โนเกียส่งแท็บเล็ตรุ่นแรก ‘Nokia T20’ ประเดิมตลาดไทย
![โนเกียส่งแท็บเล็ตรุ่นแรก ‘Nokia T20’ ประเดิมตลาดไทย](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2022/02/62jw7FiQIiYhhapyGoGq.webp?x-image-process=style/LG)
"Nokia T20" แท็บเล็ตรุ่นแรกใต้แบรนด์ "โนเกีย" มาพร้อมกับแบตที่อึด สเปคดี ราคาคุ้มค่า การันตีอัพเกรดแอนดรอยด์โอเอสให้ 2 ปี เปิดราคาที่ 8,590 บาท
นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) เผยว่า เดินเกมรุกตลาดประเทศไทย ด้วยการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตเป็นครั้งแรก นำร่องด้วยการเปิดตัว “Nokia T20" แท็บเล็ตใหม่รุ่นแรก มุ่งเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคเข้าถึงสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ราคาคุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งานยุคดิจิทัล ไปพร้อมกับการสร้างแบรนด์โนเกียให้เข้มแข็งในตลาดไทย
นับเป็นแท็บเล็ตที่มีฟีเจอร์และเทคโนโลยีอเนกประสงค์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อการทำงาน การเรียน และความบันเทิง
มาพร้อมกับ Android 11TM รองรับการอัพเกรด 2 ปี อัพเดทความปลอดภัยรายเดือนตลอด 3 ปี และ Google Kids Space เพื่อความปลอดภัยสำหรับการใช้งานของเด็ก
ด้านการดีไซน์เป็นสไตล์สแกนดิเนเวีย ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพ โครงสร้างตัวเครื่องเป็นโลหะเหล็กแข็งแรง ทนทานใช้งานได้ยาวนานตามแบบฉบับโทรศัพท์มือถือโนเกีย กรอบจอ 3 มิติขัดเงา ติดจอขนาดใหญ่เข้ากับตัวเครื่องโลหะ
Nokia T20 ถูกรวมอยู่ในกลุ่มอุปกรณ์ Android Enterprise Recommended (AIR) ตรงตามข้อกำหนดระดับองค์กรที่เข้มงวดของ Google ซึ่งผู้ใช้งานสามารถวางใจได้ว่าเครื่องสามารถสนับสนุนงานของธุรกิจได้ โดย Nokia T20 แท็บเล็ตใหม่ ยังทำงานร่วมกับ HMD Enable Pro ซึ่งเป็นโซลูชั่นการจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ระดับองค์กรที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสามารถจัดการอุปกรณ์ที่ใช้จากอินเทอร์เฟซแบบครบวงจรอีกด้วย
สำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทยมีสี Nordic Blue (สีน้ำเงิน) หน่วยความจำ RAM 4GB ROM 64GB พร้อมช่องใส่ MicroSD การ์ด 512GB ราคา 8,590 บาท ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ช้อปปี้ ลาซาด้า เจดีเซ็นทรัล
ข้อมูลระบุว่า ตลอดปีที่ผ่านมาวิถีชีวิตการทำงาน และการเรียนแบบออนไลน์ เกิดการใช้งานบนโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มวิดีโอคอล และบริการสตรีมมิ่งที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมการใช้งาน
โดยในปี 2564 ทั่วโลกมียอดขายแท็บแล็ต จำนวน 170 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นกลุ่มการใช้งานเป็นผู้ชาย 55% และผู้หญิง 45% ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทย
จากรายงานล่าสุดของ Counterpoint เกี่ยวกับแท็บเล็ตในตลาดทั่วโลก ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการใช้แท็บเล็ตเพิ่มขึ้นถึง 53% ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563
ขณะที่รายงาน Connected Consumer Radar ของโนเกียล่าสุดที่พบว่า 27% ของผู้ใช้งานแท็บเล็ตเห็นคุณค่าของแท็บเล็ตที่ใช้งานมากขึ้น ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับประเทศไทย ผู้บริโภคต้องการใช้แท็บเล็ตเพื่อการทำงานและการเรียนออนไลน์เพิ่มขึ้น
"แม้สถานการณ์แพร่ระบาดจะเริ่มคลี่คลายลงได้ในอนาคต แท็บเล็ตก็จะยังเป็นเครื่องมือสำคัญด้านการทำงาน การเรียน และเพื่อความบันเทิง เนื่องจากได้กลายเป็นเครื่องมือเข้าถึงโลกดิจิทัลได้สะดวกรวดเร็วที่สำคัญไม่แพ้สมาร์ทโฟน ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานในระยะเวลานานได้ดีกว่า และยังมีขนาดพอเหมาะพกพาง่ายเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค"
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์