ผ่าแผนใหญ่ ‘เอไอเอส’ รับรัฐบาลใหม่ ลุยต่อ 'เวอร์ชวลแบงก์' ดันดีล 3BB จบสวย

ผ่าแผนใหญ่ ‘เอไอเอส’ รับรัฐบาลใหม่ ลุยต่อ 'เวอร์ชวลแบงก์' ดันดีล 3BB จบสวย

ผ่ายุทธศาสตร์ใหญ่ เอไอเอส เร่งเกมบุกน่านน้ำใหม่ ดันรายได้โตเกินจีดีพีประเทศ ลุยต่อ “เวอร์ชวลแบงก์” ยันดีล ‘3บีบี’ จบสวยตามกรอบเวลากำหนด ไม่หวั่นการเมืองหลังเลือกตั้ง ยัน เอไอเอส พร้อมที่จะแข่งขันภายใต้กฎกติกาที่เท่าเทียมกันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆในตลาด

Key points :

  • เร่งเกมบุกน่านน้ำใหม่ ดันรายได้โตเกินจีดีพีประเทศ
  • ลุยต่อ 'เวอร์ชวลแบงก์' ยันดีล ‘3บีบี’ จบสวยตามกรอบเวลากำหนด
  • ไม่หวั่นการเมืองหลังเลือกตั้ง ยัน เอไอเอส พร้อมที่จะแข่งขันภายใต้กฎกติกาที่เท่าเทียม

‘เอไอเอส’ พี่ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ยังยืนหยัดความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ลุยสร้างมาตรฐานใหม่พลิกภาพโทรคมนาคมแบบเดิม สู่แนวคิด Cognitive Tech-Co ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้มีความอัจฉริยะ

วันนี้ ‘เอไอเอส’ ยังเป็นผู้ถือครองคลื่นความถี่ในมือมากที่สุด ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง รวมกว่า 1460 เมกะเฮิรตซ์

ยุทธศาสตร์ เอไอเอส จากนี้ไม่ได้มีแค่โทรคมนาคม หากเอไอเอส กำลังไล่บุกฮุบน่านน้ำใหม่ ที่เชื่อว่าจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญสร้างความแข็งแกร่งให้ เอไอเอส อย่างไร้ใครเทียบเคียง “เวอร์ชวลแบงก์” หรือธนาคารไร้สาขา เป็นหนึ่งในความหวังธุรกิจน่านน้ำใหม่ที่ เอไอเอส ยืนยันว่า "ยังไงก็ต้องไปต่อ"

ผ่าแผนใหญ่ ‘เอไอเอส’ รับรัฐบาลใหม่ ลุยต่อ 'เวอร์ชวลแบงก์' ดันดีล 3BB จบสวย

ตั้งทีมศึกษา 'เวอร์ชวล แบงก์'

ที่ผ่านมา บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เซ็นสัญญา ร่วมกันกับ ธนาคารกรุงไทย เพื่อร่วมกันจัดตั้ง เวอร์ชวลแบงก์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีกระแสข่าวว่า ได้ร่วมกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจ เพราะกัลฟ์เองก็มีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

‘สมชัย เลิศสุทธิวงค์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ในประเด็นนี้ว่า ในส่วน เวอร์ชวล แบงก์ เอไอเอส รอเพียงเงื่อนไขข้อกำหนด (ทีโออาร์) จากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่ง เอไอเอส พร้อม Apply และเข้าไปดู เข้าไปศึกษา โดยยืนยันว่า ยังมีความสนใจที่จะดำเนินงานเหมือนเดิมและยังมีพันธมิตรเหมือนเดิมคือ ธนาคารกรุงไทย และ กัลฟ์

“ขณะนี้ มีการตั้งทีมศึกษาแนวทางการให้บริการแล้ว เพราะมองว่าเป็นบริการที่ช่วยสร้างความสะดวกให้แก่ประชาชนได้เข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายมากขึ้น”

มั่นใจรายได้โตเกินจีดีพีประเทศ

สมชัย กล่าวว่า สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมปีนี้ มองว่า โทรศัพท์มือถือ และ อินเทอร์เน็ต ยังคงเป็นสินค้าและบริการที่จำเป็นขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่ในแง่อัตราการขยายตัวคงเติบโตในระดับเลขหลักเดียว Single Digit ไม่เติบโตในระดับ Double Digit เหมือนอย่าง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะมีทั้งค่าใช้จ่าย ต้นทุนค่าไฟ ค่าอุปกรณ์ไอที ค่าโอเปอเรชั่นพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพจึงมีความท้าทายอย่างมากในเศรษฐกิจที่เป็นอยู่

