'พีบี'ใต้ร่มเดียวกัน

'พีบี'ใต้ร่มเดียวกัน

พีบี (PB) แบรนด์น้องใหม่ในเครือบริษัท พีบี พาร์ทเนอร์ส ของปิยะ ภิรมย์ภักดี ทายาทเบียร์สิงห์ ชูกลยุทธ์ Umbrella Brand สร้างความแข็งแกร่ง

พีบี (PB) แบรนด์น้องใหม่ในเครือบริษัท พีบี พาร์ทเนอร์ส ของปิยะ ภิรมย์ภักดี ทายาทเบียร์สิงห์ ชูกลยุทธ์ Umbrella Brand สร้างความแข็งแกร่งในเวลาที่รวดเร็ว พร้อมๆ กับความคาดหวังที่จะลดต้นทุนค่าบริหารจัดการในยุคน้ำมันแพง

"สินค้าที่มีแบรนด์แข็งแรงที่สุดมักจะได้เปรียบเสมอ เพราะสามารถดึงดูดใจและมัดใจผู้บริโภคให้เข้ามาซื้อแถม ยังเป็นเกราะป้องกันคู่แข่งได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ฉะนั้น นอกจากที่จะต้องทำสินค้าให้มีคุณภาพแล้ว จำเป็นต้องสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน จึงถึงเวลาที่เราแนะนำแบรนด์ PB เป็นครั้งแรกในช่องทางรีเทล" ธันธนันท์ จงเกรียงไกรธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.บี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง จำกัด สรุปถึงที่มาของแบรนด์ พีบี

แตกต่างแต่เข้าถึงใจ

Umbrella Brand กลยุทธ์ทางการตลาด หมายถึง สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ออกภายใต้ยี่ห้อเดียวแต่มีความหลากหลาย เช่น หลายสูตร หลายสี หลายกลิ่นหรือหลายประเภทของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ใช้ยี่ห้อเดียวเท่านั้น จึงสอดรับกับสินค้าและบริการของ พีบี พาร์ทเนอร์ส กลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านการเกษตรและท่องเที่ยว โดยเฉพาะไร่องุ่นพีบีวัลเล่ย์ แหล่งผลิตไวน์ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา ทั้งยังผลิตน้ำผลไม้ แยม น้ำสลัดและ พีบีคอฟฟี่ (ผลิตภัณฑ์กาแฟ) นอกจากนี้ยังมีโรงงานผลิตซีอิ๊วญี่ปุ่น และอาหารกระป๋อง จ. เชียงราย

"เป็นครั้งแรกในการนำเสนอสินค้าในช่องทางรีเทล จากเดิมเน้นรับจ้างผลิตให้กับร้านอาหารหรือส่งออกมานานกว่า 10 ปี ทำให้ได้รับความเชื่อถือเรื่องคุณภาพ เพราะได้รับใบรับรองมากกมายทั้งในแง่สิ่งแวดล้อมการผลิต ศาสนา เดิมเราขายที่ไร่ปากช่องหรือตามอีเว้นท์ต่างๆ รวมทั้งส่งให้กับสายการบิน จึงคิดว่าถึงเวลาการสร้าง พีบี ขึ้นมาเป็นแบรนด์เดียวที่ครอบคลุมไปทุกอย่าง เพื่อให้การสื่อสารองค์กรและการสื่อแบรนด์ชัดเจนขึ้น" ธันธนันท์ กล่าว

ปัจจุบัน บี.บี.กรุ๊ป เทรดดิ้ง ทำหน้าที่เป็นดิสบิวเตอร์ให้กับแบรนด์ พีบี ไม่ว่าจะเป็น พีบี ฟาร์ม พีบีวัลเล่ย์ พีบีคอฟฟี่ ฯลฯ แทนการกระจายส่งสินค้ากันเองเหมือนในอดีต ข้อดีของ Umbrella Brand คือการแชร์ทรัพยากรร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น การบริหารสินค้าหรือทีมงานด้านต่างๆ อาทิ ทีมขาย บัญชี ทำให้ให้สามารถลดต้นทุนค่าบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการสื่อสารคล่องตัวมากขึ้น

ธันธนันท์ กล่าวว่า เป้าหมายของการทำตลาดรีเทลของพีบี คือต้องการเป็นแบรนด์ในใจผู้บริโภคในระดับพรีเมี่ยม โดยแยกเป็นกลุ่มพีบีวัลเล่ย์ เน้นพรีเมียม กลุ่มพีบี ฟาร์ม พีบีคอฟฟี่ จับกลุ่มแมสพรีเมียม ส่วนแบรนด์โอชะจับกลุ่มแมส ซึ่งเป็นกาแฟโบราณ โอเลี้ยง ชาเขียวนมสดในรูปของพร้อมดื่ม ซึ่งครอบคลุมในทุกเซกเมนต์ในตลาดรีเทล คาดว่าจะทำให้ผู้บริโภคสามรถรับรู้และจดจำแบรนด์ได้มากขึ้นจากเดิมที่คุ้นเคยพีบีวัลเล่ย์ จากการไปเที่ยวไร่ ชิมไวน์ ซื้อน้ำองุ่น เท่านั้น

เดินหมากสร้างแบรนด์

หลักการของ Umbrella Brand อาจดูเหมือนง่าย แต่ในทางปฏิบัติแล้วการสร้างแบรนด์ต้องอาศัยระยะเวลาและต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุผลเป้าหมาย แนวทางปฏิบัติก็คือการนำเสนอนวัตกรรมที่มีจุดขายเกี่ยวกับสุขภาพออกมาตอกย้ำแบรนด์ให้อยู่ในใจผู้บริโภค เริ่มต้นจากซอสถั่วเหลืองออร์แกนิค 100% ซึ่งคุมเข้มตั้งแต่ดินที่ใช้ปลูก มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและโลว์โซเดียมพร้อมกับ น้ำส้มสายชูจากข้าวออร์แกนิค

ธันธนันท์โฟกัสแบรนด์พีบีไปยังตลาดบลูโอเชียนที่การแข่งขันน้อย แต่มูลค่าตลาดมากและมีอนาคตจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยอาศัยโรงงานที่มีประสบการณ์มานานมาผลิตสินค้าที่มีจุดขายต่างจากสินค้าในตลาด

"เราวางกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ดังนั้น การคิดค้นนวัตกรรมที่มาตอบโจทย์ไม่ใช่แค่รสชาติ แต่ต้องมีคุณค่าและแตกต่างจากคู่แข่ง ยกตัวอย่าง โยเกิร์ตซึ่งอยู่ในช่วงพัฒนาสูตรและแพกเกจจิ้ง จุดขายคือมีส่วนผสมของนมถั่วเหลืองและจุลินทรีย์ดีสองชนิด แตกต่างจากโยเกิร์ตในตลาด คาดว่าจะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ในคอนวีเนียนสโตร์" นี่คือคุณค่าและความแตกต่างที่จะสร้างการจดจำให้เกิดขึ้น และเป็นบันไดขั้นแรกของแบรนด์พีบี