“ซิโนแวค” เตรียมส่ง “วัคซีนโคโรนาแวค” เวอร์ชั่นใหม่ สู้ “โอมิครอน”

“ซิโนแวค” เตรียมส่ง “วัคซีนโคโรนาแวค” เวอร์ชั่นใหม่ สู้ “โอมิครอน”

"ซิโนแวค" เผยอยู่ระหว่างพัฒนา "วัคซีนโคโรนาแวค" เวอร์ชั่นใหม่ สู้ "โอมิครอน" ผลการศึกษา 95% ของผู้ได้รับวัคซีนโคโรนาแวค 3 โดส สร้างภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน มีการเพิ่มขึ้น T-cells สูงสุด ใน 4 สัปดาห์หลังจากการฉีด "วัคซีนเข็มกระตุ้น"

วันนี้ (15 มี.ค. 65) เหมิง เหว่ยหนิง รองประธานบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค (ฮ่องกง) จำกัด เผยในงานแถลงข่าวออนไลน์ผ่านระบบ Zoom โดยระบุว่า ซิโนแวค ในฐานะผู้พัฒนาและผลิตวัคซีนที่มีประวัติยาวนานกว่า 20 ปี จนปัจจุบัน วัคซีนโคโรนาแวค ได้จำหน่ายไปแล้วกว่า 2.8 พันล้านโดสทั่วโลก มีผลการศึกษาด้านความปลอดภัยในการใช้วัคซีนในวงกว้างทั่วโลก รวมถึงผู้ป่วยเรื้อรัง และยังมีประสิทธิภาพที่ดีในประชากรสูงอายุ เด็ก เมื่อใช้เป็นบูสเตอร์ จะมีประสิทธิภาพในการต่อต้านไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ที่น่ากังวลรวมถึงสายพันธุ์โอมิครอน ขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการ พัฒนาวัคซีนต่อต้านสายพันธุ์ โอมิครอน 

 

“สำหรับ ความคืบหน้าวัคซีนโคโรนาแวค เวอร์ชั่นพิเศษที่มีประสิทธิภาพต่อต้านสายพันธุ์โอมิครอนนั้น เนื่องจาก วัคซีนโคโรนาแวคมีการศึกษาในระยะที่ 1-3 เรียบร้อยไปแล้ว ดังนั้น โอมิครอน ถือว่าอยู่ในโคโรนาแวคที่พิเศษ เพราะเปลี่ยนเพียงสายพันธุ์ไวรัสเท่านั้น การผลิตเหมือนเดิม ควบคุมคุณภาพเช่นเดิม เป็นเวอร์ชั่นพิเศษ การศึกษาวิจัย ไม่ได้อยู่ในเฟส 1, 2, 3 แต่เป็นการศึกษาเสริมเข้ามาเพื่อยืนยันว่า วัคซีนนี้จะสามารถครอบคลุมโอมิครอนได้”

 

ผลการศึกษาต่อ “โอมิครอน”

 

สำหรับ การศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับ “วัคซีนโคโรนาแวค” ในการต่อต้านไวรัส “โอมิครอน” ซึ่งตีพิมพ์ใน NA TURE เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 พบอัตราการสร้างภูมิคุ้มกันใหม่ (seroconversion rate) ของแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ในการต่อต้านไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ในอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 โดส เท่ากับ 3.3% (2/60) และจำนวน 3 โดส 95% (57/60) ตามลำดับ

 

ซึ่งบ่งชี้ว่าวัคซีนโคโรนาแวค 3 โดส ช่วยเพิ่มแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ เมื่อเทียบกับระดับแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ในประชากรที่ได้รับวัคซีนโคโรนาแวค 2 และ 3 โดส ผู้ที่ฉีด 3 โดสมีแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ต่อต้านไวรัสสายพันธุ์ “โอมิครอน” ได้ดีกว่า

ในการศึกษาก่อนหน้านี้ พบว่า ในบราซิล ชิลี และประเทศอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า 2 โดสของวัคซีนโคโรนาแวคชนิดเชื้อตาย มีประสิทธิภาพป้องกันต่อต้านไวรัส “สายพันธุ์เดลต้า” มากกว่า 80% ดังนั้น นักวิจัยจึงเชื่อว่าการฉีดวัคซีนโคโรนาแวค 3 โดสจะช่วยให้สามารถป้องกันต่อต้านไวรัสสายพันธุ์ “โอมิครอน” ได้มีประสิทธิภาพ

 

