ไฟเขียวฉีดวัคซีนโควิด19 “ไฟเซอร์ครึ่งโดส”  เข็มกระตุ้นสูงวัย-เข็ม4ทั่วไป

ไฟเขียวฉีดวัคซีนโควิด19 “ไฟเซอร์ครึ่งโดส”  เข็มกระตุ้นสูงวัย-เข็ม4ทั่วไป

ไฟเขียวฉีดวัคซีนโควิด19 “ไฟเซอร์ครึ่งโดส”  กระตุ้นสูงวัย-เข็ม4ทั่วไป ลดผลข้างเคียง-ภูมิฯขึ้นดี หลังพบคนแก่ 70ปีขึ้นไปอัตราป่วยตายถึง 7.5 % ตั้งเป้าฉีดเข็ม3ผู้สูงอายุให้ได้ 50-60%  กำชับลูกหลาน “ทำตัวให้สะอาด” 1 สัปดาห์ก่อนไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ช่วงสงกรานต์

   เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์การเร่งฉีดวัคซีนโควิด19ในกลุ่มผู้สูงอายุว่า  ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น  70 รายในวันนี้  97 % เป็นกลุ่ม 608 คือผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรังและหญิงตั้งครรภ์  โดยเป็นผู้สูงอายุ70ปีขึ้นไป 47 ราย  และเป็นผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด19และฉีดวัคซีนไม่ครบ 52 รายซึ่งเป็นไปตามสถิติข้อมูลที่ปรากฎ คือ

  • กลุ่มอายุ  1-50 ปี อัตราป่วยตายต่ำกว่า 0.1 %
  • กลุ่มอายุ  50-60 ปี  0.3%
  • กลุ่มอายุ 70 ปีขึ้นไป 7.5 %

เพราะฉะนั้นจึงต้องพยายามเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่ม608 ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะการฉีดเข็มกระตุ้น  เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต

    

      “ผู้สูงอายุอาจจะกลัว กังวลเรื่องของผลข้างเคียง จึงจะมอบเป็นนโยบายให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็ม 3 กระตุ้น ในปริมาณ ครึ่งโดสให้กับผู้สูงอายุ  รวมถึง  ในการกระตุ้นเข็ม 4 กับกลุ่มทั่วไปที่ถึงกำหนดด้วย เนื่องจากข้อมูลทางวิชาการระบุว่าช่วยลดผลข้างเคียง และภูมิคุ้มกันขึ้นได้ดี แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสมัครใจ”นพ.เกียรติภูมิกล่าว 
      นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า  สายพันธุ์โอมิครอนขณะนี้โจมตีผู้สูงอายุมาก มีการป่วยและเสียชีวิตสูง แต่บางส่วนก็ไม่ได้เสียชีวิตจากโควิด เป็นการเสียชีวิตจากโรคเรื้อรังที่เป็นอยู่แล้ว จะเห็นว่าที่เสียชีวิตที่ไม่มีปอดอักเสบ 30% โดยหากฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มนี้ได้ดี  ก็น่าจะควบคุมการเสียชีวิตได้ โดยกรมควบคุมโรคกำลังคำนวณเป้าหมายลดอัตราเสียชีวิต ซึ่งหากฉีดเข็ม3ผู้สูงอายุได้ถึง 50-60% จะลดการเสียชีวิตได้แบบทวีคูณ

      นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า  กลุ่ม 608 ส่วนใหญ่ไม่ได้ออกไปนอกบ้านมากนัก แต่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีลูกหลานเข้าเยี่ยม สธ.จึงจะดำเนินการ 2 เรื่อง คือ

1.จัดสัปดาห์รณรงค์ฉีดวัคซีนในกลุ่ม 608 หรือSAVE 608 ระหว่างวันที่ 21-30 มี.ค.2565 โดยเฉพาะการฉีดเข็มกระตุ้น รวมถึงเข็ม1-2 ให้ได้มากที่สุด  ซึ่งในกลุ่มผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว  83 % เข็มที่ 2 แล้ว  78.5 % และเข็มที่ 3แล้ว  32 %  จึงจะเน้นหนักในการฉีดเข็ม 3 ที่บางจังหวัดฉีดได้แล้ว 70-80 % แต่บางจังหวัดยังฉีดได้เพียง 20 %  จึงต้องดูศักยภาพการฉีดแต่ละวันของแต่ละจังหวัดด้วย ได้มอบหมายให้รองปลัดสธ.วางเป้าหมายของแต่ละจังหวัด โดยให้ฉีดกลุ่มผู้สูงอายุให้ได้ 70-80 %ของการฉีดในแต่ละวัน

2. self clean up ขอให้ลูกหลานก่อนไปหาผู้สูงอายุราว 1 สัปดาห์ต้องระมัดระวังตัวให้มาก  โดยไม่รวมกลุ่มปาร์ตี้ ไม่ไปที่แออัด ไม่พบปะผู้คนจำนวนมาก  ตรวจATK 1 ครั้งตอนกลับไปบ้าน ทั้งหมดเพื่อลดความเสี่ยงในการนำเชื้อไปแพร่ให้ผู้สูงอายุ