ดีเดย์ให้บริการเชิงพาณิชย์ในไทยอย่างเป็นทางการวันนี้ หลังซุ่มทดสอบระบบ 3 เดือน วางตำแหน่ง บริการมือถือรูปแบบใหม่บนดิจิทัล ชูจุดขายใช้งานง่าย ไม่มีข้อผูกมัด ราคาถูก พร้อมอัดโปรโมชันส่วนลด 50% 12 รอบบิล ยันทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ ผู้บริหารฝ่ายการตลาด ไลน์ โมบาย ประเทศไทย กล่าวว่า หลังเปิดให้บริการไลน์ โมบายเวอร์ชั่นทดสอบ (เบต้า) มาประมาณ 3 เดือน บริษัทพร้อมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ วันนี้ (19 ก.ย.) โดยวางตำแหน่งเป็นบริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่บนดิจิทัล ที่จะเข้าไปตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ นำเสนอบริการที่ดีกว่า ในราคาที่ถูกกว่า โดยกำหนดเป้าหมายคือการเป็นบริการที่ทุกคนรับได้มากที่สุดในประเทศไทย
ไลน์ โมบาย เกิดจากความร่วมมือระหว่างไลน์ประเทศไทย และ ดีแทคไตรเน็ต (ดีทีเอ็น) เพื่อให้บริการโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่บนดิจิทัล โดยได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิเครื่องหมายการค้า “ไลน์ โมบาย” บริหารโดยทีมเฉพาะกิจของดีทีเอ็น บริการด้านเสียงและดาต้าดำเนินการบนเครือข่ายดีทีเอ็น บนคลื่นความถี่ 3จี และ 4จี คลื่น 850 1800 และ 2100 เมกะเฮิรตซ์
ทั้งนี้ทุกกระบวนการและการให้บริการดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้ข้อกำหนดของคณะกรรมการกิจการกระจายกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ชูจุดขายใช้งานง่าย ราคาถูก
“บริษัทมีเป้าหมายเข้าไปช่วยแก้ปัญหาผู้บริโภคทั้งเรื่องของแพ็คเกจที่เข้าใจยาก มีข้อกำหนดจำนวนมาก มีสัญญาผูกมัด บริการไม่ดี และราคาแพงเกินไป ตอบโจทย์ยุค ดิจิทัล เซลฟ์ เซอร์วิส ซึ่งผู้บริโภคมีความคาดหวังกับบริการที่เร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ทุกเวลา ขณะเดียวกันต้องมีความพร้อมให้ทุกช่องทางออนไลน์”
สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ตั้งเป้าเข้าถึงคนไทยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม พื้นที่หลักๆ ที่เห็นว่ามีโอกาสมากที่สุดในช่วงแรกคือ กลุ่มคนเมืองและคนวัยทำงาน ด้านแนวทางการให้บริการ จะต้องทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย สามารถดำเนินการได้เองผ่านโทรศัพท์มือถือในทุกที่ทุกเวลา และที่สำคัญก็คือรูปแบบของการให้บริการจะเน้นเฉพาะสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการเท่านั้น โดยไม่ใส่อะไรเข้าไปมากเกินไป
ด้านกลยุทธ์การทำตลาด จะเน้นการสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุม เพิ่มมูลค่าด้วยการให้ลูกค้าสามารถใช้บริการจากไลน์ทั้งแมสเซนเจอร์ และไลน์ทีวีแบบไม่อั้นและไม่มีค่าใช้ดาต้า พร้อมกันนี้สามารถบริหารจัดการ การใช้งานได้เองผ่านสมาร์ทโฟน ยืดหยุ่นตามการใช้งานจริงโดยไม่มีข้อผูกมัดสัญญา ข้อกำหนดยิบย่อย หรือ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ แอบแฝง สำคัญมั่นใจว่าราคาค่าแพ็คเกจถูกกว่ารายอื่นๆ ในตลาด
7 แพ็คเกจ ราคา 249-1,699 บาท
สำหรับแพ็คเกจ มีให้เลือก 7 แบบ โดยแพ็คเกจเริ่มต้นราคา 249 บาท (ไม่รวมภาษี) สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต 1.5 กิกะไบต์ โทรออก 100 นาที ส่วนแพ็คเกจสูงสุด 1,699 บาท ใช้งานอินเทอร์เน็ตและโทรออกไม่จำกัด นอกจากนี้ยังจัดโปรโมชันพิเศษในช่วงเปิดตัวถึงวันที่ 31 ต.ค. ส่วนลดค่าแพ็คเกจ 50% จากราคาเต็ม 12 รอบบิล
