“เซลคอม-ดิจิ” (Celcom-Digi) บริษัทลูกเทเลนอร์ ได้ไฟเขียวควบรวมในมาเลเซีย

“เซลคอม-ดิจิ” (Celcom-Digi) บริษัทลูกเทเลนอร์ ได้ไฟเขียวควบรวมในมาเลเซีย

Digi.Com บริษัทในเครือของเทเลนอร์กรุ๊ปในมาเลเซีย และกลุ่มเอเซียต้าได้ประกาศในวันนี้ว่าได้รับหนังสือแจ้งจากคณะกรรมการการสื่อสารและมัลติมีเดียแห่งมาเลเซีย (MCMC) ที่กำกับดูแลกิจการการสื่อสารระบุว่าไม่คัดค้านการควบรวมกิจการระหว่างเซลคอม และ ดิจิ

Digi.Com บริษัทในเครือของเทเลนอร์กรุ๊ปในมาเลเซีย และกลุ่มเอเซียต้าได้ประกาศวันนี้ ได้ไฟเขียวจาก MCMC เป็นการให้ทั้งสองบริษัทดำเนินการตามขั้นตอนควบรวมต่อไปตามกระบวนการ โดยการทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์จะต้องได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ประเทศมาเลเซีย และผู้ถือหุ้นทั้ง เอเซียต้า (Axiata) และ ดิจิ (Digi)

“เซลคอม-ดิจิ” (Celcom-Digi) บริษัทลูกเทเลนอร์ ได้ไฟเขียวควบรวมในมาเลเซีย

“เซลคอม-ดิจิ” (Celcom-Digi) บริษัทลูกเทเลนอร์ ได้ไฟเขียวควบรวมในมาเลเซีย

นายเยอเก้น โรสทริป, EVP and Head of Telenor Asia เทเลนอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า "เราได้บรรลุขั้นตอนสำคัญในเชิงบวกด้านกฎระเบียบสำหรับการควบรวมกิจการในมาเลเซีย เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะก้าวไปข้างหน้าโดยนำบริษัททั้งสองนี้มารวมกันเพื่อศักยภาพสูงสุด ซึ่งจะเป็นการสร้างผู้ให้บริการดิจิทัลที่แข็งแกร่งในเชิงพาณิชย์และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยแผนการควบรวมกิจการทั้งในประเทศไทยและมาเลเซียนี้ ทำให้เทเลนอร์มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสร้างบริษัทที่พร้อมก้าวสู่อนาคตที่สามารถรองรับการใช้งานดิจิทัลระดับประเทศได้ดียิ่งขึ้น และสามารถนำเสนอบริการล้ำหน้าใหม่ๆ แก่ผู้บริโภคในภูมิภาคได้"

เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคในมาเลเซียจะยังคงได้รับประโยชน์จากการแข่งขันที่มีประสิทธิภาพในภาคโทรคมนาคม เอเซียต้า (Axiata) และ ดิจิ (Digi) พร้อมที่จะดำเนินการตามข้อเสนอตามที่ระบุโดย MCMC อย่างครบถ้วน 

ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทมั่นใจว่าการควบรวมกิจการจะทำให้เกิดการทำงานร่วมกัน และจะสร้างผู้ให้บริการดิจิทัลที่มีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งสามารถตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

 

บริษัทที่ควบรวมนี้จะส่งมอบเครือข่ายและสัญญาณที่มีคุณภาพและครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ ยังพร้อมสำหรับการลงทุนในการขยายเครือข่าย ขับเคลื่อนโซลูชัน 5G ใหม่ๆ และสร้างการเติบโตสำหรับกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่และ SMEs โดยบริษัทใหม่นี้จะสามารถรองรับผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากขึ้นได้ ไปพร้อมๆ กับส่งมอบสิทธิประโยชน์มากมายผ่านช่องทางบริการต่างๆ ที่มีศักยภาพมากขึ้น มอบประสบการณ์เครือข่ายที่ดียิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

ทั้งสองฝ่ายคาดการณ์ว่าการควบรวมกิจการจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2565 ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อเสร็จสมบูรณ์ เอเซียต้า และ เทเลนอร์ จะถือหุ้นในสัดส่วนที่เท่าเทียมกันในบริษัทที่ควบรวมใหม่ฝ่ายละ 33.1%