“แต่เอไอเอส ยังมั่นใจว่า โดยรวมแล้วผลประกอบการจะเติบโตในระดับมากกว่าจีดีพีประเทศ 1-2% ยกตัวอย่าง เช่นหากจีดีพีประเทศปีนี้เติบโตที่ 3% ผลประกอบการรวมของเอไอเอสจะโตที่ 4% โดยมากกว่า 70% จะเป็นบริการจากด้านดาต้า”

ยัน 3 บีบี จบสวยตามกรอบเวลา

สมชัย เล่าถึงความคืบหน้าของดีล 3บีบี (3BB) ด้วยว่า เอไอเอส รอเพียงความชัดเจนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพราะส่วนตัวมองว่าดีลที่เกิดขึ้นไม่ซับซ้อน การรวมกันระหว่างเอไอเอส กับ 3บีบี ไม่ได้รวมกันแล้วเป็นผู้เล่นรายใหญ่เหนือตลาด เพราะในตลาดอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยังมีผู้เล่นมากกว่า 3 ราย และการให้บริการในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ไม่ได้อิงกับการถือครองคลื่นความถี่

ดังนั้น ใครจะมาทำธุรกิจก็สามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎหมายของ กสทช. โดยมีความหวังว่า ดีลนี้จะมีความคืบหน้าและสิ้นสุดได้ภายในกำหนดอย่างแน่นอน

วางงบโฟกัสเน็ตเวิร์กอัจฉริยะ

ทั้งนี้ เอไอเอส วางงบลงทุนกว่า 27,000-30,000 ล้านบาทในปีนี้ สำหรับการพัฒนาคุณภาพบริการและโครงข่ายสื่อสารอัจฉริยะ 5จี โดยพร้อมเดินหน้านำศักยภาพความแข็งแกร่งของธุรกิจในทุกมิติมาร่วมกันสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจแบบร่วมกัน ภายใต้การขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรโทรคมนาคม เทคโนโลยีอัจฉริยะ รองรับโอกาสและการเติบโตของกลุ่มธุรกิจในอนาคต

ปัจจุบัน เอไอเอสมีจำนวนลูกค้าในระบบจำนวน 46.1 ล้านราย มีผู้ใช้งาน 5จี อยู่ที่กว่า 7.2 ล้านราย เติบโตขึ้นจาก 2.8 ล้านราย ในช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา โดยสามารถให้บริการ 5จี ครอบคลุมถึง 87% ของพื้นที่ประชากรไทย

ทั้งยัง เน้นย้ำการดำเนินงานภายใต้ วิสัยทัศน์ Cognitive Tech-Co เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและคนไทยในการก้าวข้ามทุกข้อจำกัด และเติมเต็มอีโคซิสเตม อีโคโนมี ที่เอไอเอส มองการเติบโตของทุกภาคส่วนร่วมกันทั้งระบบนิเวศ

นั่นทำให้โครงข่ายสื่อสารต้องมีความสามารถใหม่ๆ ที่มีความพร้อมที่จะเอื้อต่อการเติบโตของระบบนิเวศทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน ทั้งในเรื่องของเน็ตเวิร์กที่ต้องมีการสร้างความมีส่วนร่วมกับลูกค้าตลอดเวลา สามารถสร้างรูปแบบบริการเฉพาะบุคคลแบบเฉพาะบุคคลของลูกค้าได้อย่างตรงใจ และมีความรวดเร็วสามารถตอบสนองในระดับเรียลไทม์เพื่อให้เท่าทันทุกความต้องการของลูกค้า

ชูมาตรฐานใหม่พลิกอุตสาหกรรม

เขา กล่าวว่า ที่ผ่านมา เอไอเอส ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ด้วยการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน ดิจิทัลให้มีความอัจฉริยะ ด้วยการถือครองคลื่นความถี่มากที่สุด ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง รวมกว่า 1460 เมกะเฮิรตซ์ รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที เพื่อร่วมกันพัฒนาดิจิทัล อินฟราสตรักเจอร์ของให้ประเทศให้มีความแข็งแกร่ง สามารถใช้คลื่นความถี่ที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทยตามความตั้งใจของทั้งสององค์กรที่ได้ประมูลมา

รวมถึงจะทำให้ เอ็นที เป็นองค์กรโทรคมนาคมแห่งชาติ ให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ ลูกค้าเอไอเอส จะได้รับบริการที่ดียิ่งขึ้น จากการมีคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ เพิ่มขึ้นอีก 10 เมกะเฮิรตซ์ ทำให้เอไอเอสมีคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์รวมเป็น 40 เมกะเฮิรตซ์ ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ

