ยกระดับ วงการ ‘หนังสือ’ สู่นานาชาติ ต้องลงดาบ! ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์

การร่วมพูดคุยกันเพื่อหาทางออกถึงการจัดการการละเมิดลิขสิทธิ์ ‘หนังสือ’ ที่มีมานาน และมีเพิ่มขึ้น เรียกร้องให้นักอ่าน-นักเขียน ตระหนักและร่วมมือช่วยกัน
KEY
POINTS
- การปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยกระดับวงการหนังสือไทย ปกป้องภาพลักษณ์ และสร้างความน่าเชื่อถือของประเทศในเวทีนานาชาติ
- ผู้คนในวงการมองว่าปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของจรรยาบรรณ การขาดความเคารพต่อศักดิ์ศรีของผู้สร้างสรรค์ และสามัญสำนึก
การละเมิดลิขสิทธิ์ ในวงการ หนังสือไทย มีมานานแล้ว แต่เพิ่งจะมีการจัดการอย่างจริงจังครั้งแรกกับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ในวงการวรรณกรรมไทย ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 30 วันที่ 9-19 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา
เมื่อ ณัฐกร วุฒิชัยพรกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ไม่อนุญาตให้มีการจำหน่ายหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้นในงาน
แต่ในภาพรวมในวงการหนังสือไทย การละเมิดลิขสิทธิ์ ก็ยังคงเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด มีกรณีการประกวดหนังสือเวทีหนึ่ง เล่มที่ได้รางวัลชนะเลิศ เป็นที่น่าสงสัยถึงที่มาของหนังสือ
- ลิขสิทธิ์ ของผู้สร้างสรรค์ ไม่ควรถูกละเมิด
"ผมทำทั้งสำนักพิมพ์และคอนเทนต์ YouTube ลิขสิทธิ์เกี่ยวข้องแทบทุกส่วน ทั้งการดูแลลิขสิทธิ์ให้นักเขียน การซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศมาแปล หรือแม้แต่การทำคลิปที่ต้องขออนุญาตใช้ภาพหรือเสียง หลายคนอาจมองว่า แค่นิดเดียวเอง แต่สำหรับผม การทำให้ถูกต้องและเซฟตัวเองไว้ก่อนสำคัญที่สุด"
Cr. Kanok Shokjaratkul
จักรกฤต โยมพยอม ผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ Avocado Books และกรรมการสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวในงานเสวนา Beyond copyright สิทธิ ความรับผิด และศักดิ์ศรีของผู้สร้างสรรค์ ในงาน PAGES and PINTS วันที่ 20 ธันวาคม 2568 ณ River City สี่พระยา กรุงเทพมหานคร
"สิ่งที่น่ากลัวกว่าคนไม่รู้กฎหมาย คือ รู้แต่ไม่ยอมรับ เพราะกลัวเสียหน้า
ขณะที่สำนักพิมพ์เล็ก ๆ พยายามซื้อลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องเพื่อให้เกียรติคนทำงาน
ในมุมของครีเอเตอร์ ศักดิ์ศรีคือการที่เราเคารพคุณค่าของงานและตัวเอง
งานส่วนใหญ่อาจไม่ใช่สิ่งใหม่ 100% แต่เราหยิบของเดิมมาปรับปรุง ใส่ทัศนคติและวิธีการเล่าแบบของเราเข้าไปเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ สิ่งนี้คือหัวใจของ Fair Use ที่ผมยึดถือมาตลอด
