ภาพยนตร์ฮอลลีวูด 15 เรื่องที่คนดูตั้งตารอ ประจำปี 2569

ปี 2569 น่าจะเป็นอีกปีที่คึกคักสำหรับวงการภาพยนตร์เนื่องจากมีหนังฟอร์มยักษ์ตบเท้าเข้าฉายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั้งจากค่ายดีซี และมาร์เวล หนังมหากาพย์เทพนิยายกรีกฝีมือเสด็จพ่อโนแลน รวมถึงภาคต่อของหนังแฟรนไชส์ทั้ง Toy Story, The Devil Wears Prada, 28 Years Later, Star Wars

นี่คือรายชื่อหนังปี 2569 เพียงบางส่วนที่เราคัดเลือกมา

Hamnet

(กำหนดฉาย : มกราคม)

ผู้กำกับรางวัลออสการ์ โคลอี้ จ้าว หยิบเอานิยายของ Maggie O’Farrell ที่ว่าด้วยเรื่องราวของวิลเลียม เชคสเปียร์ (พอล เมสคัล) กับภรรยา แอคเนส (เจสซี บัคลีย์) มาสร้างเป็นหนัง โดยพูดถึงโศกนาฏกรรมลูกชายวัย 11 ขวบของพวกเขาเสียชีวิต ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้นักประพันธ์เอกของโลกแต่งบทละครเรื่อง Hamlet ออกมา

28 Years Later: The Bone Temple

(กำหนดฉาย : มกราคม)

ไม่ปล่อยให้รอนาน ผู้กำกับ แดนนี่ บอยล์ ปล่อยภาค 4 จากแฟรนไชส์หนังซอมบี้ของเขาออกมาให้ได้รับชมกันตั้งแต่ต้นปี หนังดำเนินเรื่องต่อจากภาคที่แล้วเมื่อ สไปค์ (อัลฟี วิลเลียมส์) กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มจิมมี่ คริสตัล (แจ็ค โอคอนเนล) ขณะที่ ดร.เคลสัน (เรล์ฟ ไฟนส์) ค้นพบบางสิ่งที่อาจทำให้โลกที่เต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อเปลี่ยนไป

Wuthering Heights

(กำหนดฉาย : กุมภาพันธ์)

การหยิบเอานิยายคลาสสิกของเอมิลี บรอนเตมาตีความใหม่ นำแสดงโดย เจคอบ เอลอร์ดี (Saltburn) และมาร์โก ร็อบบี้ (Barbie) ที่รับหน้าที่โปรดิวเซอร์ควบอีกตำแหน่ง หนังพูดถึงความรักต่างชนชั้นระหว่างแคทเธอรีน เอิร์นชอว์ กับฮีธคลิฟฟ์ เด็กกำพร้าที่พ่อของเธอนำมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก

ผู้กำกับ เอเมอรัลด์ เฟนเนลล์ บอกกับมาร์โก ร็อบบี้ว่าเธอต้องการให้ Wuthering Heights กลายเป็น Titanic สำหรับคนยุคนี้

Michael

(กำหนดฉาย : เมษายน)

หยิบแจ็คเก็ตหนังสีแดง ถุงมือ แล้วเต้นมูนวอล์คเข้าโรงภาพยนตร์ไปดูหนังชีวประวัติราชาเพลงป็อป ไมเคิล แจ็คสัน ที่นำแสดงโดยจาฟาร์ แจ็คสัน ผู้เป็นหลานของไมเคิล ร่วมด้วยนีอา ลอง, โคลแมน โดมิงโก, ลอรา แฮร์ริเออร์

The Devil Wears Prada 2

(กำหนดฉาย : พฤษภาคม)

หนังภาคต่อที่สร้างห่างจากภาคแรกเป็นเวลานานถึง 20 ปี แต่เหล่านักแสดงนำยังกลับมารับบทเดิมกันพร้อมหน้าทั้ง เมอรีล สตรีพ (มิแรนดา) แอน แฮธอเวย์ (แอนดี้) เอมิลี บลันท์ (เอมิลี) และสแตนลีย์ ทุคซี (ไนเจล) ร่วมด้วย เลดี้ กาก้า โดยคราวนี้จะพูดถึงยุคตกต่ำของสิ่งพิมพ์ทำให้เจ้าแม่วงการแฟชั่นอย่า มิแรนดา ต้องยอมอ่อนข้อให้กับอดีตลูกน้องของตัวเอง

Star Wars: The Mandalorian and Grogu

(กำหนดฉาย : พฤษภาคม)

The Mandalorian เป็นภาคแยก (spin-off) ของสตาร์ วอร์สที่ประสบความสำเร็จที่สุดกับการมีซีรีส์ออกมาถึง 3 ภาค ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่จะมีเวอร์ชั่นภาพยนตร์ออกมาให้ได้ดูกันในปี 2026 โดย Star Wars: The Mandalorian and Grogu ถือเป็นหนังสตาร์วอร์สเรื่องแรกในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ Star Wars episode IX The Rise of Skywalker ในปี 2019

Disclosure Day

(กำหนดฉาย : มิถุนายน)

การกลับมาทำหนังมนุษย์ต่างดาวครั้งแรกในรอบ 21 ปี ของสตีเวน สปีลเบิร์ก ที่เคยสร้างตำนานเอาไว้กับ Close Encounters of the Third Kind (1977), E.T. (1982) และ War of the Worlds (2005) มารอดูกันว่าคราวนี้พ่อมดฮอลลีวูดจะนำเสนอสิ่งชีวิตนอกโลกออกมาในแง่มุมไหน

