‘ชไนเดอร์’ หนุนองค์กรพลิกโฉมดิจิทัลปูทางสร้างความยั่งยืนธุรกิจ

‘ชไนเดอร์’ หนุนองค์กรพลิกโฉมดิจิทัลปูทางสร้างความยั่งยืนธุรกิจ

ชไนเดอร์ ประกาศเป้าหมายปี 2565 ปักธงหนุนองค์กรสร้างธุรกิจแบบยั่งยืน เดินหน้าสร้างพันธมิตรด้านดิจิทัล เสริมองค์กร การค้า อุตสาหกรรม เร่งปฏิรูปสู่ระบบดิจิทัล 

นายสเตฟาน นูสส์ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ดูแลประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นด้านการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น กล่าวว่า ปี 2565 ชไนเดอร์วางวิสัยทัศน์ที่มุ่งไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการช่วยให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ร่วมกันต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยที่จะให้ความสำคัญอย่างมากคือ เส้นทางในการก้าวสู่การปฏิรูปทางดิจิทัลที่สอดคล้องกับเป้าหมายและความมุ่งมั่นด้านสภาพอากาศขององค์กรต่างๆ เพื่อให้บรรลุความยั่งยืน

"ปีนี้ชไนเดอร์ อิเล็คทริคยังคงเดินหน้าต่อไปในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อมุ่งไปสู่ความยั่งยืน ภายใต้เศรษฐกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net-zero)"

โดยการเร่งให้องค์กรธุรกิจและองค์กรด้านอุตสาหกรรม ก้าวสู่การปรับกระบวนการสู่ระบบดิจิทัล ขจัดก๊าซคาร์บอน และปฏิรูปทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการสร้างผลงานในตลาดประเทศไทยได้อย่างโดดเด่น คือสิ่งสำคัญอันดับต้น

บริษัทเชื่อว่าระบบไฟฟ้าคือพลังงานที่มีประสิทธิภาพที่สุด และเมื่อระบบไฟฟ้ามาบรรจบกับระบบดิจิทัล ก็จะเป็น ระบบไฟฟ้า 4.0 ที่จะนำเสนอแนวทางใหม่ในการกระจายพลังงาน มองเห็นสถิติการใช้พลังงาน และนำไปสู่การประหยัดพลังงานในที่สุด

พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตคือ ระบบไฟฟ้าสู่ “ความเป็นศูนย์” การสูญเสียพลังงานเป็นศูนย์ การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ เรากำลังสร้างโลกพลังงานใหม่ ด้วยการนำเสนอการใช้พลังงานด้วยระบบอัจฉริยะให้แก่ ที่พักอาศัย อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ อุตสาหกรรม ระบบโครงสร้าง และกริด”

นายสเตฟาน คาดว่าจะมีการใช้ระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในการใช้พลังงานแบบผสมผสานภายใน 20 ปีข้างหน้า ดังนั้น โลกจะกลายเป็นระบบไฟฟ้ามากขึ้น เมื่อใช้ระบบไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อขจัดคาร์บอน ควบคู่ไปกับการใช้ระบบดิจิทัลเพื่อสร้างประสิทธิภาพ ก็จะช่วยนำพาธุรกิจและองค์กรต่างๆ ในทุกภาคส่วนไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอแนวทาง 3 ขั้นตอนในการส่งเสริมอุตสาหกรรมต่างๆ ด้านความยั่งยืน เริ่มตั้งแต่การกำหนดกลยุทธ์ ไปจนถึงการดำเนินการ เพื่อมอบผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพอากาศตามความมุ่งมั่นขององค์กรเหล่านั้น ซึ่งแนวทาง 3 ขั้นตอน มีดังต่อไปนี้

  • การวางกลยุทธ์ เพื่อกำหนดสถานภาพปัจจุบัน จากจุดที่ลูกค้าเริ่มต้นโครงการ รวมถึงการประเมินเพื่อกำหนดหาฐานอ้างอิง พร้อมกับการพัฒนา roadmap ในการขจัดคาร์บอนทั้งหมดที่ต้องดำเนินการ
  • การปรับสู่กระบวนการดิจิทัล เพื่อตรวจสอบทรัพยากรทั้งหมดที่ใช้ และการปล่อยมลพิษที่เกี่ยวข้อง จากนั้นระบุหาโอกาสในการลดคาร์บอน โดยใช้แพลตฟอร์มและการบริการของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ให้ประสิทธิภาพได้อย่างโดดเด่น
  • การดำเนินการตามแผนงาน เพื่อดำเนินการตามแผนทั้งหมดและนำไปสู่การขจัดคาร์บอนในที่สุด ด้วยการเปลี่ยนกระบวนการทำงานเป็นระบบไฟฟ้า ลดการใช้พลังงาน  โดยใช้โซลูชัน ผลิตภัณฑ์ที่มีการเชื่อมต่อทั้งหมดของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค

ผลการศึกษาจาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค และ GreenBiz Research เผยว่า หลายองค์กรที่มีการบริหารจัดการเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง องค์กรเหล่านี้จะได้รับผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นที่สูงกว่าองค์กรที่ไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้ถึง 67%โดยเฉลี่ย

นอกจากนี้ การวิจัยล่าสุดจากสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ยังเผยให้เห็นว่า บริษัทที่มุ่งเน้นกลยุทธ์ เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม จะมีอัตราการเติบโตประจำปีอยู่ที่ 15%

สำหรับบทบาทของการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลเพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืนให้กับลูกค้า ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อ ซอฟต์แวร์ ระบบวิเคราะห์ และบริการ เพื่อช่วยขจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการดำเนินการให้กับลูกค้าในภาคส่วนต่างๆ

งานสัมมนา “Fast Track to the Net Zero” วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2565 เวลา 13.00 – 17.30 น. ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนภายในวันที่ 4 มีนาคม 2565 ได้ที่ www.bangkokbiznews.com/seminar/netzero3 เพื่อรับลิงก์ชมการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-338-3000 กด 1