เราควรสร้างสังคมที่ตระหนักรู้ เพื่อให้คนที่ทำงานถูกต้องมีศักดิ์ศรี และคนทำผิดยอมเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อที่จะยืนอยู่ในแวดวงนี้ได้อย่างสง่าผ่าเผย"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- เหตุผลที่ต้องดึงดาบออกมาตัดคอ
ผู้สร้างปรากฏการณ์ลงดาบผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ให้กับแวดวงหนังสือไทย ณัฐกร วุฒิชัยพรกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า ปัญหาหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์ มันถูกซุกอยู่ใต้พรมมานานหลายสิบปี ไม่มีใครกล้าไปแตะ เพราะจะไปขัดผลประโยชน์ของเพื่อนพ้อง เลยเลือกที่จะปล่อยผ่าน
"การที่ผมตัดสินใจไม่สนับสนุนให้นำ หนังสือแปล ละเมิดลิขสิทธิ์ มาจำหน่ายในงานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งที่ 30 เพราะสมาคมฯ มีกฎข้อบังคับ ผมในฐานะนายกสมาคมฯ ต้องปฏิบัติตาม ส่วนสมาชิกสมาคมฯก็ต้องไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใด
ผมยอมเสียเพื่อนเสียพี่ที่เคารพรักเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง ในยุคที่หนังสือไทย กำลังจะก้าวไกลสู่เวทีโลก
เหตุผลที่ผมต้องดึงดาบออกมาตัดคอ ไม่ใช่เรื่องแค้นส่วนตัว แต่มันคือหน้าที่
ถ้าเราไม่ทำ มันก็จะเละเทะไปทั้งประเทศ ต่างชาติเขาไม่ได้มองแค่สำนักพิมพ์เดียว แต่เขามองว่า ประเทศไทยละเมิด ซึ่งมันทำลายความน่าเชื่อถือของชาติ เราทำเพื่อปกป้องนักอ่านและภาพลักษณ์ของประเทศ"
Cr. Kanok Shokjaratkul
ในอีกด้านหนึ่ง ณัฐกร ยังเป็นผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ World Wonder อีกด้วย
"ในฐานะสำนักพิมพ์ที่เน้นงานแปล 100% เรื่องนี้เป็นเรื่องสากล เราต้องไม่ไปละเมิดคนอื่น
และการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องคือพื้นฐานสำคัญ
กฎหมายลิขสิทธิ์ควรเป็นปราการด่านสุดท้าย เหมือนป้ายบอกทางหรือรั้วกั้นก่อนจะตกเหว
ในฐานะมนุษย์ที่ทำงานสร้างสรรค์ เราควรมีจิตสำนึกก่อนจะไปถึงจุดที่ต้องใช้กฎหมายตัดสิน
หลายคนอ้างว่าเป็นสำนักพิมพ์เล็กเข้าไม่ถึงนักเขียนใหญ่ แต่ความจริงมันอยู่ที่ความพร้อมและจรรยาบรรณ
อย่างการซื้อลิขสิทธิ์ Stephen King ของผมก็ติดต่อผ่านเอเจนซี่ตามขั้นตอนปกติ มันไม่ได้ยากเกินไปถ้าเราตั้งใจจะทำให้ถูกต้อง
การติดต่อซื้อ ลิขสิทธิ์ ถ้าติดต่อไม่ได้ หรือเขาไม่ขายให้ ไม่ว่าจะหาทางไหนก็ไม่ได้ นั่นแปลว่าเราก็ไม่มีสิทธิ์ และไม่มีสิทธิ์ไปละเมิดเขา
คำว่า ความพร้อม ของผมไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่หมายถึงเราต้องมีนักแปลและคนทำปกที่ดีพอที่จะทำให้สมศักดิ์ศรีของนักเขียนระดับโลก ซึ่งเขาพิถีพิถันมาก