ส่วนแนวทางการทำตลาด จะมีทั้งการจัดกิจกรรมรูปแบบออฟไลน์ ผ่านสื่อโทรทัศน์ สื่อนอกบ้าน กิจกรรมออนไลน์และโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ขณะที่บริการหลังการขายขณะนี้ไม่มีแบบออฟไลน์หรือช้อป แต่ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ผ่านช่องทางแชทตลอด 24 ชั่วโมง หรือ โทรสอบถามกับเจ้าหน้าที่โดยตรง
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขงบประมาณการลงทุน การตลาด รวมถึงเป้าหมายลูกค้าให้ทราบได้ แต่จะเน้นการให้บริการแบบรายเดือน (โพสต์เพด) ยังไม่มีแผนทำตลาดแบบเติมเงิน และยังไม่มีแผนที่จะบันเดิลไปกับการขายเครื่อง เนื่องจากเห็นว่าราคาแพ็คเกจที่กำหนดออกมานั้นมีแรงจูงใจลูกค้าได้อย่างมากอยู่แล้ว
นางสาวอรุณรัตน์ แสงอลังการ ผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์และปฏิบัติการทางธุรกิจ ไลน์ โมบาย กล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเน้น 3 หัวใจสำคัญคือ การใช้งานที่เข้าใจง่าย ทำทุกอย่างได้สะดวกรวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟน และเน้นไปยังสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการจริงๆ มีฟังก์ชั่นเปิด-ปิดอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกบริหารจัดการได้ด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ยังเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น บริการย้ายค่ายเบอร์เดิม บริหารจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวเองทุกที่ทุกเวลาผ่านทาง ออฟฟิเชียล แอคเคาท์ “Line Mobile” โดยไม่ต้องเสียเวลาดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น และเมื่อผู้ใช้มีการแนะนำเพื่อนให้มาร่วมใช้งาน ทั้งคู่จะประหยัดเงินเพิ่มอีก 10 บาทต่อเดือนไปตลอด ยิ่งมีเพื่อนมาใช้มากเท่าใด ยิ่งช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นเท่านั้น
ชี้คนไทยเข้าถึงโมบาย 133%
ปัจจุบัน จำนวนประชากรในประเทศไทยมีอยู่ราว 68.2 ล้านคน เป็นกลุ่มเมือง 52% มีการเข้าถึงโมบาย 90.94 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 133% ของจำนวนประชากร จากจำนวนดังกล่าวมีผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถืออยู่เป็นประจำ 57.6 ล้านราย หรือสัดส่วน 84% ผู้ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คกว่า 42 ล้านราย แต่ละวันใช้เวลาออนไลน์เฉลี่ย 4 ชั่วโมง 14 นาที
ด้านพฤติกรรม ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนไทยนิยมใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คมากที่สุด รองลงมาคือดาวน์โหลดภาพยนตร์ เล่นเกม ฟังเพลง อัพโหลดรูปภาพ อ่านข่าว บทความ ค้นหาสินค้าและบริการ ข้อมูลสุขภาพ และเช็คอีเมลตามลำดับ
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ซิมเพนกวิน กล่าวว่า การเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อรายย่อยอื่นๆ เป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากตลาดที่แข่งขันกันรุนแรงอยู่แล้วจะยิ่งดุเดือดมากขึ้น อย่างไรก็ตามมองว่าในภาพรวม จะช่วยเพิ่มความตื่นเต้นให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย หลังจากที่เงียบมานานโดยผู้เล่นไม่กี่ราย
สำหรับไลน์โมบาย มีจุดเด่นด้านแบรนด์ และการมีดีแทคสนับสนุนทำให้สามารถทำราคาที่แข่งขันได้ หรือลดราคาได้ถูกกว่ารายอื่นๆ เรียกได้ว่ามีทั้งเงิน ทั้งแบรนด์ แต่ทั้งนี้โดยรวมคงยังไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงกับบริษัท เนื่องจากรูปแบบการให้บริการและตัวธุรกิจที่เน้นบนดิจิทัลทำให้เหมาะสำหรับคนเมือง ส่วนเพนกวินโฟกัสตลาดต่างจังหวัด คนรากหญ้าเป็นหลัก