ChatGPT โตแรงบนมือถือ ใช้เวลา 31 เดือน กวาดเงินผู้ใช้ทั่วโลก 3 พันล้านดอลลาร์
นับตั้งแต่บริษัท OpenAI เปิดตัวแอปพลิเคชัน ChatGPT บนสมาร์ตโฟน ขณะนี้ผู้ใช้ทั่วโลกจ่ายเงินให้ ChatGPT ไปแล้วรวมกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ นับเป็นเวลา 31 เดือน ขณะที่ TikTok ใช้เวลา 58 เดือนกว่าจะถึงระดับเดียวกัน
KEY
POINTS
- แอปพลิเคชัน ChatGPT บนมือถือทำรายได้สะสมจากผู้ใช้ทั่วโลกถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2566
- ใช้เวลาเพียง 31 เดือนในการสร้างรายได้ถึงระดับดังกล่าว ซึ่งถือว่าเร็วกว่าแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง TikTok (58 เดือน) และ Disney+ (42 เดือน)
- รายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2568 เพียงปีเดียวทำเงินได้เกือบ 2,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 408% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
บริษัท Appfigures ผู้วิเคราะห์ข้อมูลแอปพลิเคชัน เปิดเผยว่า แอปพลิเคชัน ChatGPT บนมือถือทำรายได้สะสมจากผู้ใช้ทั่วโลกถึง 3,000 ล้านดอลลาร์แล้ว โดยนับรวมการใช้จ่ายบนระบบ iOS และ Android ตั้งแต่เปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2566
ข้อมูลระบุว่า รายได้ส่วนใหญ่มาจากปี 2568 เพียงปีเดียว โดยผู้ใช้ทั่วโลกใช้จ่ายผ่านแอป ChatGPT บนมือถือประมาณ 2,480 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 408% เมื่อเทียบกับปี 2567 ที่มีรายได้ราว 487 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ในปี 2566 ซึ่งเป็นปีแรกที่เปิดให้บริการ มีรายได้อยู่ที่ 42.9 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบกับแอปยอดนิยมอื่นๆ ChatGPT ใช้เวลาเพียง 31 เดือนในการทำรายได้สะสมถึง 3,000 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ TikTok ใช้เวลานานถึง 58 เดือนกว่าจะถึงระดับเดียวกัน นอกจากนี้ ChatGPT ยังทำรายได้ถึงระดับดังกล่าวได้เร็วกว่าบริการสตรีมมิงรายใหญ่หลายราย เช่น Disney+ ที่ใช้เวลา 42 เดือน และ HBO Max ที่ใช้เวลา 46 เดือน
ในกลุ่มแอปปัญญาประดิษฐ์ด้วยกัน แอป Grok ของบริษัท xAI มีแนวโน้มรายได้ใกล้เคียงกับ ChatGPT มากที่สุดเมื่อเทียบกับแอปรายอื่น Grok เปิดตัวในช่วงปลายปี 2566 เริ่มให้บริการแก่สมาชิก X Premium Plus บนแพลตฟอร์ม X ก่อนจะขยายให้ผู้ใช้ทั่วไปในปีถัดมา หากพิจารณายอดรายได้สะสมตั้งแต่ช่วงที่แต่ละแอปเริ่มเก็บเงินจากผู้ใช้ Grok เป็นแอปที่มียอดใกล้กับ ChatGPT มากที่สุดในช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม รายได้ 3,000 ล้านดอลลาร์ไม่ได้สะท้อนภาพรวมทั้งหมดของการใช้งานแอปปัญญาประดิษฐ์หรือศักยภาพรายได้ในระยะยาว
ปัจจุบันผู้ใช้ ChatGPT บนมือถือส่วนหนึ่งสมัครบริการแบบเสียเงิน เช่น ChatGPT Plus ค่าบริการ 20 ดอลลาร์ต่อเดือน และ ChatGPT Pro ค่าบริการ 200 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับผู้ใช้งานขั้นสูง
นอกจากนี้ แอปปัญญาประดิษฐ์ยังสามารถสร้างรายได้จากช่องทางอื่นๆ เช่น บริการสำหรับนักพัฒนา และในอนาคตอาจรวมถึงการโฆษณา
เมื่อวันพุธที่ 17 ธันวาคม OpenAI ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มภายใน ChatGPT ที่มีลักษณะคล้ายร้านแอป โดยบริษัทระบุผ่านบล็อกว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวมีแผนนำไปพัฒนารูปแบบการสร้างรายได้ในอนาคต
ขณะเดียวกัน Google กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับธุรกิจโฆษณาบนระบบค้นหา ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัท ให้เชื่อมโยงกับการค้นหาที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น เช่น การแสดงโฆษณาในโหมดเอไอ, AI Overviews, ระบบช้อปปิ้งด้วยเอไอ และหน้า Discover ที่ใช้เอไอเพิ่มขึ้น
ส่วน Anthropic ผู้พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อีกรายหนึ่ง กำลังมุ่งเน้นตลาดลูกค้าองค์กร และมีรายงานว่าบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมถึง 70,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2571
อ้างอิง: Techcrunch