Cr. Kanok Shokjaratkul
สิ่งที่เราควรทำคือการไม่ไปฝืนหรือละเมิดต่างหาก
ศักดิ์ศรีของผู้ซื้อลิขสิทธิ์ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันคือการที่นักเขียนระดับโลกอย่าง Stephen King หรือ Patrick Ness ยอมรับเราเป็นพาร์ทเนอร์
การได้เห็นลายเซ็นของตัวเองคู่กับลายเซ็นนักเขียน ในสัญญามันทำให้ ใจฟู และเป็นความภูมิใจสูงสุดที่เงินซื้อไม่ได้
การทำงานกับนักเขียนที่ติดต่อยาก เราต้องแสดงความจริงใจ ทำโปรไฟล์และแผนการตลาดอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เขามั่นใจว่าเราจะดูแลงานเขาได้ดีที่สุด
การสนับสนุนของละเมิด คือ การเอามีดไปเฉือนหัวใจนักเขียนที่คุณรัก
เงินไม่ได้สำคัญเท่ากับการที่ผู้ทำผิดต้องยอมรับผิดและขอโทษ"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- การละเมิดลิขสิทธิ์แบบประกอบร่าง แล้วอ้างว่า Fair Use
"ในฐานะเอเจนซี่ที่สอนเรื่อง How to ในการซื้อขายลิขสิทธิ์ สิ่งที่เน้นย้ำเสมอคือ จรรยาบรรณ
ลิขสิทธิ์ ไม่ได้บอกแค่ว่าห้ามทำอะไร แต่ในฐานะผู้สร้างสรรค์ เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ดี
ปัญหาคือบางคนพยายามหาช่องว่างทางกฎหมายเพื่อเลี่ยงลิขสิทธิ์
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว สามัญสำนึก (Common sense) เป็นเรื่องพื้นฐานที่ควรมี แต่มันกลับมีราคาแพงและหาได้ยากในปัจจุบัน"
วสุรีย์ พิศุทธิ์สินธพ ผู้ก่อตั้ง Monster Agency แสดงความคิดเห็นในเวทีเดียวกัน
"ปัญหาที่พบมากที่สุด รู้แต่ไม่ยอมรับผิด บางคนกลัวเสียหน้าเพราะอยู่มานาน หรือพยายามสร้างชุดคำอธิบาย มาซัพพอร์ตความผิดของตนเอง เช่น อ้างว่าทำเพื่อช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้อ่านงานดี ๆ ราคาถูก ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันคือการขโมย
Cr. Kanok Shokjaratkul
การซื้อลิขสิทธิ์ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เราสามารถติดต่อเอเจนซี่หรือนักเขียนโดยตรงได้
อย่างกรณีสำนักพิมพ์ของคุณบอยที่ได้ลิขสิทธิ์งานของ Stephen King ก็เริ่มจากการแสดงความพร้อมและความเป็นมืออาชีพให้เขาเห็น
การละเมิดลิขสิทธิ์ บางคนไม่ได้ยกมาทั้งเล่ม แต่ใช้วิธี ประกอบร่างแบบแฟรงเกนสไตน์ คือตัดหัวคนนั้น แขนคนนี้ มาประกอบเป็นงานใหม่แล้วอ้างว่าเป็น Fair Use
แต่สุดท้ายศาลจะดูที่เจตนา ถ้าคุณได้ผลประโยชน์และเจ้าของงานเสียผลประโยชน์ นั่นก็คือการละเมิด"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- การละเมิดลิขสิทธิ์ คือการเฉือนแขนเฉือนขาของนักเขียน
"ในฐานะนักเขียน ผู้ถูกละเมิด เคยมีกรณีที่นิยายเรื่อง ใครในกระจก ถูกคนในภูมิภาคอเมริกาใต้นำฉบับภาษาอังกฤษไปแปลเป็นภาษาสเปนแล้วขายในกลุ่มปิด ซึ่งเขาขายได้เป็น 1,000 ก๊อปปี้ มากกว่าต้นฉบับเสียอีก
