การ์ทเนอร์-ไอดีซี ชี้ชะตายอดขายพีซีโลกกระหน่ำร่วงต่อเนื่อง

การ์ทเนอร์-ไอดีซี ชี้ชะตายอดขายพีซีโลกกระหน่ำร่วงต่อเนื่อง

"การ์ทเนอร์-ไอดีซี" เปิดผลสำรวจตลาดพีซีโลกไตรมาส 1 เผยยอดขายยังร่วง เลอโนโวรั้งเบอร์ 1 ตามด้วยเอชพี-เดลล์

หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานผลการสำรวจตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ทั่วโลกประจำไตรมาสที่ 1 โดยบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ ระบุว่า เมื่อเทียบกับปี 2557 ยอดขายยังคงลดลง หรือร่วงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 9 นับตั้งแต่ปี 2555

ยอดขายรวม 71.7ล้านเครื่อง
ทั้งนี้ ไตรมาสดังกล่าว ตลาดรวมมียอดขายประมาณ 71.7 ล้านเครื่อง ลดลงประมาณ 5.2% จากปีก่อนหน้า สาเหตุที่ไม่ลดลงไปถึงตัวเลข 2 หลัก เนื่องจากยอดขายโน้ตบุ๊ค ผลิตภัณฑ์กลุ่มลูกผสมไฮบริด รวมถึงวินโดว์สแทบเล็ตเริ่มมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น

นายมิคาโกะ คิตากาวะ นักวิเคราะห์ประจำการ์ทเนอร์ กล่าวว่า ตลาดพีซีได้รับผลกระทบจากทั้งปัจจัยที่ธุรกิจองค์กรเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ช้าลง ส่วนคอนซูเมอร์ใช้เงินไปกับแทบเล็ตและสมาร์ทโฟนมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ปีที่ผ่านมาพอมีปัจจัยบวกจากที่ไมโครซอฟท์ คอร์ป ประกาศหยุดการสนับสนุนระบบปฏิบัติการวินโดว์สเอ็กซ์พี ส่งผลให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น ด้วยองค์กรต้องอัพเกรดระบบเพื่อรองรับระบบใหม่และทำให้ได้รับการสนับสนุนที่ดีที่สุด ปีนี้การ์ทเนอร์ยังประเมินไว้ว่า ยอดขายน่าจะลื่นไหลได้ต่อไป

"แม้ขณะนี้ยังไม่เห็นปัจจัยที่จะเข้ามาสร้างจุดเปลี่ยนให้ตลาด ทั้งไตรมาสแรกตัวเลขยังติดลบ ทว่าไม่จำเป็นที่ภาวะซบเซาจะเกิดต่อเนื่องไปในระยะยาว"
ด้านบริษัทวิจัยไอดีซี เผยข้อมูลที่สอดคล้องกันว่า ยอดขายพีซีโลกลดลงราว 6.7% หรือมียอดขาย 65.8 ล้านเครื่อง โดยราคายังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ขณะที่ความต้องการในตลาดพรีเมี่ยมยังคงมีอยู่ไม่มาก

ข้อมูลระบุว่า สาเหตุที่ตัวเลขจากการ์ทเนอร์และไอดีซีไม่ตรงกันเนื่องจากทั้ง 2 บริษัทมีขอบเขตการเก็บข้อมูลที่แตกต่าง โดยการ์ทเนอร์จะรวมข้อมูลผลิตภัณฑ์ลูกผสมระหว่างพีซีและแทบเล็ตเข้าไป แต่ไม่นับรวมโครมบุ๊ค แทบเล็ตวินโดว์ส ที่จอเล็กกว่า 10 นิ้ว หรือเครื่องที่ไม่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส ส่วนไอดีซีจะรวมโครมบุ๊คและแทบเล็ตอื่นๆ เข้าไปด้วย

เลอโนโวยังครองเบอร์1พีซีโลก
อย่างไรก็ดี ทั้งการ์ทเนอร์และไอดีซีชี้ว่า เลอโนโวสามารถครองความเป็นผู้นำตลาดได้เหนียวแน่น ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 18.9% ตามมาด้วยฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) 17.3% และเดลล์ตามลำดับ

เฉพาะการ์ทเนอร์ แจ้งว่าเอซุสสามารถแซงหน้าเอเซอร์ และคว้าอันดับที่ 4 มาครอง ทว่าไอดีซี ชี้เอเซอร์รั้งเบอร์ 4 ส่วนเอซุสแซงหน้าแอ๊ปเปิ้ลและคว้าอันดับ 5 มาได้

การ์ทเนอร์ ระบุว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาสนับสนุนการคาดการณ์ของบริษัทที่กล่าวไว้ว่า ปีนี้ยอดขายพีซีประจำปี 2558 ยังคงชะลอตัว ขณะเดียวกันเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าต่อไปการเติบโตมีโอกาสเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่หวือหวาต่อเนื่องต่อไปอีกระยะ 5 ปีข้างหน้า

