อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ รหัส(ไม่)ลับชีวิตไฮเทค

อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ รหัส(ไม่)ลับชีวิตไฮเทค

ระยะหลังมานี้ได้ยินได้ฟังแนวคิดการนำเทคโนโลยี “อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์” หรือ “ไอโอที” มาปรับใช้ในหลายภาคส่วนของการใช้ชีวิต

กระทั่งวันนี้แทบจะเรียกว่าหลายอย่างกำลังจะเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไร้คน การใช้โดรนบินส่งพัสดุถึงบ้าน ผู้ช่วยส่วนบุคคลเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(เอไอ) หรือแม้แต่ตู้เย็นอัจฉริยะที่สามารถสั่งซื้ออาหารสดมาเติมได้เอง

"ซาการ์ ทามัง" หัวหน้ากลุ่มเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จีเอฟเค เอเชีย กล่าวว่า ต่อจากนี้ไอโอทีจะไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันกันอีกต่อไป เนื่องจากวันนี้เครือข่ายไร้สายแบบ 5จี กำลังเกิดขึ้นจริงแล้วบนโลก ที่เหลือจึงเป็นเพียงการรอเวลาก่อนที่ไอโอทีจะกลายเป็นสิ่งปกติในชีวิตประจำวัน

โดยมีการคาดการณ์ว่า เครือข่ายไร้สายยุคหน้าอย่าง 5จี ซึ่งมีช่วงแบนด์วิธกว้าง ตอบสนองเร็ว สื่อสารได้ลื่นไหลไม่สะดุดจะพร้อมเปิดใช้งานในช่วงปี 2563 นั่นหมายความว่าสามารถรับมือกับการไหลบ่าของข้อมูลที่มาจากอุปกรณ์บ้านๆ ธรรมดาๆ ที่เชื่อมต่อเข้าสู่ระบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"แม้ว่าเอเชียนำ 3จี และ 4จี มาใช้งานล่าช้ากว่าฝั่งตะวันตก แต่กับ 5จี นั้นสถานการณ์อาจต่างกันไป จากรายงานของอีริคสันพบว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาเหนือ อยู่ในตำแหน่งผู้นำในการนำมาใช้"

หนุนโอกาสใหม่

บริษัทที่ปรึกษาด้านบริหารระดับโลกอย่าง เอ.ที.เกียร์นีย์ รายงานว่าธุรกิจบ้านอัจฉริยะในภูมิภาคเอเชียจะมีมูลค่าสูงถึง 115 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 ตลาดที่เติบโตสูงสุดได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจดิจิทัลสูง เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวันก็จะมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตนี้ด้วย

ที่ผ่านมา เครือข่ายแบบ 3จี ทำให้การสตรีมวีดีโอเป็นเรื่องจริง ส่วนการมีเครือข่ายแบบ 4จี ทำให้ยุคเศรษฐกิจแห่งการแบ่งปันสมบูรณ์มากขึ้น ทุกครั้งที่มีอัพเกรดเทคโนโลยียุคใหม่ย่อมเกิดโอกาสใหม่ๆ ขึ้นอยู่เสมอ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในรูปแบบของไอโอทีที่สร้างปริมาณข้อมูลมหาศาล เกิดโอกาสมากมายสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในการต่อยอดธุรกิจ

ส่วนมุมมองด้านการทำธุรกิจ ด้วยการเข้าถึงข้อมูลจากไอโอทีช่วยให้เจ้าของแบรนด์สินค้าเข้าใจการใช้งานเทคโนโลยีของกลุ่มผู้บริโภคได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จากนี้สามารถนำเสนอสิ่งที่ใช่ ในแบบที่ลูกค้าต้องการ ส่งผลไปถึงความสามารถในการทำกำไร เพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ ด้านเจ้าของแบรนด์มีเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ ลดช่องว่างในตลาด และปรับปรุงประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้าในมิติใหม่ๆ

"เราเชื่อว่าการวิเคราะห์ข้อมูลนั้นจะกลายเป็นเหมือนการทำเหมืองทองในยุคของไอโอที โดยที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะได้รับประโยชน์สูงที่สุด เนื่องจากเป็นด่านแรกที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า และเป็นเรื่องปกติที่ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำไปใช้สร้างพันธมิตรธุรกิจ โอกาส เพิ่มรายได้จากรูปแบบของบริการ อาทิ เอ็มทูเอ็ม (Machine-to-Machine), ระบบชำระเงินออนไลน์ รวมไปถึงเครือข่ายสำหรับการใช้งานไอโอทีซึ่งกลุ่มลูกค้าได้ขยายตัวออกไปวงกว้างในแขนงอื่น ทั้งสาธารณูปโภค ห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมการผลิต บ้านและเมืองอัจฉริยะ ฯลฯ"

เข้าถึงเรียลไทม์

ซาการ์กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกยังได้รับประโยชน์จากข้อมูลในการสร้างรูปแบบใหม่ทางธุรกิจ เช่น การบริการที่รองรับลูกค้าและธุรกิจได้แม่นยำขึ้น ด้วยปัจจุบันลูกค้ารับข่าวสารผ่านอุปกรณ์มือถือ ทั้งจากตำแหน่งที่อยู่และพฤติกรรมการซื้อของตัวเอง การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคของไอโอทีทำให้เกิดจุดเชื่อมต่อกับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งหมายถึงโอกาสใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นอย่างไม่รู้จบ

"ยุคที่เต็มไปด้วยข่าวสารและข้อมูล เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องนำข้อมูลที่มีอยู่มาวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงมาจากลูกค้า สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแม่นยำ ต้องรู้ให้ได้ว่าลูกค้าใช้แอพของเราอย่างไรและเพื่ออะไร ต้องรู้ว่าทิศทางข้อมูลทั้งตลาดนั้นจะดำเนินไปอย่างไร และจะสร้างโอกาสจากนวัตกรรมได้อย่างไร"

 เขาย้ำว่า การก้าวสู่โลกของ 5จี และ ไอโอที คือ ความท้าทายกับปริมาณข้อมูลมหาศาลที่ถาโถมเข้ามา ซึ่งต่อไปการวิเคราะห์ข้อมูลจะมีความสำคัญต่อแบรนด์มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทั้งที่เป็นรูปแบบการใช้งาน พฤติกรรม ความชอบ ประสบการณ์ ทั้งหมดนี้จะถูกจับคู่พร้อมนำมาวิเคราะห์เพื่อให้เจ้าของแบรนด์เกิดความเข้าใจในตัวลูกค้า ทั้งต้องยอมรับว่าการนำเอาข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากระบบวิเคราะห์อัจฉริยะนั้นจะช่วยให้เจ้าของแบรนด์มีข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าตัวจริงของธุรกิจ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไอโอทีเข้ามาปฏิวัติเราทุกคนทั้งวิถีชีวิต การทำงาน การยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจต่างๆ ต้องมองหาวิธีการนำไอโอทีมาสร้างให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ มิเช่นนั้นอาจต้องเผชิญความเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง