LINE เปิด 6 เคล็ดลับความสำเร็จ ‘เอสเอ็มอี’ ยุคใหม่

LINE เปิด 6 เคล็ดลับความสำเร็จ ‘เอสเอ็มอี’ ยุคใหม่

LINE ประเทศไทย นำเสนอ 6 วิธีคิดจากธุรกิจเอสเอ็มอีที่น่าสนใจ เพื่อจุดประกายความคิดผู้ประกอบการไทย ให้นำไปปรับใช้เพื่อสร้างธุรกิจเติบโต

การเริ่มต้นและสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับ “เอสเอ็มอี” ทุกราย...

สร้างมาตรฐานทะยานได้ไกลกว่า : แนวคิดการทำธุรกิจที่เป็นเหมือนคัมภีร์ที่ใช้ตอบทุกคำถามในการดำเนินธุรกิจที่มีเป้าหมายสู่การเติบโต

โดยธุรกิจ “โกโก้ร้านไอ้ต้น” มีเป้าหมายต้องการจะสร้างแฟรนไชส์ของตัวเอง จึงต้องใส่ใจ เน้นการวางแผน สร้างมาตรฐานในทุกขั้นตอน และมีระบบในการพัฒนาคุณภาพอย่างชัดเจน

เริ่มต้นง่ายๆ จากการตั้งชื่อ LINE ที่เปลี่ยนจากไอดีแบบสุ่มให้กลายเป็นชื่อแบรนด์ ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ง่าย เร็ว และบอกต่อได้ โดยเรื่องเล็กน้อยและง่ายดายเช่นนี้ถือเป็นสิ่งที่ธุรกิจควรวางรากฐานที่ควรทำตั้งแต่ต้นเพื่อให้ไปต่อได้อย่างมั่นคง

หาพันธมิตรร่วมลงทุน

หาเพื่อนร่วมทางลงทุนร่วมกัน : เมื่อธุรกิจเริ่มมั่นคงและต้องขยาย อย่าเทใจไปที่การลงทุนด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว การหาพันธมิตรร่วมลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในตลาดใหม่ เป็นทางเลือกที่ธุรกิจยุคใหม่นิยมทำกันอย่างกว้างขวาง

โดยเฉพาะเมื่อต้องขยายไปในตลาดที่ตัวเราเองยังไม่ถนัด โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ แบรนด์ “Math Talent by Dr. Ying” สถาบันสอนคณิตคิดเป็นภาพ เปลี่ยนการเรียนเลขของเด็กๆ ให้สนุกขึ้นและเข้าใจได้เร็วกว่าที่เคย ได้ใช้กลยุทธ์นี้ในการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ

โดยมองหานักธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ และพร้อมที่จะลงทุนร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกันในการเติบโต แนวทางนี้ไม่เพียงลดความเสี่ยงในเรื่องการลงทุน แต่ยังทำให้มีเพื่อนคู่คิดที่อาจมีข้อมูลดีๆ มาแบ่งปันกันได้อีกด้วย

อย่าตกใจเมื่อไอเดียถูกก็อปปี้ : เป็นธรรมดาเมื่อพบว่า ไอเดียที่พยายามสรรค์สร้างขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ถูกคนอื่นลอกเลียนแบบไปใช้หาประโยชน์ แบรนด์ "Mommy Booster" เครื่องดื่มจากหัวปลีออร์แกนิค เป็นหนึ่งในเอสเอ็มอีที่เผชิญสถานการณ์นี้

โดยการรับมือด้วยแนวคิดใหม่คือ ไม่ต้องตกใจ แต่ให้มองเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนและพัฒนาตัวเอง เพราะสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า “เราคือผู้นำ” เป็นเจ้าตลาด สิ่งที่ควรทำคือเร่งสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่กว่ามุ่งรักษามาตรฐานของสินค้าและพัฒนาต่อไป โดยใช้ข้อมูลลูกค้าที่มีนำมาวิเคราะห์ความต้องการเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงใจ ตรงจุดยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้ารู้จักเราดีขึ้น และเชื่อมั่น เชื่อใจในแบรนด์เรา เมื่อนั้น ถึงมีของก็อปปี้อออกมา ลูกค้าก็ไม่หนีไปไหนแน่นอน

