สดร.เตรียมเปิดหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา

สดร. เปิดตัว หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษาณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดตัว “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา” เผยโฉม หอดูดาวระดับโลกแห่งแรกของภูมิภาค ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์พร้อมระบบโดมอัตโนมัติขนาดใหญ่ที่สุดและล้ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ 22 มกราคมนี้ ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม. 44.4 อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยหลังเริ่มเปิดใช้หอดูดาวแห่งชาติฯ ว่า นักวิจัยไทยสามารถผลิตผลงานวิจัยดาราศาสตร์ได้เทียบเคียงกับระดับนานาชาติ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา
เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ เชิงวิชาการแห่งใหม่ของคนไทย ช่วยกระตุ้นให้เราสนใจวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีกันมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เราทุกคนตื่นตัวกับโลกมากขึ้น เข้าใจธรรมชาติมากขึ้น คิดเป็นวิทยาศาสตร์ รับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างมีเหตุมีผล ถ้าคนไทยมีใจเป็นนักวิทยาศาสตร์มากขึ้นคนละเล็กละน้อย บ้านเมือง สังคมเราก็จะก้าวหน้าไปสู่การเป็น “สังคมฐานความรู้” (Knowledge Based Society) สังคมแห่งภูมิปัญญา การสร้างสรรค์และการเรียนรู้ตลอดชีวิตต่อไป”
รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพิธีเปิดอย่างเป็นทางการว่า ขณะนี้ สดร. ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เตรียมพร้อมรับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธี วันที่ 22 มกราคมนี้ ซึ่งหอดูดาวแห่งนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระองค์ และยังได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา“ ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ดาราศาสตร์ไทย ซึ่งรุดหน้าอย่างรวดเร็ว เพียงสี่ปีหลังจากก่อตั้ง สดร.
"วันนี้เรามีที่ยืนอย่างโดดเด่นในวงการดาราศาสตร์โลก เรามุ่งมั่นพัฒนารอบด้าน สร้างเครือข่ายทางวิชาการระดับนานาชาติ บ่มเพาะบุคลากรรุ่นใหม่ ขยายโครงสร้างกายภาพ เช่น หอดูดาวแห่งนี้ พร้อมๆ กับสร้างเครือข่ายหอดูดาวภูมิภาคเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักเพื่อต่อยอดงานวิจัยและเผยแพร่สู่สาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ"ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าว
ทั้งนี้สดร.อยู่ระหว่างจัดสรรหลักสูตรการเรียนด้านดาราศาสตร์แก่นักเรียนทุกระดับชั้น เพราะเชื่อมั่นว่าดาราศาสตร์จะดึงดูดเด็กและเยาวชนให้สนใจวิทยาศาสตร์ได้อย่างง่ายดาย การเปิดตัว “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา”
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า เชิงปฏิบัติการ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยของหอดูดาวฯ ว่า “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร ด้วยระบบอัลตะซิมุท (Altazimuth System) สามารถเล็งและติดตามวัตถุท้องฟ้าได้แม่นยำยิ่ง ตัวกล้องใช้ระบบทัศนศาสตร์แบบลดความบิดเบี้ยวของภาพ เรียกว่าระบบริชชี-เครเทียน (Ritchey-Chretien) กระจกหลัก (Primary Mirror) เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร เป็นกระจกโค้งไฮเปอร์โบลา มีพอร์ตติดตั้งอุปกรณ์แบบนาสมิธ (Nasmyth) บังคับแสงดาวที่เข้ากล้องให้สะท้อนออกข้างกล้อง
ซึ่งติดตั้งเครื่องบันทึกสัญญาณต่างๆ อาทิ กล้องถ่ายภาพซีซีดี ซีซีดีสเปกโทรกราฟ กล้องโทรทรรศน์หมุนได้รอบเพื่อเคลื่อนที่กวาดพิกัด และมีโดมไฟเบอร์กลาสขนาดใหญ่หมุนตามได้สอดคล้องกัน ทั้งหมดทำงานอัตโนมัติควบคุมด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้จากระยะไกล ที่ตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,457 เมตร
ทัศนวิสัยเหมาะแก่การสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ สามารถทำวิจัยได้มากกว่า 200 คืนต่อปี ทั้งยังโดดเด่นกว่าทำเล ของหอดูดาวในต่างประเทศเพราะมีหอดูดาวเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งเป็นจุดสังเกตการณ์ทั้งซีกฟ้าเหนือ และซีกฟ้าใต้ได้ตลอดทั้งปี”
ผู้อำนวยการ สดร. กล่าวอีกว่า “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา เป็นห้องปฏิบัติการดาราศาสตร์ที่สำคัญของไทย เป็นศูนย์กลางการวิจัยและวิชาการในเครือข่ายดาราศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางดาราศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระตุ้นพัฒนาการด้านศึกษาและยกระดับวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในมาตรฐานสากล
ไทยจะสามารถสานงานวิจัยในระดับก้าวหน้า(Advance) ที่เน้นเฝ้าสังเกตและเก็บข้อมูลพลวัตของวัตถุท้องฟ้าด้วยความแม่นยำสูง อาทิ การค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ(Exo-planet) การศึกษาสมบัติทางกายภาพและการวิวัฒนาการของระบบดาวคู่แบบใกล้ชิด(Close Binary System) ดาวระเบิด(Cataclysmic Variable) การบังดาวของดวงจันทร์(Lunar Occultation) หลุมดำ(Black Hole) ในระบบดาวคู่หรือดาวแปรแสง เอกภพวิทยา(Cosmology) สสารและพลังงานมืด(Dark Matter and Dark Energy) ซึ่งผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้อาจนำไปสู่การค้นพบที่สำคัญทางวิทยาศาสตร์ในอนาคตอันใกล้
นอกจากนี้หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา” ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางดาราศาสตร์ สนับสนุนการจัดการศึกษาและงานวิจัยของอาจารย์และนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ฝึกอบรมดาราศาสตร์ระดับนานาชาติ ที่สำคัญที่สุด คือสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนของชาติให้มีใจรักวิทยาศาสตร์ อันเป็นนโยบายหลักอีกประการหนึ่งของสถาบันฯ คือการพัฒนาการศึกษาด้านดาราศาสตร์ของประเทศ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อการวิจัยทางดาราศาสตร์ในอนาคต และอยากเชิญชวนประชาชนคนไทยมาร่วมภาคภูมิใจกับหอดูดาวแห่งชาติแห่งแรกของไทยซึ่งเป็น “หอดูดาวของคนไทยทุกคน







