‘อิงมาร์ หวาง’ หัวเว่ย ชู ‘1+8+N’ เดิมพันผู้นำสมาร์ทโฟนไทย

แม้ว่าจะมีหลายสถานการณ์ “วิกฤติ” เข้ามาท้าทาย ทว่ายังสามารถยืดหยัด พร้อมเดินหน้าต่อภายใต้ความหวังที่ว่าปีหน้าจะกลับเติบโตและสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดไอทีประเทศไทยมากกว่าเดิม

อิงมาร์ หวาง ผู้อำนวยการ บริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป(ประเทศไทย) เปิดวิสัยทัศน์ว่า แนวทางธุรกิจหัวเว่ยคอนซูเมอร์ ปี 2564 จะยังคงสานต่อกลยุทธ์ “1+8+N” ที่มุ่งเชื่อมต่อสมาร์ทดีไวซ์ในอีโคซิสเต็ม โดย “1” คือ สมาร์ทโฟน ทำหน้าที่ศูนย์กลางในการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ในอีโคซิสเต็มเข้าด้วยกัน 

ขณะที่ “8” คือ สมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ อาทิ แล็ปท็อป แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ สมาร์ทออดิโอ ฯลฯ และ “N” คือ อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์(ไอโอที) เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต

“ตลาดสมาร์ทโฟนไทยมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก หรืออย่างน้อยยังสามารถทรงตัว มากกว่านั้นมีโอกาสใหม่ๆ จากผลิตภัณฑ์แวร์เอเบิลที่เติบโตกว่า 60% ทุกปี ผลิตภัณฑ์ไอโอที รวมถึงพีซีและแท็บเล็ตที่จะเข้าไปตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคในหลากหลายมิติ ส่วนการแข่งขันคาดว่าจะรุนแรงต่อเนื่อง”

ยกไทยตลาดระดับเทียร์ 1

อิงมาร์เผยว่า ประเทศไทยเป็นตลาดระดับเทียร์ 1 ของหัวเว่ยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศที่มีความสำคัญที่หัวเว่ยจะเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มากกว่าเดิม

จากที่มีโอกาสได้ทำงานในไทยมาเกือบ 4 ปี มีมุมมองว่า ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ผู้คนมีความเป็นมิตร มีปัจจัยบวกจากการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคที่อายุยังน้อย ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองและการชุมนุมประท้วงคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

ปัจจุบัน หัวเว่ยครองอันดับ 4 ในตลาดสมาร์ทโฟนไทยจากปีก่อนหน้ารั้งอันดับ 2 ด้วยปีนี้มีความท้าทายหลายปัจจัยทั้งสงครามการค้าจีน-สหรัฐ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซัพพลายของชิปขาดตลาด และไม่สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดได้อย่างเต็มที่

“ปีนี้เราต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย แต่ยังสามารถยืดหยัดและอยู่รอดมาได้จนถึงวันนี้ ยอมรับว่าอาจทำได้ไม่ดีเท่าที่คาดหวัง แต่ปีหน้ามั่นใจว่าจะกลับมาได้แน่ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลัก ส่วนโดยภาพรวมเชื่อว่าปีหน้าสถานการณ์ของหัวเว่ยระดับโลกจะมีทิศทางเป็นบวก เมื่อนายโจ ไบเดนดำรงดำแหน่งประธานาธบดีปัญหาระหว่างสหรัฐน่าจะมีโอกาสคลี่คลาย แต่ทั้งนี้ต้องรอดูว่าจะมีนโยบายใดออกมา”

ชีวิต ‘เอไอ’ ไร้รอยต่อ

เขากล่าวว่า หัวเว่ยให้ความสำคัญทั้งการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชีวิตเอไอไร้รอยต่อ” หรือ “Seamless AI Life” โดยนำเสนออีโคซิสเต็มที่ครบถ้วนให้กับผู้ใช้

ด้านซอฟต์แวร์ได้พัฒนา “HUAWEI Mobile Services (HMS)” เพื่อยกระดับประสบการณ์ ด้วยบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคแต่ละคนโดยเฉพาะ ส่วนทางด้านฮาร์ดแวร์ นำเสนอสมาร์ทดีไวซ์ที่ออกแบบมาให้ใช้ได้กับทุกสถานการณ์

ทั้งนี้ มาพร้อมบริการต่างๆ ที่ครอบคลุมทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็น HUAWEI AppGallery,HUAWEI ID, HUAWEI Browser, HUAWEI Mobile Cloud, HUAWEI Themes, HUAWEI Music, HUAWEI Video, HUAWEI Assistant ยืนยันได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์ที่ครบถ้วนไมม่ต่างจากการใช้สมาร์ทดีไวซ์ค่ายอื่นๆ

ส่วนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ จะมีทั้งสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป แท็บเล็ต แวร์เอเบิลดีไวซ์ สมาร์ทวอทช์ สมาร์ทออดิโอ อุปกรณ์เสริมสำหรับโมบาย ผลิตภัณฑ์ไอโอที และสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆฯลฯ จากปี 2563 ที่เปิดตัวสินค้าใหม่มากกว่า 50 รุ่น ปี 2564 ตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ หัวเว่ยมีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์ “Voice Assistant” เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อให้ใช้ได้กับภาษาไทย ถ้าพร้อมเมื่อใดจะนำเข้ามาจำหน่ายแน่นอน

ส่งไม้ต่อ ‘เกวิน เฉิง’ แม่ทัพคนใหม่

อิงมาร์ หวาง เตรียมลาตำแหน่งผู้อำนวยการ บริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ในวันที่ 12 ธ.ค.ที่จะถึงนี้

สำหรับผู้ที่จะเข้ามารับไม้ต่อคือ “เกวิน เฉิง” ซึ่งเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา และเขาได้มาร่วมพูดคุยพร้อมเปิดวิสัยทัศน์ว่า แนวทางธุรกิจของหัวเว่ยคอนซูเมอร์ปี 2564 จะยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม

ไม่ว่าจะเป็น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การทำกิจกรรมการตลาด การประชาสัมพันธ์ การทำงานร่วมกับพันธมิตร รวมไปถึงการบุกหนักช่องทางออนไลน์ รองรับนิวนอร์มอลหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเชื่อว่าโอกาสทางการตลาดบนช่องทางออนไลน์มีโอกาสการเติบโตได้สูงมาก

นอกจากนี้ ที่จะให้ความสำคัญอย่างมากคือ “การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า” ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย บริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สานต่อกลยุทธ์ “1+8+N” ในอีโคซิสเต็มที่ครบวงจร