จากเบียร์สู่บิวตี้

จากเบียร์สู่บิวตี้

นวัตกรรมจากบายด์โปรดักส์ ดูจะเป็นคำตอบที่ลงตัวของฝ่ายพัฒนาธุรกิจของเบียร์สิงห์ แตกไลน์ธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใต้แบรนด์ BREW SKIN

หากกล่าวถึง "เบต้ากลูแคน " (Beta Glucan) ในโรงงานผลิตเบียร์ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ (By Product) ที่มาจากยีสต์ ดังนั้น การมองหาวิธีการต่อยอดธุรกิจด้วยการคิดค้นนวัตกรรมจากบายด์โปรดักส์ ดูจะเป็นคำตอบที่ลงตัวของฝ่ายพัฒนาธุรกิจของเบียร์สิงห์ สบช่องแตกไลน์ธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคลภายใต้แบรนด์ BREW SKIN

สกัดยีสต์ด้วยนวัตกรรม

ฐิติวรรณ กลั่นรอด เจ้าหน้าที่การตลาดบริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า โรงงานผลิตเบียร์มี "ผลิตภัณฑ์พลอยได้" หลายชนิดจากกระบวนการผลิต หนึ่งในนั้นคือ เบต้ากลูแคน ซึ่งสกัดจากของเหลือทิ้งในการหมักเบียร์ จะจำหน่ายให้กับโรงงานผลิตเครื่องสำอางในราคากิโลกรัมละ 2-3 หมื่นบาท

ทางทีมพัฒนาธุรกิจเล็งเห็นว่า บายโปรดักส์นี้สามารถนำมาต่อยอดธุรกิจใหม่ได้ จึงส่งต่อให้ฝ่ายวิจัยคิดค้นและสกัดสาร "เบต้ากลูแคน" ออกมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล เพื่อใช้บายโปรดักส์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แม้จะไม่ใช่รายได้หลัก แต่หมายถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ในเครือเบียร์สิงห์ พร้อมๆ ไปกับการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล ถือเป็นเป็น “บลูโอเชี่ยน”

สำหรับเบียร์สิงห์ ที่อยู่ระหว่างการแตกไลน์ธุรกิจ "นอนแอลกอฮอล์" สู่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่ผลิตขึ้นจากเบียร์ โดยเป็นการต่อยอดทางธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเบียร์มากขึ้น จากเดิมที่ต้องแข่งขันในสงครามราคา

"แทนที่จะแข่งขายเบียร์ 4 ขวด100 บาท สู้มาขายสบู่ก้อนละ 150 บาทคงดีกว่า" ฐิติวรรณ กล่าว

ปัจจุบันตลาดความงามเป็นตลาดใหญ่ และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะคนยุคใหม่ใส่ใจเรื่องความสวยงามเป็นสิ่งสำคัญ แม้แต่ผู้ชายหันมาใส่ใจผิวพรรณหน้าตามากขึ้นแทน

ฐิติวรรณ กล่าวว่า ในระยะแรกได้วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ BREW SKIN ในร้านสิงห์ไลฟ์ ณ สยามเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ช็อปบุญรอดสามเสน และสิงห์ช็อปออนไลน์ทางเว็บไซต์ หลังจากทดลองวางจำหน่ายมา 6 เดือนพร้อมด้วยการจัดกิจกรรมตามสนามกอล์ฟ เทนนิส จักรยาน ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักกีฬา ผู้ชายวัยทำงาน นำร่องด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิว กันแดดและเครื่องใช้ส่วนบุคคล เช่น แชมพู สบู่ ต่อจากนั้นจะขยายไปสู่สินค้ากลุ่มอื่นๆ โดยเน้นการสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ค การจัดกิจกรรมและเว็บไซต์ www.singhalife.com คาดว่าปีหน้าจะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบด้วยการจำหน่ายผ่านร้านวัตสัน ร้านบู๊ทส์

กลับหัวคิดสร้างมูลค่า

ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ BREW SKIN สอดคล้องกับแนวทางการขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์ของเบียร์สิงห์ ทั้งทางด้านบรรจุภัณฑ์ โปรดักส์ดีไซน์และกลุ่มสินค้าสกินแคร์-คอสเมติก โดยจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ผลิตสินค้า เริ่มต้นจากเบต้ากลูแคน ฮอพ (hop) น้ำมันอาร์แกนออย (Argan Oil ) สารสกัดธัญพืชจากมอลต์ที่ให้ความชุ่มชื้น เป็นต้น

"เราเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ กล้าที่ทดลองใช้สินค้าใหม่ที่มีจุดขายที่แตกต่างและมีคุณภาพ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีวัตถุดิบอื่นๆ ที่อยู่ในขั้นตอนการวิจัย ล้วนมาจากบายโปรดักส์ของเบียร์ ออกมานำเสนอในอนาคต"

การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ของเบียร์สิงห์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นต้นแบบของการนำเสนอนวัตกรรมเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์(Creative Economy )มาขับเคลื่อนธุรกิจบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้ การสร้างสรรค์งาน และการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา ที่เชื่อมโยงกับรากฐานทางวัฒนธรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

จากแนวทางดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการหลีกเลี่ยงการแข่งขันสงครามราคาของค่ายเบียร์สิงห์ ที่รุกมายังตลาดใหม่และลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งพร้อมจ่ายเงินกับนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งแง่ของฟังก์ชั่นและอิมโมชั่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องใช้ส่วนบุคคล เริ่มต้นจากกลุ่มผู้ชายก่อนขยายไปในกลุ่มผู้หญิง โดยอาศัย ผลิตภัณฑ์พลอยได้ ที่มาจากการผลิตเบียร์มาเป็นจุดขาย

iSnap : http://youtu.be/Q8qxzHisTOs

บุษกร ภู่แส รายงาน