ขณะที่ฟอร์บ กล่าวว่า ตัวเลขที่ออกมาล่าสุดสวนทางกับการคาดการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา ที่ว่าตลาดพีซีเริ่มกลับมามีเสถียรภาพบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้โดยรวมทั้งปีอาจไม่เป็นเช่นนี้เนื่องด้วยปัจจัยบวกการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของวินโดว์ส10 รวมถึงการเติบโตของโน้ตบุ๊คลูกผสม

ไอดีซีประเมินว่า วินโดว์ส 10 ซึ่งมาพร้อมความสามารถที่โดดเด่นของทั้งเวอร์ชั่น 7 และ 8.1 รวมถึงการที่เปิดให้ลูกค้าอัพเกรดได้ฟรียิ่งช่วยกระตุ้นความต้องการการเปลี่ยนพีซีเครื่องใหม่


ซีเอสซีปรับสต็อก"พีซี-โน้ตบุ๊ค"รับตลาดหด
นายวงศ์สมรรถ สรรเพชุดาญาณ รองประธานบริหาร บริษัท คอมพิวเตอร์ ซิสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล (ซีเอสซี) กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ โดยเฉพาะสินค้าพีซี โน้ตบุ๊ค หลังจากภาพรวมของตลาดยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง พ่วงกับเศรษฐกิจที่ไม่ดี

ทั้งนี้ บริษัทพยายามจะปรับสต็อกของพีซี และโน้ตบุ๊คให้เหมาะสมกับยอดขาย อาจจะนำเข้ามาขายน้อยลง แล้วไปโฟกัสดีไวซ์ที่มีความใกล้เคียงโน้ตบุ๊คที่มีดีไซน์ใหม่ๆ น้ำหนักเบา สเปคสูง ถอดประกอบเองได้ เป็นออลอินวัน รวมถึงดีไวซ์ที่ใช้ชิพ 4จี ได้ โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เอลบ ลงมาจนถึงซี ด้วยราคาที่สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก

"ช่วงนี้ภาพรวมก็ยังไม่ดีขึ้น โดยครึ่งปีหลังเราจะปรับแผนทั้งหน้าร้าน และการนำเสนอโปรดักส์ ในส่วนของหน้าร้าน จะเน้นรุกคืบเข้าถึงตัวลูกค้ามากขึ้น ให้พนักงานมีความตื่นตัวในการแนะนำบริการ จัดโปรโมชั่นถี่ขึ้น ต้องไม่ให้ด้อยกว่าคู่แข่ง มีกิจกรรมหน้าร้านทุกสัปดาห์เป็นการกระตุ้นตลาดให้คึกคัก มีสีสัน"

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของจีน ในการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาทำตลาดในไทยช่วงครึ่งปีหลังนี้ รวมถึงการผนึกกับพันธมิตรในสายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ นำคอนเทนท์ด้านหนัง เพลง พ่วงเข้ากับดีไวซ์ ในการทำตลาดด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายวงศ์สมรรถ กล่าวว่า บริษัทได้ลดปริมาณการขายสินค้าที่เป็นโน้ตบุ๊ค และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลลง และหันไปมุ่งเน้นสมาร์ทโฟน แทบเล็ต และสินค้าแบบออลอินวันมากขึ้น เชื่อว่า ปีนี้ตลาดโน้ตบุุ๊ค และพีซี ในรูปแบบเดิมๆ จะหดตัวลงไม่ต่ำกว่า 20-30% เหมือนปีที่ผ่านมา

"ตลาดพีซี กับโน้ตบุ๊ค ถูกเปลี่ยนไปโดยพฤติกรรมของผู้บริโภค เพราะวันนี้ทั้งสมาร์ทโฟน และแทบเล็ตสามารถทดแทนการใช้งานบนพีซี และโน้ตบุ๊คได้เกือบทั้งหมด ดังนั้นเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของโน้ตบุ๊คให้มีลักษณะที่เป็นแทบเล็ตได้ด้วย หรือมีขนาดที่บางลงและสามารถพกพาไปได้ทุกที คือ รูปแบบของดีไซน์ ลักษณะจะเปลี่ยนไป ขณะที่พีซีเอง ยังคงมีพื้นที่อยู่ในกลุ่มบริษัท องค์กร ซึ่งยังคงเติบโตบ้างในส่วนนี้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนเครื่องใหม่ๆ ไปทดแทน แต่ถ้าพูดถึงในตลาดคอนซูเมอร์นั้น พีซี และโน้ตบุ๊ค ในส่วนที่เป็นตลาดเปลี่ยนเครื่องลดน้อยลงมาก"

เขากล่าวด้วยว่า หากแบ่งตลาดป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.กลุ่มโน้ตบุ๊ค พีซี 2.กลุ่มสมาร์ทโฟน แทบเล็ต สัดส่วนตอนนี้ คือ 2 :10 เท่านั้น

"สำหรับตลาดค้าปลีกไอทีในไตรมาส 1 ซึมมาก คนไม่ออกมาจับจ่าย โดยเฉพาะในห้าง โซนไอที ไม่มีคนเดิน ตอนนี้ ผู้ค้าทุกรายหันมาใช้กลยุทธ์ลดราคา เคลียแรนซ์สินค้า 50-80% เพื่อจูงใจลูกค้า"