2สัปดาห์โควิด19 ป่วยหนัก-เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า แต่ต่ำกว่าเดลตา 10 เท่า

2สัปดาห์โควิด19 ป่วยหนัก-เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า แต่ต่ำกว่าเดลตา 10 เท่า

สธ.เผยรอบ 2 สัปดาห์โควิด19 ป่วยหนัก-เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า ผลจากยอดติดเชื้อเพิ่ม เทียบช่วงเดลตา ยังต่ำกว่า 10 เท่า  กำชับงดเข้าสถานที่เสี่ยง เลี่ยงการรวมกลุ่มคน และชะลอการเดินทาง กดยอดติดเชื้อให้ต่ำลง หวั่นเพิ่ม 10 เท่าทำคนตายเพิ่ม5-10 เท่า

  เมื่อวันที่  24 ก.พ.2565  ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงสถานการณ์โควิด19  นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า  สถานการณ์โควิด19 แนวโน้มยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยจะพิจารณาจากข้อมูลผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตเป็นตัวเลขสำคัญ ซึ่งแม้ว่าสายพันธุ์โอมิครอนจะแพร่เชื้อได้เร็ว แต่จะมีอาการไม่มาก อย่างไรก็ตาม  การมีผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นก็เพิ่มโอกาสที่จะทำให้กลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรงได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์และยังไม่ได้รับวัคซีน     
        ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มจาก 569 ราย เป็น 905 ราย  เช่นเดียวกับผู้ที่ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 113 ราย เป็น 240 ราย  และผู้เสียชีวิตเพิ่มจาก 20 คน เป็น 38 คน จะเห็นได้ว่ามีการเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทุกส่วน สอดคล้องกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นราว 2 เท่าเช่นกัน ทำให้คนมีเชื้อแต่อาจจะไม่แสดงอาการที่มีอยู่มากในตอนนี้ไปเจอกับกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วอาการรุนแรงมากขึ้นด้วย

    “เมื่อเทียบเคียงการระบาดก่อนหน้ากับตอนนี้ที่ยอดการติดเชื้อใกล้เคียงกัน พบว่า  ปี 2564ที่เป็นเดลตาระบาด ช่วงสัปดาห์ที่ 31ของปีผู้ติดเชื้อ 150,652 ราย ผู้เสียชีวิต 1,823 ราย ปัจจุบันสัปดาห์ที่ 6 ปี 2565 ผู้ติดเชื้อ 118,988 ราย ผู้เสียชีวิต  188 คน  จะเห็นว่าผู้เสียชีวิตต่างกัน 10 เท่า แต่ผู้ติดเชื้อใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม หากจากนี้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น มากกว่า 10 เท่า ก็จะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นได้ 5-10 เท่าเช่นกัน”นพ.จักรรัฐกล่าว 

     นพ.จักรรัฐ กล่าวด้วยว่า  การคาดการณ์ขณะนี้ทำได้ยากเพราะมีผู้ติดเชื้อไม่มีอาการค่อนข้างมากจึงไม่ได้ตรวจATK แต่การระบาดพุ่งขึ้นค่อนข้างชัน คล้ายกับประเทศในสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย ที่พุ่งขึ้นค่อนข่างเร็ว ซึ่งเดิมคาดว่าประเทศไทยจะเกิดขึ้นหลังปีใหม่ แต่มีมาตรการต่างๆที่ทำได้ดี เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆมากขึ้นตั้งแต่ 1 ก.พ.2565  ทำให้ประชาชนอาจจะหลงลืมลดการใส่หน้ากากอนามัยลง เข้าสถานที่เสี่ยงมากขึ้น และมีการเดินทางไปมาแพร่เชื้อไปที่ต่างๆ จึงขอย้ำว่า  ขณะนี้สธ.ยังคงระดับเตือนโควิดที่ระดับ 4 มาตั้งแต่ต้นปี  2565 ขอความร่วมมือประชาชนงดเข้าสถานที่เสี่ยง เลี่ยงการรวมกลุ่มคน และชะลอการเดินทาง  ไม่ให้ผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเร็ว สร้างความปลอดภัยให้กลุ่มเสี่ยงมากขึ้น