'เอไอเอส' โอดกับดักราคาประมูลคลื่น ฝากรัฐ-กสทช.มองเศรษฐกิจโดยรวม

เอไอเอส พร้อมเข้าร่วมประมูลคลื่นมือถือรอบใหม่เม.ย.นี้ ติงราคาเริ่มต้นแต่ละความถี่แพงระยิบ ระบุเอาเกณฑ์เก่าเมื่อ 10 ปีมาใช้ วอนกสทช.ส่งเสริมเอกชนด้วยแนวทางการกำกับดูแลที่เอื้อต่ออีโคซิสเต็ม
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสจำกัด (มหาชน) หรือ AIS เปิดเผยถึงกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ สำนักงาน กสทช. ได้เผยแพร่ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล แบ่งเป็นย่าน 850 เมกะเฮิรตซ์ 1500 เมกะเฮิรตซ์ 1800 เมกะเฮิรตซ์ 2100 เมกะเฮิรตซ์ 2300 เมกะเฮิรตซ์ และ 26 กิกะเฮิรตซ์ โดยจะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) และคาดการณ์ว่าจะเปิดประมูลได้ในปลายเดือนเม.ย.นี้นั้น
AIS มีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ทุกย่านความถี่ที่ กสทช.เปิดประมูล แต่ราคาเริ่มต้น ที่ประกาศออกมาในเว็บไซต์ต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาว่ายังเป็นราคาที่สูงและอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายโครงข่ายของเอกชนและไม่สมเหตุสมผลต่อสภาพเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาภาครัฐไม่ได้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมใดๆ
ดังนั้น การประมูลคลื่นครั้งใหม่นี้หากมีการแก้ไขร่างประกาศการประมูล หรือสามารถทำให้ราคาความถี่ที่เริ่มต้นการประมูลนั้นลดลงได้ก็จะเป็นประโยชน์ที่ไม่เฉพาะแต่เอกชน แต่เป็นประโยชน์ต่อประเทศทำให้เกิดอีโคซิสเต็มในโครงสร้างเศรษฐกิจโดยรวม
ตอนนี้ในตลาดเหลือผู้ประกอบการเพียงสองรายคือเรากับทรูฯ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้จ่ายค่าคลื่นความถี่ให้กับ กสทช. ไปแล้วรายละกว่า 2 แสนล้านบาท ในความเป็นจริง กสทช.ควรจะให้คลื่นความถี่ฟรีเสียด้วยซ้ำ แต่ในไทย ไม่สามารถ ดำเนินการได้เพราะว่าติดขัดขัดเรื่องปัญหาข้อกฎหมาย”
นายสมชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ราคาเริ่มต้นการประมูลคลื่นความถี่ ควรจะต้องสมเหตุสมผลไม่ใช่อ้างอิงจากราคาจากต่างประเทศและนำราคาประมูลเก่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ส่วนตัวมองว่า เป้าหมาย กสทช.ต้องทำอย่างไรให้ผู้บริโภคใช้ระบบ 4G และ ระบบ 5Gให้มากขึ้นปัจจุบันผู้บริโภคยังใช้ระบบ 2G และ 3G เหมือนเดิมถ้าเอกชนลงทุนเครือข่ายไป กสทช. ก็ควรจะแบกรับภาระต้นทุนค่าเครื่องเพื่อให้เอกชนให้มาใช้ระบบ 4G และ 5G เพื่อจะได้ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต และ เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
สำหรับปี 2568 นี้มองว่า หน้าที่ของโอเปอเรเตอร์ต้องขยายโครงข่ายให้ดี โดยการเพิ่มความจุโครงข่าย (คาปาซิตี้) ให้ได้ต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภคคนใช้งานดาต้าต้องใช้เพิ่มขึ้นทุกปี สวนทางกับรายได้ที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่าไร เป็นเหตุผลจากที่บอกว่า ทำไมถึงไม่อยากให้คลื่นความถี่มันแพง เพราะหากราคาคลื่นแพง การขยายโครงข่ายก็จะทำได้น้อยลง
นายสมชัย กล่าวว่า คลื่นความถี่ย่าน 2300 เมกะเฮิรตซ์ จำนวนแถบความถี่มันสั้นกว่า 2600 เมกะเฮิรตซ์ แต่ราคากลับถูกกว่าได้อย่างไร เพราะอะไรตรงนี้กสทช.ต้องอย่าเลือกปฏิบัติ ส่วนเอไอเอสเรายอมรับว่าก็ต้องการคลื่นความถี่ย่าน 2100 เมกะเฮิรตซ์ ที่เปิดประมูลครั้งนี้ อีกทั้ง ที่ผ่านมา ประมูลคลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ แพงที่สุด 900 เมกะเฮิรตซ์ แพงรองลงมา 2100 เมกะเฮิรตซ์ แพงกว่า 2300 เมกะเฮิรตซ์ ก็แพงกว่า 2600 เมกะเฮิรตซ์ คำตอบตรงนี้กสทช.ไม่เคยระบุว่ามีเกณฑ์อะไร มาเปรียบเทียบหรือเกณฑ์อะไรมาตัดสินที่จะชี้วัดในการเคาะราคาออกมาในแต่ละความถี่
ผมก็พิจารณาทุกคลื่นความถี่ด้วยราคา กสทช. มันเอาแบบนี้มา ทำให้เกิดคำถาม ว่า คลื่นความถี่ย่าน 3500 เมกะเฮิร์ซ เอกชนอย่างเราก็อยากได้ ไม่รู้ว่าจะเข้าประมูล 2 ครั้งเลยหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ยังไม่เห็นมีคำตอบ
สำหรับราคาเริ่มต้นการประมูลประกอบด้วย
- คลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 2 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 2x5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 6,609 ล้านบาท
- คลื่น 1500 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 11 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 904 ล้านบาท
คลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 7 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 2x5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 6,219 ล้านบาท
คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 12 ชุด ความถี่ ใบอนุญาตละ 2x5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 3,391 ล้านบาท (FDD)
คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 3 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 5 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 497 ล้านบาท (TDD)
คลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 7 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 10 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 1,675 ล้านบาท
คลื่น 26 กิกะเฮิรตซ์ จำนวน 1 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 100 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้น 423 ล้านบ
รวมการเปิดประมูลครั้งนี้ทั้งสิ้นจำนวน 450 เมกะเฮิรตซ์ มูลค่า 121,026 ล้านบาท