเดือน เราก็ได้ข้อตกลงในหลักการที่คู่ควรกับชาวอเมริกัน

รัฐบาลคาดว่า กระทรวงการคลังจะไม่มีเพียงพอใช้ชำระหนี้ของรัฐบาล หากยังไม่ขยายเพดานหนี้หรือระงับในวันที่ 5 มิ.ย. 

ก่อนหน้านี้มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจะไม่ปฏิบัติตามภาระผูกพันในการชำระหนี้เป็นครั้งแรกและจุดไฟในตลาดโลก 

แต่ขณะนี้ สัปดาห์แห่งการเจรจาที่ตึงเครียดและมีเดิมพันสูงในสภาคองเกรสและทำเนียบขาวได้สิ้นสุดลง ข้อตกลงดังกล่าวจะอนุญาตให้รัฐบาลเพิ่มหนี้เป็นมูลค่า 31 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการลดอันดับเครดิต ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และอาจตกงานหลายล้านคน 

ที่ผ่านมา สายเหยี่ยวด้านการคลังในสภาผู้แทนราษฎรได้เรียกร้องให้ยกเลิกวาระการใช้จ่ายในประเทศของไบเดนอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อเป็นเงื่อนไขในการป้องกันการผิดนัดชำระหนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อตกลงจะขยายเพดานนี้ออกไปสองปี ขณะที่จำกัดการใช้จ่ายในช่วงเวลานั้น รวมถึงเรียกคืนเงินกองทุนโควิด-19 ที่ยังไม่ได้ใช้ เร่งกระบวนการโครงการพลังงานบางโครงการ ตลอดจนข้อกำหนดการทำงานแบบพิเศษบางประการ ในส่วนโครงการช่วยเหลือสวัสดิการอาหารสำหรับชาวอเมริกันยากไร้

สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีระบุว่า แม้ว่างานนี้รัฐบาลจะยังไม่ผิดนัดชำระหนี้ซึ่งมีเวลาไปถึงกลางเดือน มิ.ย. แต่ "น่าจะต้องระงับการทบทวนสวัสดิการและเงินเดือนของรัฐบาลมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์"

 

   

อย่างไรก็ตาม การประชุมสภาคองเกรสต้องเลื่อนออกไปในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ตอนนี้ฝ่ายนิติบัญญัติอาจถูกเรียกกลับมาออกเสียงโหวนในเรื่องนี้

เจ้าหน้าที่รัฐสภาจะต้องเปลี่ยนข้อตกลงเป็นข้อความทางกฎหมายก่อน จากนั้นนำเข้าสู่สภาคองเกรส โดยปกติจะใช้เวลาอย่างน้อยๆ อีก 6 วันเป็นไปตามกระบวนการสภา แม้ไม่มีกรณีคัดค้านใดๆ ก็ตาม

ผู้นำพรรคกำลังเผชิญกับการแข่งขันกับเวลาเพื่อผลักดันข้อตกลงผ่านสภาคองเกรส โดยพรรครีพับลิกันขวาจัดและพรรคเดโมแครตหัวก้าวหน้าต่างก็บ่นไม่พอใจต่อข้อตกลงที่ทำขึ้นเพื่อปิดข้อตกลง

สถาบันจัดอันดับรายใหญ่ทั้ง Morningstar และ Fitch ได้ติดตามการเจรจาพขยายเพดานหนี้สหรัฐอย่างใกล้ชิด ต่างเตือนว่าพวกเขาเสี่ยงการปรับลดอันดับได้ แม้ว่าจะหลีกเลี่ยงวิกฤตินี้ได้ก็ตาม 

เมื่อ 12 ปีก่อน อดีตประธานาธบิดีบารัก โอบามาสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้อย่างหวุดหวิด โดยการปรับลดอันดับควมาน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้เสียภาษีต้องเสียค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นกว่า 1 พันล้านดอลลาร์