"ทีเคซี"บูมดิจิทัลอินฟราฯรับรัฐบาลใหม่

"ทีเคซี"บูมดิจิทัลอินฟราฯรับรัฐบาลใหม่

ทีเคซีจับมือ 3 บริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลก พัฒนาระบบสนามบินอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว โชว์ผลงาน 3 สนามบิน ปัก็งปีนี้รายได้ทะลุ 3,000 ล้านบาท โตเฉลี่ยปีละ 20% มองได้อานิสงส์รัฐบาลใหม่หนุนอินฟราฯดิจิทัลทั่วประเทศ

นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด ( มหาชน ) หรือ ทีเคซี กล่าวถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาลยังมีความไม่แน่นอน ว่า เรื่องความไม่ชัดเจนของการเมือง ในฐานะที่ทำธุรกิจสิ่งที่ทำให้นักลงทุนขณะนี้มีความรู้สึกว่ายังไม่มีนโยบายที่ชัดเจน เพราะนักลงทุนยังไม่รู้ว่านโยบาย หรือแผนการลงทุนจากนี้จะเป็นอย่างไร สิ่งที่รัฐบาลใหม่จะตัดสินใจเดินหน้าเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้คือความเสี่ยง แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือประเทศไทยมีการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม และจากนั้นสามารถทำงานต่อได้ รวมถึงขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่นัดลงทุนรอคอยมากที่สุด เพราะมีความขัดเจนในระดับหนึ่งแล้ว

“ความเสี่ยงเรื่องการเมืองสำหรับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งโดยปกติการทำงานภาคเอกชนทำธุรกิจจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่สำหรับปัจจัยการเมืองที่ส่งผลเกี่ยวข้องกับธุรกิจ เนื่องจากพรรคการเมืองต่างๆ ได้หาเสียงและชูนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัล ซึ่งมองว่าเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมนี้”นายสยาม กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากเกิดการเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนผ่านกับขั้วรัฐบาล ซึ่งไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด รัฐบาลใหม่จะสร้างประโยชน์ให้แก่อุตสาหกรรมนี้ได้ เพราะทุกพรรคการเมืองมีความตั้งใจจะผลักดันดิจิทัลเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับประกอบธุรกิจให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งนี้ สำหรับสิ่งที่อยากเสนอให้กับพรรคการเมืองใหม่นั้น

เนื่องจากประเทศไทยมีโครงสร้างสาธารณะพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ครบวงจรแล้ว ดังนั้น เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาอยากให้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาที่อยากให้ผลักดันด้านเทเลวิเคชั่นให้เป็นรูปธรรม และนอกจากการศึกษาคือเรื่องของสุขภาพ หรือเทเลเฮลธ์ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องเป็นสิ่งที่จำเป็น และขั้นต่อไปต้องทำอย่างไรให้เกิดพื้นที่ธุรกิจจากการนำการศึกษามาผนวกเข้ากับการทำธุรกิจ

พร้อมกันนี้ นายสยาม กล่าวว่า ทีเคซี เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโซลูชัน วางโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี เพื่อเตรียมพร้อมทำเมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ทซิตี้ เล็งเห็นว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นส่วนสำคัญที่สร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง ทั้งนี้ก่อนการแพร่ระบาดโรคโควิด จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสนามบินไทยมากกว่า 40 ล้านคนต่อปี และเมื่อการแพร่ระบาดลดลงปรากฎว่าเพียง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากกว่า 8 - 9 ล้านคน และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากกว่า 20 ล้านคนในปีนี้ ทีเคซีจึงพัฒนาสนามบินอัจฉริยะ เพราะเชื่อว่า การสร้างสนามบินที่ให้บริการมาตรฐาน ทันสมัย มีระบบการจัดการที่ดี ปลอดภัย จะเป็นจุดเด่น สร้างความประทับใจ

"ทีเคซี"บูมดิจิทัลอินฟราฯรับรัฐบาลใหม่

นายสยาม กล่าวว่า บริษัท ทีเคซี ได้ร่วมมือกับ บริษัท ไอเอ็มเอเอส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท โซวิส จำกัด (มหาชน) พัฒนาโครงการสนามบินอัจฉริยะ เพื่อนำเสนอโซลูชั่นให้กับสนามบินในประเทศไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้าน Airport Solution for Managing Passenger Flow ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์โซลูชั่นและระบบตรวจนับความหนาแน่นของผู้โดยสารภายในสนามบินแบบเรียลไทม์ ที่สามารถคำนวณระยะเวลาการรอคอย (wait time) และระยะเวลาการดำเนินการในแต่ละจุดให้บริการสำหรับผู้โดยสารในสนามบิน

โดยระบบจะวิเคราะห์และส่งต่อข้อมูลผ่าน Dashboard ให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผู้บริหารสนามบินก็สามารถบริหารจัดการคู่ค้า และลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ โครงการได้ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 3 สนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ต โดยปัจจุบัน ได้เปิดใช้งานระบบครอบคลุมทั้งพื้นที่ออกบัตรผู้โดยสาร, พื้นที่ตรวจบัตรผู้โดยสาร, และพื้นที่ตรวจคนเข้าเมือง โดยคาดว่า การรุกธุรกิจดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นราว 20% จากปีก่อนโดยคาดว่าปีนี้รายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท