หัวเว่ยหนุนสตาร์ตอัปไทย ปั้นธุรกิจดีพเทคสมัยใหม่ผ่าน Spark Ignite

หัวเว่ยหนุนสตาร์ตอัปไทย ปั้นธุรกิจดีพเทคสมัยใหม่ผ่าน Spark Ignite

หัวเว่ยจัดแข่งขัน Spark Ignite เฟ้นหาสุดยอดสตาร์ตอัปที่มีโซลูชันและโมเดลธุรกิจเข้มแข็ง ชิงเงินรางวัล 4 ล้านบาท พร้อมผลักดันอีโคซิสเต็มสตาร์ตอัปไทยให้ไปถึงระดับโลก

ปิดฉากลงแล้วกับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศโครงการสตาร์ตอัป “Spark-Ignite Pitching Day & Award Ceremony” ในงาน Spark Founders Summit 2022 พร้อมกับงาน “Huawei Connect 2022” มหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก ปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “Unleash Digital” นำเสนอทิศทางการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีดิจิทัลของอุตสาหกรรม รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น คลาวด์, AI และ 5G ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ยกระดับขีดความสามารถ และสร้างคุณค่าให้กับทุกธุรกิจ และอุตสาหกรรมทั่วโลก

สำหรับการแข่งขันสตาร์ตอัปจัดขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสตาร์ตอัปด้านดิจิทัลของไทย โดยผู้ชนะจะได้รับเครดิตคลาวด์มูลค่า 125,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 4 ล้านบาท พร้อมกับได้รับคำปรึกษาจากหัวเว่ยในการผลักดันธุรกิจให้เติบโต 

ซึ่งทีมผู้ที่ชนะเลิศได้แก่ “โกลบิช (Globish)” สตาร์ตอัปสาย EdTech หรือสตาร์ตอัปสายการศึกษา ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการเรียน “ห้องเรียนภาษาอังกฤษแบบเรียนสด (Live English Classroom)” โดยโกลบิชเน้นการสอนที่เกี่ยวกับสิ่งรอบตัว เพื่อเป็นโซลูชันช่วยเพิ่มศักยภาพการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษของคนไทย ให้ไม่เขินอายที่จะพูดภาษาอังกฤษ

หัวเว่ยหนุนสตาร์ตอัปไทย ปั้นธุรกิจดีพเทคสมัยใหม่ผ่าน Spark Ignite

“เราเอาเทคโนโลยีมาช่วย ทำให้เรียนสดโดยที่ครูอยู่ที่ไหนก็ได้ของโลก มีแบบตัวต่อตัว เรียนแบบกลุ่ม เรียนแบบนานาชาติ เพราะเราเลือกไม่ได้ว่าจะต้องคุยกับเจ้านายสัญชาติไหน สามารถเลือกหัวข้อที่เรียนได้ เมื่อเรียนแล้วมีเวิร์กช็อป ให้นักเรียนพบกันจริงตามสถานที่บริเวณแนวรถไฟฟ้า ตอนนี้เรามีทีมงานราว 100 คน อยากให้คนไทยสามารถคว้าโอกาสได้” ชื่นชีวัน วงษ์เสรี เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้งโกลบิชกล่าว

ลีโอ เจียง ประธานบริหารด้านดิจิทัล หัวเว่ย คลาวด์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้กล่าวเสริมว่า งาน Spark Founders Summit 2022 เป็นโครงการต่อยอดความสำเร็จในการจัดงานที่สิงคโปร์และฮ่องกงในปีที่ผ่านมา งานในปีนี้จึงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ได้เชิญผู้นำจากภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการบ่มเพาะอีโคซิสเต็มสตาร์ตอัป ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ตลอดจนการรับมือกับโอกาสและความท้าทายในแง่ของเทคโนโลยี 

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หัวเว่ยได้เปิดตัวการแข่งขัน “Spark-Ignite 2022” ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และเหล่าพันธมิตร การแข่งขัน Spark Ignite Thailand เปิดโอกาสให้สตาร์ตอัปไทยได้เข้าร่วมโครงการ Huawei Spark Accelerator เพื่อผลักดันบริษัทของพวกเขาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และขยายศักยภาพการเติบโตสู่ระดับสากล 

หัวเว่ยหนุนสตาร์ตอัปไทย ปั้นธุรกิจดีพเทคสมัยใหม่ผ่าน Spark Ignite

โดยโครงการนี้สามารถเข้าถึงสตาร์ตอัปในประเทศไทยมากกว่า 1,700 ราย และงานประชุมสุดยอด Spark Founders Summit จะเป็นการรวมตัวของผู้เล่นสำคัญในอีโคซิสเต็ม เชื่อมโยงเจ้าของกิจการ ผู้กำหนดนโยบาย องค์กร และนักลงทุนเข้าด้วยกัน เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตด้านดิจิทัลของทวีปเอเชีย เกี่ยวกับไอเดียจากผู้นำทางความคิดและแนวปฏิบัติเพื่อความสำเร็จรวมทั้งจัดแสดงผลิตภัณฑ์และสตาร์ตอัปที่โดดเด่น

ทั้งนี้ สตาร์ตอัปจำนวน10 ราย ที่ได้รับคัดเลือกจากประเทศไทยจะร่วมนำเสนอข้อมูลบริษัทและผลิตภัณฑ์ระหว่างการแข่งขัน รอบชิงชนะเลิศ Spark Ignite Thailand Finals ในวันที่ 21 กันยายน 

ผู้เข้าแข่งขัน 10 ทีมสุดท้ายจะได้รับคำปรึกษาทางธุรกิจแบบตัวต่อตัวกับผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ย โดยผู้ชนะรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 จะได้รับเครดิตคลาวด์ 125,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 4 ล้านบาท และได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญ และพันธมิตรทางการตลาดของหัวเว่ย 

ทีมรองชนะเลิศอันดับที่ 2 และ 3 ตลอดจนทีมอันดับที่ 4 และ 5 และอันดับที่ 6-10 จะได้รับรางวัลเป็นเครดิตคลาวด์ 80,000 ดอลลาร์ 20,000 ดอลลาร์ และ 5,000 ดอลลาร์ ตามลำดับ เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้พวกเขาสามารถเติบโตทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว 

นอกจากนี้ ผู้ร่วมแข่งขันทุกทีมจะได้รับโอกาสในการเข้าร่วมโครงการ Huawei Spark ระดับ “Accelerate Tier” หรือระดับ “Incubate Tier” รวมถึงโครงการ Huawei Spark Fire, และโครงการ Spark Go China 

อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานว่า “ทุกทีมได้แสดงแนวคิดที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับการผสานโซลูชันเทคโนโลยีดิจิทัลให้เข้ากับโมเดลธุรกิจ สตาร์ตอัปถือเป็นขุมพลังขับเคลื่อนการค้นพบใหม่ ๆ และต้นคิดเกี่ยวกับนวัตกรรม นี่คือเหตุผลที่ทำให้เราทุกคนพบกันในวันนี้ โดยหัวเว่ยเชื่อมั่นในศักยภาพของสตาร์ตอัปไทยกับการสร้างโอกาสใหม่ทางด้านอาชีพ และเติมพลังงานสดใหม่ในภูมิทัศน์ดิจิทัลเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19”