เอไอเอสทุ่ม 1,000 ล. อัดแคมเปญต่อยอดคนละครึ่งหวังช่วยรักษาฐานลูกค้า

เอไอเอสทุ่ม 1,000 ล. อัดแคมเปญต่อยอดคนละครึ่งหวังช่วยรักษาฐานลูกค้า

รุกพริวิลจรักษาฐานลูกค้าในระดับฐานราก มั่นใจหากมีเอ็นเกจเมนต์ลูกค้าจะไม่ไปไหน ผนึกกรุงไทยต่อยอดคนละครึ่ง เดินหน้าขยายผลความสำเร็จ “โครงการพอยท์เพย์” ชวนใช้เอไอเอส พอยท์แลกรับเงินสดกับ “ร้านค้าถุงเงิน” กว่า 400,000 ร้านทั่วประเทศ

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า วันนี้สถานการณ์ภาพรวมของประเทศมีสภาวะการชะลอตัวของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากแรงกดดันหลายปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ เริ่มส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการ และกำลังซื้อของผู้บริโภค ดังนั้นภารกิจของเอไอเอสที่เดินหน้าทำควบคู่ไปกับการพัฒนาบริการดิจิทัลสำหรับคนไทยแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนภาคธุรกิจรายย่อย รวมถึงการแบ่งเบาภาระของลูกค้าไปพร้อมๆ กัน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพลิกฟื้นระบบเศรษฐกิจฐานราก ให้เกิดการหมุนเวียนของรายได้ ในฐานะฟันเฟืองเล็กที่ช่วยพยุงกำลังซื้อให้เดินหน้าต่อได้

ทั้งนี้ เศรษฐกิจฐานรากถือเป็นเส้นเลือดฝอยที่มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศในภาพใหญ่ โดยเฉพาะ ร้านค้ารายย่อย ร้านอาหารสตรีทฟู้ด รถเข็น ตลาดสด ล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของระบบโครงสร้างของเศรษฐกิจทั้งภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจการทำงานของเอไอเอส และ ธนาคารกรุงไทย ที่มุ่งมั่นผสานจุดแข็งร่วมกันเดินหน้าแบ่งเบาภาระของคนไทย และสนับสนุนร้านค้าถุงเงินที่อยู่ในระบบของธนาคารกรุงไทย ผ่านโครงการ “พอยท์เพย์” หวังกระตุ้นการใช้จ่ายหลังจบโครงการคนละครึ่งของภาครัฐ โดยให้ลูกค้าเอไอเอส สามารถใช้คะแนน เอไอเอส พอยท์ แลกรับส่วนลดเงินสดกับร้านค้าถุงเงินกว่า 400,000 ร้านค้าทั่วประเทศ

เอไอเอสทุ่ม 1,000 ล. อัดแคมเปญต่อยอดคนละครึ่งหวังช่วยรักษาฐานลูกค้า
 

“จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการทำงานร่วมกับธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่ ปี 2564 ที่ผ่านมา กับการเปิดตัวโครงการพอยท์เพย์ ที่เชื่อมต่อให้ร้านค้าถุงเงินที่อยู่ในระบบของธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นร้านค้ารายย่อย ร้านค้าริมทาง ร้านอาหาร ร้านค้าในตลาด ซึ่งมีมากกว่า 400,000 ร้าน มาเป็นแหล่งที่ลูกค้าเอไอเอส สามารถนำพอยท์มาใช้ชำระค่าสินค้าได้ ซึ่งตั้งแต่เปิดใช้งานมียอดแลกแล้ว 100 ล้านพอยท์”

ทั้งนี้ คะแนนเอไอเอส พอยท์ 2 คะแนน แทนเงินสดได้ 1 บาท แลกส่วนลดเงินสดในการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าถุงเงินที่เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 400,000 ร้านค้า จาก 1.6 ล้าน ร้านค้าทั่วประเทศ และในปีนี้จะขยายเพิ่มเป็น 1 ล้านร้านค้า และในอนาคตมีแผนขยายประเภทของร้านค้าถุงเงินให้หลากหลายขึ้น เช่น ร้านสะดวกซื้อ ที่พัก โรงแรม การขนส่ง เพื่อให้รองรับและครอบคลุมการใช้งานของลูกค้าได้ทั่วประเทศ

เอไอเอสทุ่ม 1,000 ล. อัดแคมเปญต่อยอดคนละครึ่งหวังช่วยรักษาฐานลูกค้า

นายปรัธนา กล่าวในช่วงท้ายว่า สำหรับงบประมาณในแคมเปญนี้ใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเอไอเอสมองว่าเป็นการลงทุนเพื่อรักษาฐานลูกค้า (รีเทนเนอร์ โปรแกรม) เพื่อสร้างเอ็นเกจเมนต์ให้ลูกค้ารับรู้ว่าเมื่ออยู่กับเอไอเอส จะได้สิทธิประโยชน์อย่างไรบ้าง และเอไอเอสมีสิทธิพิเศษที่หลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า และเราก็พร้อมจะขยายสิทธิพิเศษเหล่านี้ไปยังลูกค้าในทุกระดับและขยายไปยังต่างจังหวัดด้วย

ซึ่งจากที่วันนี้เรามีลูกค้าที่อยู่ในโปรแกรมเอไอเอส พอยท์ กว่า 20 ล้านคน มีคะแนนสะสมของลูกค้ากว่า 2,600 ล้านคะแนน ที่พร้อมจะแปลงเป็นโอกาสของร้านค้าให้มีตัวช่วยในการดำเนินธุรกิจต่อไป ซึ่งเราเชื่อว่าศักยภาพของเอไอเอสในฐานะผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัล จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือครั้งนี้กับธนาคารกรุงไทยในการกระตุ้นการใช้จ่ายของลูกค้า เพื่อเป็นพลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากระดับเส้นเลือดฝอยในทุกพื้นที่ของประเทศให้เกิดการเติบโตได้อย่างยั่งยืน”