สกมช. ลุยประชาคมพ.ร.บ.ไซเบอร์ฯ ตอกย้ำบทบาทตามกฎหมาย รับมือภัยคุกคาม

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวว่า รัฐบาลเล็งเห็นว่าความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องได้รับการผลักดันอย่างจริงจัง เพื่อคุ้มครองข้อมูลของประชาชน หน่วยงานรัฐ และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ ท่ามกลางภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและยากจะคาดเดา

ดังนั้น ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์จึงไม่ใช่เรื่องของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วน กิจกรรมในวันนี้สะท้อนความมุ่งมั่นในการส่งเสริมบทบาทของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ให้มีบทบาทเชิงรุก
ในการเฝ้าระวัง วิเคราะห์ และตอบสนองต่อเหตุการณ์ทางไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถ มีจริยธรรมที่เหมาะสมต่อบทบาทสำคัญนี้

พร้อมสนับสนุนให้สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ให้เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ โดยการบูรณาการข้อมูล การสื่อสาร และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง และสามารถรับมือต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ในทุกระดับได้อย่างมั่นคง

พลอากาศตรีอมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สกมช. มุ่งมั่นขับเคลื่อนกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม

โดยวัตถุประสงค์ก็เพื่อสร้างระบบป้องกันและรับมือภัยไซเบอร์ของประเทศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะการพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า และการเสริมศักยภาพบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจเชิงรุกได้อย่างทันเวลา

การจัดประชาคมไซเบอร์ในครั้งนี้สะท้อนบทบาทสำคัญของพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ไซเบอร์ ในการเฝ้าระวัง ตอบสนอง และจัดการสถานการณ์ภัยคุกคามในระดับวิกฤต

โดยการจัดประชาคมที่ผ่านมามีการกิจกรรมตลอดทั้งวันประกอบด้วยการเสวนาวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ชั้นนำ ซึ่งร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ตามพระราชบัญญัติฯ การบูรณาการทำงานข้ามภาคส่วน และการยกระดับมาตรฐานจริยธรรมควบคู่กับทักษะด้านเทคนิค เพื่อสร้างกลไกการป้องกันเชิงระบบ

พร้อมบรรยายเฉพาะทางในหัวข้อ เหตุการณ์และแนวทางการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ (CII) โดยมุ่งเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นของระบบการตอบสนองฉุกเฉินที่มีความรวดเร็วและแม่นยำ

ทั้งนี้ สกมช.จะเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือ เทคโนโลยี และศักยภาพของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมสูงสุดในการรับมือภัยคุกคามทุกรูปแบบ ทั้งนี้ การประชุมประชาคมไซเบอร์แห่งชาติ 2568 ครั้งที่ 2 นี้ถือเป็นหนึ่งในกลไกหลักในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ “พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญตามกฎหมาย 
ที่จะร่วมปกป้องโครงสร้างพื้นฐานและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม