‘ญี่ปุ่น’ ผู้นำยานยนต์ นิยมไฮบริดมากกว่า EV
ขณะที่ตลาดรถยนต์ ตั้งแต่จีนไปจนถึงสหรัฐ แข่งขันกันใช้รถยนต์ไฟฟ้าเต็มท้องถนน แต่สำหรับญี่ปุ่นรถยนต์ไฮบริดยังคงครองตลาดสูงสุด
เมื่อปี 2565 รถยนต์อีวีจำหน่ายในญี่ปุ่น 59,000 คัน ทำสถิติยอดขาดขายเพิ่มขึ้น 3 เท่าต่อปี แต่ยังน้อยกว่ายอดขายรถยนต์ทั้งหมดของประเทศในปีก่อน
สถานการณ์ดังกล่าว อาจดูขัดกับความรู้สึก เมื่อพิจารณาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นที่เป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ไฮบริดและรถอีวี
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ความนิยมรถยนต์ไฮบริดได้ขัดขวางการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า เพราะผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นไม่รีบร้อนที่จะทิ้งไลน์ผลิตรถยนต์ที่มีอยู่
“เคนิชิโร วาดะ” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพลังงานไฟฟ้าแห่งประเทศญี่ปุ่น ผู้ช่วยพัฒนารถอีวีของมิตซูบิชิยุคแรกในช่วงปี 2000 กล่าวว่า “ผมคิดว่า โตโยต้าไม่ต้องการให้เทรนด์การใช้รถยนต์มุ่งไปสู่รถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า เพราะบริษัทเน้นแต่ไฮบริดและลงทุนไปจำนวนมาก”
“อัตสึชิ อิเคดะ” ผู้ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีเป็นคนรักรถยนต์ไฟฟ้ามาก จนก่อตั้งคลับคนใช้เทสลา บอกว่า การมีรถยนต์ไฟฟ้าทำให้เขารู้สึกแปลกแยกจากสังคมญี่ปุ่น
ขณะนี้ รัฐบาลมีสิ่งจูงใจให้ประชาชนเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว แต่อิเคดะ กล่าวว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีชาร์จรถยนต์ในญี่ปุ่นยังน้อยเกิน และโทษว่าประเทศยังมีกฎระเบียบที่เข้มงวด
แดนปลาดิบกำลังเร่งใช้ EV
ผลการศึกษของไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ ระบุว่า จีนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 20% ของการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศเมื่อปีก่อน และยุโรปคิดเป็น 15% ในสหรัฐคิดเป็น 5.3%
ยอดขายที่ดีเหล่านั้นเหมือนตอกหน้าญี่ปุ่น เพราะรถยนต์อีวีญี่ปุ่น มีมายาวนานแล้ว ตั้งแต่มิตซูบิชิมอเตอร์เปิดตัว i-MiEV เมื่อปี 2552 และนิสสันก็ปล่อยรุ่น Leaf ออกมาหนึ่งปีหลังจากนั้น
แต่สมัยนั้นรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาแพงเพราะแบตเตอรีและยังใช้งานไม่ได้เพราะขาดสถานีชาร์จรถยนต์ทั่วประเทศ รถยนต์แบบไฮบริดจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นมาก เพราะมียอดจำหน่ายมากกว่า 40% ของรถยนต์ญี่ปุ่นทั่วประเทศ
แม้อุปสรรคการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในญี่ปุ่นมีมากมาย แต่ก็เห็นสัญญาณเปลี่ยนแปลงบางอย่าง จากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดต่างประเทศ
“โคจิ เอ็นโด” นักวิเคราะห์ยานยนต์จากเอสบีไอ ซีเคียวริตี กล่าวว่า ถ้าผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นตอบสนองความต้องการใหม่ไม่รวดเร็วพอ บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นบางแห่งอาจหายไป
ญี่ปุ่นยังไม่อยากทิ้ง ‘ไฮบริด’
ผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นเริ่มทะเยอทะยานตั้งเป้าผลิตรถยนต์อีวีมากขึ้น แม้บริษัทต่างชาติพยายามตีตลาดรถยนต์อีวีในประเทศ
เมื่อปีก่อน นิสสันได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าซากุระขนาดเล็ก ซึ่งได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น และคิดเป็น 1 ใน 3 ของยอดขายรถยนต์อีวีญี่ปุ่นปี 2565
“โนบุฮิเดะ ยานากิ” หัวหน้าผู้จัดการฝ่ายการตลาดของนิสสัน กล่าวว่า ระยะการเดินทางในแต่ละวันของคนญี่ปุ่นสั้นกว่ายุโรปหรือสหรัฐ ดังนั้น รถยนต์ขนาดเล็ก จึงมีโอกาสได้รับส่วนแบ่งยอดขายอีวีในตลาดมากกว่า
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์จาก 30,000 แห่งสู่ 150,000 แห่งภายในปี 2573 แล้ว
แต่ “คุนิฮารุ ทานาเบะ” ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมยานยนต์ของกระทรวงการค้า ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า เทคโนโลยีไฮบริดราคาไม่แพงและช่วยลดการปล่อยมลพิษได้มาก และว่ากลยุทธ์อีวีของยุโรปเป็นการรณรงค์ใช้รถอีวีสุดโต่งเกินไป
“คริสโตเฟอร์ ริชเตอร์” นักวิเคราะห์รถยนต์จากซีแอลเอสเอ บอกว่า การออกมาเตือนเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของญี่ปุ่นไม่ได้ไร้เหตุผลจนเกินไป โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการขาดแคลนแร่ที่สำคัญอย่าง “แร่ลิเทียม”