นอกจากนี้ ในส่วนของ 5G SA (Stand Alone) ที่ช่วยประหยัดพลังงาน เอไอเอส ยังเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่สามารถเปิดให้บริการได้ครบทั้ง 77 จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตพื้นที่เศรษฐกิจอีอีซี ครอบคลุมกว่า 92%

ล่าสุดยกระดับการให้บริการที่รองรับ Millimeter Wave ในย่านความถี่สูงเป็นครั้งแรก ความเร็วแรงทะลุมาตรฐาน 5จี ที่ 3Gbps บนเครือข่าย 5G Millimeter Wave ย่าน 26 กิกะเฮิรตซ์รายแรก รายเดียวในไทยผ่านสมาร์ตโฟนระดับโลก

รวมไปถึงโครงข่ายเน็ตบ้านที่วันนี้ เอไอเอส ไฟเบอร์ เข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วไทยกว่า 8.8 ล้านครัวเรือน และครองส่วนแบ่งตลาดในเชิงของผู้ใช้งานกว่า 16%

หวังรัฐบาลตั้งเร็ว-ยันเอไอเอสเล่นตามกติกา

สำหรับ บรรยากาศทางการเมือง ภายหลังการเลือก ซีอีโอ เอไอเอส ให้ความเห็นในมุมมองเอกชน ต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดูเรื่องเศรษฐกิจ โดยส่วนตัวหวังว่า รัฐบาลใหม่จะจัดตั้งให้แล้วเสร็จโดยรวดเร็ว มีความชัดเจนด้านนโยบาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เอกชนปรารถนา อย่างที่สุด มากกว่ามีการเล่นเกมทางการเมืองหรือดึงให้เกิดสุญญากาศ

“สำหรับมีกระแสข่าวว่าเอไอเอสก็ถือเป็นกลุ่มทุนใหญ่ซึ่งพรรคก้าวไกลจะเข้ามาแก้ไขและเป็นที่จับตานั้น ส่วนนี้ผมบอกเลยว่าผมไม่ได้กังวลเพราะเอไอเอสพร้อมที่จะแข่งขันภายใต้กฎกติกาที่เท่าเทียมกันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆในตลาด ที่ผ่านมามีการประมูลคลื่นความถี่ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล เราก็ยินดีเข้าประมูลโดยไม่มีเงื่อนไขเพราะต้องการนำเอาคลื่นความถี่มาให้บริการแก่ประชาชน”

ทั้งนี้ ในส่วนของข้อเสนอที่ฝากไปยังรัฐบาลใหม่ต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาจัดการในสามประเด็น คือ1.เศรษฐกิจ 2.การเมือง และ 3.สังคม

ในเรื่องของเศรษฐกิจนั้น อยากให้รัฐบาลใหม่เข้ามาสนับสนุนและช่วยเหลือกลุ่มทุนที่เป็นผู้ประกอบการรายเล็กหรือเอสเอ็มอีเพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนโดยกลุ่มทุนขนาดใหญ่ซึ่งมีการกระจุกตัวในด้านของการบริหารจัดการและรายได้ ดังนั้น หากรัฐบาลใหม่มีนโยบายในการที่เข้าไปช่วยเหลือแก่กลุ่มทุนที่เป็นระดับรากหญ้าจะทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมีเสถียรภาพและเกิดความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

ส่วนประเด็นการเมืองความมีเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นคู่ค้าหรือพันธมิตรของเอไอเอสที่เป็นต่างชาติไม่ได้กังวลว่ากลุ่มใดหรือพรรคการเมืองไหนจะมาเป็นรัฐบาลแต่สิ่งที่คู่ค้าต่างประเทศมองคือความมีเสถียรภาพและความชัดเจนในนโยบายซึ่งกลุ่มทุนเหล่านั้นพร้อมที่จะปรับตัวและแก้ไขกฎให้สอดรับกับระเบียบหากมีการเปลี่ยนแปลง

และในเรื่องปัญหาสังคมทั้งในเรื่องของการคอร์รัปชัน ปัญหายาเสพติด หรือการจ่ายส่วยตามที่มีกระแสข่าวในช่วงนี้ออกมายังแพร่หลาย เอกชนก็อยากให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ที่ฝังรากลึกและมีปัญหาอยู่ใต้พรมซึ่งหากแก้ปัญหาแก้ไขปัญหานี้ได้จะเป็นการช่วยยกระดับปากท้องของพี่น้องประชาชนในประเทศให้มีความเป็นอยู่ที่กินดีมากขึ้นเพราะจะเป็นการแก้ไขปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งระบบ