Toy Story 5

(กำหนดฉาย : พฤษภาคม)

เหล่าของเล่นจะทำอย่างไรเืมื่อพบว่าเด็กสมัยนี้หันไปเล่นของเล่นไฮเทคกันแทน นับถึงตอนนี้ Pixar ยังไม่เปิดเผยพล็อตของ Toy Story 5 มากนัก ทราบเพียงว่าผู้กำกับคือ แอนดรูว์ สแตนตัน ผู้เคยทำ Wall-E กับ Finding Nemo) มาก่อน

Supergirl: Woman of Tomorrow

(กำหนดฉาย : มิถุนายน)

เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมากตอนที่ Supergirl (นำแสดงโดย มิลลี อัลคอก จาก House of the Dragon) ปรากฏตัวในภาพยนตร์ Superman ฉบับรีบูทของเจมส์ กันน์ และในปี 2026 นี้ เราจะได้เห็นหนังเดี่ยวของเธอที่พูดถึงการเดินทางไปทั่วกาแล็กซี่พร้อมกับเจ้าคริปโต ซูเปอร์ด็อก ที่แสบไม่แพ้เจ้าของ

Moana (live action)

(กำหนดฉาย : กรกฏาคม)

โมอานาเป็นแอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั้งภาคหนึ่ง ภาคสอง ทำให้เวอร์ชั่นคนแสดงจริงถูกคาดหวังเอาไว้สูง นำแสดงโดย Catherine Laga'aia ส่วนดเวย์น จอห์นสัน ที่พากย์เสียง มาอูอี ในหนังการ์ตูนทั้งสองภาค ได้มาเล่นเป็นตัวจริงเสียงจริงแล้ว

The Odyssey

(กำหนดฉาย : กรกฏาคม)

หลังได้รับออสการ์จาก Oppenheimer ไปเมื่อปี 2023 คริสโตเฟอร์ โนแลนก็หายหน้าหายตาไปนานเพื่อหยิบมหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ของโฮเมอร์มาทำเป็นหนัง กับเรื่องราวของโอดิสซุส (แมทท์ เดมอน) ที่เดินทางกลับบ้านหลังสงครามกรุงทรอย ร่วมด้วยนักแสดงชื่อดังคับคั่ง ทั้งโรเบิร์ต แพททินสัน, เซนดายา, ทอม ฮอลแลนด์, แอน แฮธอเวย์, มีอา โกธ, ชาลีซ เธอรอน ฯลฯ

Spider-Man: Brand New Day

(กำหนดฉาย : กรกฏาคม)

ภาคที่แล้ว Spider-Man: No Way Home จบลงตรงที่ ดร.สเตรนจ์ร่ายเวทย์ให้ทุกคนบนโลก รวมถึง เอ็มเจ แฟนของปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ลืมว่าเขาคือสไปเดอร์แมน หรืออาจจะลืมไปว่าโลกนี้เคยมีไอ้แมงมุมอยู่ ทำให้ทุกคนอยากรู้มากว่าภาคนี้จะดำเนินเรื่องต่ออย่างไร เซนดายา กับ เจจอบ บาตาลอน ผู้รับบท เน็ด เพื่อนซี้และคู่หูของปีเตอร์จะยังมีบทบาทในภาคนี้ไหม

สิ่งที่รู้มีเพียงหนังเขียนบทโดย อีริค ซอมเมอร์ส กับ คริส แมคเคนนา คนเขียนบท No Way Home ส่วนผู้กำกับคือ เดสติน แดเนียล เครตตัน ที่เคยทำ Shang-Chi มาก่อน และทอม ฮอลแลนด์น่าจะไปปรากฏตัวในหนัง Avengers: Doomsday ที่จะฉายปีเดียวกัน

Narnia: The Magician's Nephew

(กำหนดฉาย : พฤศจิกายน)

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ได้เกรตา เกอร์วิก มากำกับหนังที่สร้างจากนิยายเด็กสุดคลาสสิก ร่วมด้วยทัพนักแสดงแถวหน้าทั้ง แครีย์ มัลลิแกน, แดเนียล เครก, เมอรีล สตรีพ และเอ็มมา แคคีย์จาก Sex Education ที่มารับบท The White Witch

Avengers: Doomsday

(กำหนดฉาย : ธันวาคม)

MCU หวังกอบกู้ความรุ่งเรืองในอดีตด้วยการดึงสองพี่น้องรุสโซกลับมาทำ Avengers: Doomsday ดึงโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ที่เคยรับบทไอรอนแมน มาเล่นเป็นวายร้ายตัวเอ้ของจักรวาล แถมยังเป็นการรวมพลเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ครั้งใหญ่ที่น่าจะีทีม X-Men รวมอยู่ด้วย

Dune: Part Three

(กำหนดฉาย : ธันวาคม)

หนังมหากาพย์ไซไฟอวกาศภาค 3 ของผู้กำกับ เดนิส วีลเนิร์ฟ ที่ว่ากันว่าสร้างจากนิยายเล่มสอง Dune novel Dune: Messiah ของแฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต ตัวละครหลัก ทิโมธี ชาลาเมต์ กับเซนดายายังคงเหมือนเดิม เพิ่มเติมด้วย โรเบิร์ต แพททินสัน

เหตุการณ์ใน Messiah เกิดขึ้นหลัง Dune ภาคแรก 12 ปี พูดถึง พอล อะเทรดีส หลังก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิ์ และผลกระทบจากการปกครองของเขา