“ซิโนแวค” เตรียมส่ง “วัคซีนโคโรนาแวค” เวอร์ชั่นใหม่ สู้ “โอมิครอน”

 

สำหรับผลการศึกษาการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน โคโรนาแวค ในประเทศชิลี จากข้อมูลการใช้งานจริง (real world data) พบว่า ประสิทธิผลในการป้องกันการเจ็บป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ของผู้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 80% ในระยะเวลา 14 วันหลังจากมีการฉีดวัคซีนโคโรนาแวคกระตุ้น ประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการเพิ่มขึ้นเป็น 80.2% จาก 56% และประสิทธิผลป้องกันความจำเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็น 88% จาก 84%

 

การเพิ่มขึ้น T-cells สูงสุด ใน 4 สัปดาห์หลังฉีดกระตุ้น

 

“วัคซีน โคโรนาแวค ช่วยป้องกันผู้ได้รับวัคซีนจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จากสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่น่ากังวลรวมถึง “โอมิครอน” การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Medrxiv ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนกระตุ้น CoronaVac มี T-cells และมีภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ไวรัส ต่อสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน”

 

นอกจากนั้น จากผลการศึกษา พบว่า ภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 4 สัปดาห์แรกหลังจากมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น นอกจากนั้น มีการเพิ่มขึ้น T-cells สูงสุด ใน 4 สัปดาห์หลังจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งสะท้อนความสามารถในการต่อต้านสายพันธุ์เดลต้าและโอมิครอน

 

“ซิโนแวค” เตรียมส่ง “วัคซีนโคโรนาแวค” เวอร์ชั่นใหม่ สู้ “โอมิครอน”

ศึกษาในกลุ่มสูงวัย โรคเรื้อรัง เด็ก สตรีมีครรภ์

 

เหมิง กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันและความปลอดภัย CoronaVac มีความเหมาะสมกับกลุ่มประชากรที่หลากหลาย รวมทั้งผู้ป่วยจากโรคเรื้อรัง (โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคจากระบบหายใจเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคความดันสูง) ผู้สูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีภายหลังการคลอดบุตร

 

ปัจจุบัน วัคซีนโคโรนาแวค ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินและการทำการตลาดอย่างมีเงื่อนไขโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและองค์การอนามัยโลกในกว่า 50 ประเทศและภูมิภาค ทั้งนี้ มีการจัดส่งวัคซีนโคโรนาแวค แล้วกว่า 2,700 ล้านโดสทั่วโลก และเด็กที่มีอายุระหว่าง 3 ถึง 17 ปีในประเทศจีน ได้รับวัคซีนจำนวนมากกว่า 250 ล้านโดส ณ เดือนมกราคม 2565 มีการใช้อย่างแพร่หลาย มีอาการข้างเคียงต่ำ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ นับเป็นเครื่องมือทางสาธารณสุขที่สำคัญในการต่อสู้กับสถานการณ์โรคระบาด

 

“ซิโนแวค” เตรียมส่ง “วัคซีนโคโรนาแวค” เวอร์ชั่นใหม่ สู้ “โอมิครอน”

 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกแสดงให้เห็นว่าวัคซีนโคโรนาแวค มีการพัฒนาและมีประสิทธิผล 65.3% ในการป้องกันโควิด-19 , 87.5% สำหรับการป้องกันการรักษาในโรงพยาบาล, 90.3% สำหรับการป้องกันการเข้า ICU และ 86.3%

 

สำหรับการป้องกันการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกที่หลากหลายแสดงให้เห็นว่าวัคซีนโคโรนาแวค มีความเกี่ยวพันกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ในระดับต่ำ

 

อัพเดท ข้อมูล ณ มกราคม 2565

 

  • ซิโนแวคได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 กว่า 2.8 พันล้านโดสทั่วโลก 
  • ให้วัคซีนโคโรนาแวคมากถึง 380 ล้านโดสผ่านโปรแกรม COVAX และประมาณ 10 ล้านโดสผ่าน CHINA AID ไปยัง 21 ประเทศ
  • ใช้เกือบ 248 ล้านโดสของวัคซีนโคโรนาแวคให้กับคนอายุ 3-17 ปีในประเทศจีน 117 ล้านโดสได้ให้กับเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปีโดยเฉพาะ
  • วัคซีนโคโรนาแวคถูกใช ้ในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา

 

“ซิโนแวค” เตรียมส่ง “วัคซีนโคโรนาแวค” เวอร์ชั่นใหม่ สู้ “โอมิครอน”