แม้แต่บทความใน Facebook ที่เราอ้างอิงงานวิจัยมาอย่างดี ก็ยังมีคนก๊อปปี้ไปใช้ทั้งยวงเพื่อเปิดคลาสสอนเขียน โดยอ้างว่าไม่เคยอ่านงานของเราทั้งที่ข้อมูลตรงกันเป๊ะ"
นายแพทย์อุเทน บุญอรณะ นักเขียนและอายุรแพทย์ โรคระบบประสาทและสมอง กล่าวบนเวทีเดียวกัน
"ปัญหาที่พบมากที่สุด คือ ความไม่เข้าใจแต่คิดว่าตัวเองรู้ บางคนมั่นใจมากว่าสิ่งที่ทำไม่ผิด
ทั้งที่ความรู้เรื่องลิขสิทธิ์ที่เขามีอาจไม่ถึง 30% ของความจริงด้วยซ้ำ
สุดท้ายแล้ว ลิขสิทธิ์ ไม่ควรต้องจบที่การใช้กฎหมายตัดสินเสมอไป หากคนในวงการมีจรรยาบรรณและให้เกียรติคนทำงานสร้างสรรค์ร่วมกัน
Cr. Kanok Shokjaratkul
เราต้องสร้างนิเวศที่เป็นธรรม ในเชิงสมองและสังคม คนที่ละเมิดมักจะอยู่ใน นิเวศของโจรทางวรรณกรรม พวกเขาได้รับแรงเสริมทางบวก (Positive Reinforcement) จากกลุ่มคนประเภทเดียวกัน จนเข้าใจว่าสิ่งที่ทำอยู่ถูกต้อง
มาตรฐานและกลไกสมองของคนกลุ่มนี้กับเราอยู่คนละเส้นกัน
มันสะท้อนถึงการเติบโตและการเลี้ยงดูที่ขาดการปลูกฝังเรื่อง คุณค่าของผู้อื่น
ศักดิ์ศรีในการทำงานลิขสิทธิ์ สำหรับนักเขียน งานเขียนคือการแบ่งตัวตนลงไปใส่ในหนังสือ
การละเมิดลิขสิทธิ์ จึงเหมือนการเฉือนแขนเฉือนขาหรือจิตวิญญาณของผู้เขียน แม้นักเขียนจะตายไปแล้ว แต่ตัวหนังสือยังทำให้เขามีชีวิตอยู่ การละเมิดจึงไม่ต่างจากการลบหลู่คนตาย
การละเมิดจึงเป็นเรื่องของ สามัญสำนึก (Common Sense) ที่ต่างกันตามการบ่มเพาะ
บางคนหาช่องว่างทางกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่สนจริยธรรม
Cr. Kanok Shokjaratkul
หากถามว่า เส้นแบ่งระหว่าง แรงบันดาลใจ กับ การละเมิด อยู่ตรงไหน ยกตัวอย่างกรณี Lexicon vs JK Rowling เส้นแบ่งจะชัดเจนเมื่อมีการ แสวงหาผลประโยชน์ แม้จะไม่ได้ก๊อปปี้มาทั้งหมด แต่ถ้าคุณนำงานเขามาสรุปขายจนกระทบต่อต้นฉบับ นั่นคือการละเมิด
ทุกอย่างกลับมาที่เรื่อง จริยธรรม และ จรรยาบรรณ ถ้าเราเคารพกัน กฎหมายแทบไม่ต้องหยิบมาใช้เลย
ตอนนี้สมาคมนักเขียนฯ ก็เริ่มขยับตาม เรากำลังจะเชิญเอเจนซีต่างชาติมาพูดคุยเพื่อสร้างกลไกช่วยเหลือนักเขียนและสำนักพิมพ์เล็ก ๆ ที่ถูกต่างชาติละเมิด
โดยศึกษาโมเดลจากเกาหลีใต้ ที่มีระบบเอเยนซี่และภาครัฐคอยปกป้อง เพื่อไม่ให้นักเขียนตัวเล็ก ๆ ต้องมืดแปดด้าน ให้มีทางออกไม่ต้องโดดเดี่ยว
ฝากถึงนักอ่าน เงินทุกบาทที่คุณซื้อหนังสือละเมิด ไม่เคยไปถึงนักเขียนที่คุณรัก แต่มันคือ มีด ที่ไปเฉือนหัวใจนักเขียน
อย่าเป็นเครื่องมือในการทำชั่ว และขอให้มีภูมิคุ้มกันในการเลือกสนับสนุนสิ่งที่ถูกต้อง"
Cr. Kanok Shokjaratkul
Cr. Kanok Shokjaratkul
Cr. Kanok Shokjaratkul
Cr. Kanok Shokjaratkul







