วิชั่น 5G 'หัวเว่ย' คลื่นลูกใหม่ ปลดล็อก ‘ดิจิทัล อีโคโนมี’

วิชั่น 5G 'หัวเว่ย' คลื่นลูกใหม่ ปลดล็อก ‘ดิจิทัล อีโคโนมี’

เทคโนโลยี 5G เติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 3 ปี และได้เห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจน ทั้งด้านการติดตั้งเครือข่าย การให้บริการลูกค้า รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในอุตสาหกรรมต่างๆ

เคน หู ประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระ หัวเว่ย เปิดมุมมองว่า ท่ามกลางความก้าวหน้าและความสำเร็จยังมีอีกหลายประเด็นที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการดึงศักยภาพของ 5จี เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดและขยายไปสู่การบริการด้านต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็น คลาวด์ การพลิกโฉมด้านไอทีต่างๆ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนทั้งการพัฒนา 5G, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี และการเติบโตของอุตสาหกรรมไอซีทีไปพร้อมกัน

ข้อมูลระบุว่า เดือนต.ค.2565 ผู้ให้บริการเครือข่ายมากกว่า 230 รายทั่วโลกได้เปิดตัวบริการ 5G เชิงพาณิชย์ โดยอุตสาหกรรมมีการจัดตั้งสถานีฐาน 5G รวมกันมากกว่า 3 ล้านแห่ง และให้บริการสมาชิกมากกว่า 700 ล้านรายทั่วโลก

กลไกเติบโต-เพิ่มรายได้

สำหรับธุรกิจโทรคมนาคม เมื่อเทคโนโลยี 5G แพร่หลายมากขึ้น การมอบประสบการณ์ใหม่ของ 5G ได้ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป 

ที่น่าสนใจพบว่า ปริมาณการรับส่งวีดิโอความละเอียดสูงเติบโตอย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 5G ความเร็วสูงที่มีค่าความหน่วงต่ำส่งผลให้ปริมาณการดูข้อมูลโดยเฉลี่ยต่อผู้ใช้ (DOU) เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และเพิ่มอัตราเฉลี่ยค่าบริการต่อผู้ใช้งาน (ARPU) ขึ้น 20%-40% ส่งผลให้รายได้ด้านบริการเชื่อมต่อของผู้ให้บริการเครือข่ายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในธุรกิจบีทูบีกลายเป็นกลไกสร้างการเติบโตของรายได้ของผู้ให้บริการเครือข่าย ทั้งยังสร้างมูลค่ามหาศาลในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น น้ำมันและก๊าซ การผลิต และการขนส่ง 

โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเหล่านี้กลายเป็นนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าทางธุรกิจอย่างมหาศาลให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย ปี 2564 ผู้ให้บริการเครือข่ายของจีนสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่กว่า 3.4 พันล้านหยวน (ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์) จากโครงการ 5จี เชิงอุตสาหกรรมมากกว่า 3,000 โครงการ

ยิ่งไปกว่านั้น โครงการเหล่านี้ยังสร้างรายได้มากขึ้นอีก 10 เท่าจากการประยุกต์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและบริการด้านไอซีทีแบบครบวงจร

เสริมประสบการณ์ เติมมูลค่าธุรกิจ

หัวเว่ยคาดการณ์ว่า การใช้ 5G ในธุรกิจบีทูบีจะกลายเป็นกระแสรายได้ที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับผู้ให้บริการ 5G ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ใหม่ในอุตสาหกรรมบริการ, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ปูทางสู่โอกาสการเติบโตที่ไม่เคยมีมาก่อน

อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากการขยายความครอบคลุมแล้ว ควรปรับการพัฒนาเครือข่ายให้เข้ากับประสบการณ์ผู้ใช้แบบต่างๆ อย่างลงตัว อีกทางหนึ่ง ผู้เล่นในอุตสาหกรรมต้องร่วมมือกันเพื่อกำหนดมาตรฐาน, เตรียมความพร้อมด้านคลื่นความถี่และฟูมฟักอีโคซิสเต็มไปด้วยกัน

ทุกวันนี้ เทคโนโลยี 5G ให้ความเร็วสูง ค่าความหน่วงต่ำ ผสานกันอย่างไร้รอยต่อไปกับคลาวด์และเอไอ เพื่อมอบบริการใหม่สำหรับผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ ส่งผลทำให้ผู้ให้บริการสามารถมอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเฉพาะบุคคล

เช่น Extended Reality (XR), การเล่นเกมบนคลาวด์ บริการบนดิจิทัล โซลูชันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลขององค์กรที่ครอบคลุมกว่าที่เคย สามารถมุ่งสู่การเปิดกระแสรายได้ใหม่โดยเพิ่มโอกาสการเติบโตของผู้ให้บริการเครือข่ายให้รุดหน้าไปไกลกว่าการเชื่อมต่อ และมุ่งสู่บริการคลาวด์และการบูรณาการระบบเต็มรูปแบบ

คลื่นลูกใหม่ การพัฒนาเศรษฐกิจ

ผู้บริหารหัวเว่ยวิเคราะห์ว่า การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมเป็นคลื่นลูกใหม่ของการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และ 5จี เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและช่วยเปิดโอกาสใหม่ทั่วโลก 

ดังนั้น ทุกฝ่ายในอีโคซิสเต็มไอซีทีต้องร่วมมือกันเพื่อผลักดันโอกาสเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยความร่วมมือที่แข็งแกร่งจะขับเคลื่อนการพัฒนาเครือข่าย 5G รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมโดยรวมให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ปัจจุบัน เครือข่าย 5G เร็วกว่า 4G ถึง 10 เท่า ให้ความเร็วมากกว่า 1 Gbps ผู้ใช้ 5G ยังใช้ข้อมูลได้มากกว่า 4G ถึงสองเท่า หรือมากกว่า 20 GB ต่อเดือน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจทั้งเชิงประสบการณ์ผู้ใช้ การเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (ไอโอที), และการเข้าสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรม

“5G เปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการสามารถสร้างรายได้ได้มากกว่าที่เคย เอื้อต่อการเชื่อมต่อหลากหลายรูปแบบ ขณะเดียวกันระหว่างเข้าสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรม ได้มอบบริการคุณภาพสูงและการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพ”