ถึงเวลาหรือยัง รัฐบาลเร่งเครื่อง “เอเปค”

ถึงเวลาหรือยัง  รัฐบาลเร่งเครื่อง “เอเปค”

อีเวนต์อะไรเอ่ย เงียบกว่าฤดูกาล "การแข่งขันเวิลด์คัพ 2022" ก็เห็นจะเป็นการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก(เอเปค) หรือไม่ ทั้งที่ในช่วงนี้ต้องเริ่มโหมโรงเข้าสู่เวลานับถอยหลังเอเปคซัมมิท ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 18 - 19 พ.ย. 2565

เวลานี้ หลายฝ่ายมีความคาดหวังจะเห็น “ผู้นำประเทศ” ออกมาแสดงบทบาทไทยจะใช้เวทีเอเปค ช่วยคลี่คลายปัญหาน้ำมัน อาหารแพง เงินเฟ้อ และขาดแคลนซัพพลายเชน ซึ่งเป็นผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่เข้ามาซ้ำเติมเพิ่มความปั่นป่วนให้กับเศรษฐกิจโลก หลังทุกประเทศเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 นานกว่าสองปี

แม้ในช่วงที่ผ่านมา “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ออกมาพูดถึงประเด็นเหล่านี้กันบ้างแล้ว แต่การได้ยินจากปากผู้นำย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นไปอีก

ที่สำคัญเป็นการดึงโฟกัสของประชาชนกลับมารับรู้ถึง “ประโยชน์” ที่ไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ มากกว่าเกาะติดกระแสแค่ว่า ผู้นำเขตเศรษฐกิจไหนให้การตอบรับเข้าร่วมเอเปคซัมมิทบ้าง ซึ่งไม่แคล้วตามมาด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์การทูตไทย ถือว่าไกลจากแก่นแท้ของการประชุมไปมากๆ 

หนำซ้ำหลายคนยังสับสนว่า ความร่วมมือ "เอเปค" คือ “โอเปก” ซึ่งเป็นองค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออกอาจเพราะดูแลเรื่องน้ำมัน เป็นเรื่องปากท้อง อยู่ในความสนใจของประชาชนมากกว่า

ถึงอย่างไร เชื่อว่า ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะแม่งานใหญ่ ก็ยังคร่ำเคร่งกับการจัดเตรียมงานต่อไป แม้มีองค์ประกอบมากมายหลายสิ่ง เช่น สารัตถะการประชุม พิธีการดูแลต้อนรับผู้นำ และคณะจาก 21 เขตเศรษฐกิจ สถานที่ ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ที่จะนำไปสู่การจัดเวทีใหญ่ระดับภูมิภาค

เอเปคเป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่มีพลัง และการเจริญเติบโตสูงสุดของโลก เพราะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) รวมกันกว่า 42 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 57% ของโลก 

เบื้องหลังของคนทำงานในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ไทยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุ่มเทสรรพกำลัง และหยาดเหงื่อ เพื่อแท็กทีมประสานไปยัง 21 เขตเศรษฐกิจให้การจัดงานครั้งนี้ออกมาเพอร์เฟค และจะดีไม่น้อย ถ้าบรรยากาศการจัดงานมีความราบรื่น เพื่อให้เอเปคเป็นความภูมิใจของคนไทยทุกคน 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์