มองเกมให้ขาด

มองปัญหาให้ทะลุปรุโปร่ง : ในการทำธุรกิจ ผู้ประกอบการมักถูกท้าทายด้วยปัญหาต่างๆ อยู่ทุกวัน โดยเฉพาะความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ที่หลายแบรนด์มักปรับตามไม่ทัน แก้ไม่ตก

ดังเช่นแบรนด์ “Le Viya Wellness Spa” ที่ประสบปัญหาลูกค้าหนาแน่นในสาขาเดียว แม้จะเปิดสาขาอื่นอีกมากมาย โดยผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อแนะนำถึงการวิเคราะห์ที่มาที่ไปของปัญหาให้ดีเสียก่อน อย่าตกหลุมพราง “Marketing Myopia” หรือ “วิสัยทัศน์สั้นทางการตลาด”

การหมกมุ่นกับผลิตภัณฑ์มากเกินไป จนอาจทำให้แก้ปัญหาผิดจุด โฟกัสผิดทาง ผู้ประกอบการต้องวิเคราะห์ให้ออกว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริง ด้วยการพูดคุย ทำแบบสำรวจความพึงพอใจลูกค้า ด้วยรูปแบบ วิธีการเก็บข้อมูลที่ถูกต้อง ถูกทิศทาง จะช่วยทำให้เข้าใจลูกค้าได้ ก่อนจะปักใจเชื่อว่ามันใช่อย่างที่คิด

ขายให้ได้ ต้องอาศัยเรื่องราว

ขายของให้ได้ ต้องอาศัยเรื่องราว : ต้องยอมรับว่าในสมัยนี้ จะขายของให้ได้ดีต้องอาศัยคอนเทนต์ การสร้างเรื่องราวให้คนสนใจ นำไปสู่การอยากทดลองใช้สินค้าและบริการ แบรนด์ “Corgi in the Garden” คาเฟ่น้องหมาเพื่อคนรักคอร์กี้ เข้าใจประเด็นนี้เป็นอย่างดี จึงได้สร้างคอนเทนต์ในรูปแบบที่ใช่ โดนใจคนรุ่นใหม่

อย่างวีดิโอสั้น บอกเล่าเรื่องราวให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันธ์กับน้องหมาแต่ละตัว พร้อมเดินหน้าการตลาดดิจิทัล เพื่อขยายการรับรู้ สร้างความสนใจให้กับคอนเทนต์ที่สร้างมา ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ของร้าน เพิ่มการเข้าถึงวีดิโอด้วยการลงโฆษณาและกระตุ้นการตัดสินใจด้วยการทำคูปองบนอีคอมเมิร์ซ ทำคอนเทนต์ดี มีเครื่องมือขยายการรับรู้ มีคูปองกระตุ้นการซื้อได้ทันใจ จนทำให้ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น

ส่งไม้ต่อธุรกิจแบบมืออาชีพ : หลายธุรกิจเอสเอ็มอี มักเป็นธุรกิจครอบครัว ที่มีการบริหารงานแบบง่ายๆ เข้าใจกันเองระหว่างคนในครอบครัว ระบบเช่นนี้อาจสร้างธุรกิจและสร้างยอดขายได้ในยุคก่อน แต่ในยุคสมัยใหม่นี้ เอสเอ็มอีต้องรู้จักปรับตัว พัฒนาการบริหารงานในรูปแบบมืออาชีพ ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ร้านขายของเล่นเด็กนำเข้าจากทั่วโลก

Hello Neeya 48 อีกหนึ่งตัวอย่างธุรกิจครอบครัว ก่อตั้งจากรุ่นคุณแม่ในวัย 70 ปี ที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ได้เดินหน้าปรับธุรกิจเพื่อส่งต่อสู่รุ่นลูก ด้วยการพัฒนาปรับโฉมแบรนด์ให้มีความโมเดิร์น ทันสมัย นำเอาเครื่องมือดิจิทัลเข้ามาใช้อย่างเป็นระบบ

ที่สำคัญ ปรับวิธีคิดการบริหารภายในให้เป็นไปอย่างมืออาชีพ อาทิ การทำระบบสำนักงานใหม่ กำหนดเป้าหมายธุรกิจ ประชุมทีมงานและพนักงานด้วยกำหนดการที่แน่นอนและสม่ำเสมอ นับเป็นธุรกิจตัวอย่างที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อเปลี่ยนผ่านธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างลงตัว เข้าใจ เพื่อการเติบโตที่ไม่สะดุดสำหรับธุรกิจครอบครัว